วันนี้ (5 เมษายน 2567) นายเนติวิทย์ โชติภัทร์ไพศาล (นักกิจกรรมและนักเคลื่อนไหว) ได้ออกมาแถลงการณ์เรื่อง ต่อต้านการเกณฑ์ทหาร ผ่านช่องทางทวิตเตอร์หรือ X โดยมีเนื้อหาสาระสำคัญว่า
ตนได้ประกาศจุดยืนตั้งแต่หลังการทำรัฐประหาร 2557 ว่าจะไม่เข้าร่วมการตรวจเลือกเกณฑ์ทหาร เพราะมองว่าการกระทำดังกล่าวขัดกับสิทธิมนุษยชน และแม้เวลาจะผ่านมา 10 ปีแล้วตนก็ยังยืนยันในความเชื่อเดิมอยู่
นอกจากนี้การเกณฑ์ทหารไม่ได้นำมาซึ่งความเสมอภาค หลาย ๆ คนไม่ได้ต้องการเป็นทหารจึงต้องเลือกเรียนรักษาดินแดน (รด.), รับราชการ, บวชเรียน ทั้งหมดนี้ทำไปเพื่อต้องการหลีกเหลี่ยงการเกณฑ์ทหาร และระบบการบังคับทำให้บางคนต้องเข้าไปรับราชการทหารด้วยความไม่เต็มใจ และด้วยเหตุผลนี้ ตนจึงขอประกาศทำ ‘อารยะขัดขืน’ ด้วยการไม่เข้าร่วมการเกณฑ์ทหารแม้ว่าจะเป็นกังวลกับผลทางกฏหมายที่จะตามมาอยู่เล็กน้อย แต่ก็พร้อมที่จะสู้ในกระบวนการยุติธรรมต่อไป และจะไม่หลบหนีไปไหน

ทั้งนี้โทษของการ ‘หนีทหาร’ ในประเทศไทยปัจจุบัน จะมีความผิดทางอาญา และมีอายุความยาวนานถึง 10 ปี และจะถูกบวกเพิ่มโทษจำคุกทหารอีก 5 ปี หากกระทำความผิดในคดีอื่น ๆ นอกจากนี้ยังไม่สามารถทำเอกสารใด ๆ เกี่ยวกับทางราษฏร์ได้อีกเลย และจะถูกจำกัดสิทธิขั้นพื้นฐานต่าง ๆ ในประเทศ เช่น สิทธิการเลือกตั้ง, สิทธิในเอกสารสำคัญต่าง ๆ เป็นต้น
ทั้งนี้ ข้อมูลจากทาง VOICE TV ได้เปิดเผยว่า ยอดการสมัครทหารออนไลน์ในปีนี้อยู่ที่ 20,065 คน จากยอดที่ต้องการทั้งหมด 85,000 ราย และความต้องการพลทหารย้อนหลัง ตั้งแต่ปี 2564-2567 มีรายละเอียดดังนี้
- ปี 2564 ต้องการทหารเกณฑ์ 97,558 ราย
- ปี 2565 ต้องการทหารเกณฑ์ 58,330 ราย
- ปี 2566 ต้องการทหารเกณฑ์ 93,000 ราย
- ปี 2567 ต้องการทหารเกณฑ์ 85,000 ราย
โดยทางรัฐบาลเพื่อไทยได้ตั้งเป้า 3 ระยะ เพื่อนำไปสู่การสมัครใจเป็นทหาร 100% นอกจากนี้ยังมีสถิติที่น่าสนใจจาก ‘ประชาไท’ ที่ได้พยายามรวบรวมข่าวการเสียชีวิตของพลทหารใหม่ในค่ายทหารตั้งแต่ช่วงปี 2552 – 2566 ปรากฏว่ามีทั้งหมดประมาณ 20 ราย โดยสาเหตุมีตั้งแต่การเสียชีวิตด้วยโรคประจำตัวไปจนถึงการถูกทำร้ายร่างกายจากทหารรุ่นพี่
อย่างไรก็ดี ประเด็นเรื่อง ‘การเกณฑ์ทหาร’ ในสังคมไทยจะเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางไหน และรัฐบาลเพื่อไทยจะสามารถนำไปสู่จุดที่ทหารเกณฑ์สมัครใจ 100 เปอร์เซนต์ได้หรือไม่ อาจจะต้องจับตาดูกันต่อไป