ในห้วงเวลาที่พื้นที่สื่อมีมากมาย ช่องทางการเผยแพร่คอนเทนต์มีอยู่เพียบ สิ่งหนึ่งที่เป็นสื่อกระแสหลักของสายธารคอนเทนต์ประเภทละครและซีรีส์ยุคนี้เลยคงหนีไม่พ้น ‘ซีรีย์วาย’ หรือเนื้อหาที่ตัวเอกมีพระเอก และศัพท์ใหม่ที่เข้ามาแทนที่นางเอกอย่างเป็นทางการว่า ‘นายเอก’ ซึ่งสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับอุตสาหกรรมสื่อบันเทิงในประเทศไทยมานานเป็นหลักสิบปีได้แล้ว สร้างเม็ดเงินเข้าประเทศได้มากมาย อีกทั้งยังทำให้นักแสดงหลายคนมีชื่อเสียงได้จนถึงปัจจุบัน
หากย้อนกลับไปในช่วง 10 ปีที่แล้ว หน้าตาของ ‘ซีรีย์วาย’ อาจจะเป็นสิ่งที่ผู้คนส่วนใหญ่ยังมองภาพไม่ออก แต่ก็มีซีรีส์เรื่องหนึ่งที่ฉายทางช่อง 9 ช่วงเวลาใกล้ ๆ กับละครหลังข่าวในวันเสาร์และอาทิตย์ ซึ่งหากใครที่เคยเปิดเจอซีรีส์เรื่องนี้ จะด้วยความตั้งใจหรือไม่ตั้งใจก็ตาม เราอยากบอกให้คุณรู้ว่าซีรีส์วัยรุ่นกางเกงน้ำเงินเรื่องนี้นี่แหละ ที่เป็นประตูบานใหญ่คอยเปิดให้คนไทยเห็นว่าหน้าตาของซีรีส์วายเป็นอย่างไร และบางคนก็ก้าวข้ามผ่านประตูบานนี้ไปเจอโลกใหม่ที่ไม่เคยเจอมาก่อนก็มี
SUM UP ขอพาคุณเดินกลับเส้นทางนี้ไปหาบานประตูบานนั้น, บานแห่งวัยหนุ่มสาว และวัยแรกรุ่นที่น่าจะเป็นจุดเริ่มต้นการก้าวสู่ ‘สาววาย’ ของใครหลายคนที่ชื่อ ‘LoveSick The Series’ กัน
แนะนำ ‘LoveSick The Series’ กันอย่างคร่าว ๆ
‘LoveSick The Series’ หรือชื่อไทยว่า ‘รักวุ่น วัยรุ่นแสบ’ เป็นซีรีส์วัยรุ่นแนว Coming of Age สร้างขึ้นจาก 1 ใน 3 นิยายวายออนไลน์บนเว็บไซต์ Dek-D ของนักเขียนที่ใช้นามปากกาว่า ‘[INDRYTIMES]’ และ ‘เห็ด’ ชื่อเรื่อง ‘LOVE SICK : ชุลมุนหนุ่มกางเกงน้ำเงิน [YAOI]’ เขียนขึ้นด้วยความยาว 64 ตอนจบ ใช้เวลาเขียนตั้งแต่ปี 2551 – 2553 หรือราว 2 ปี ก่อนจะถูกนำมาสร้างเป็นซีรีส์ความยาว 1 ชั่วโมง ใน 2 Season เมื่อปี 2557 (12 ตอนจบ) และ 2558 (36 ตอนจบ) ตามลำดับ ออกอากาศทางช่อง 9 MCOT HD
เนื้อหาซีรีส์ว่าด้วยตัวละครแกน 4 คู่ โดยมีคู่หลักคือ ‘โน่’ (รับบทโดย กัปตัน – ชลธร คงยิ่งยง) ประธานชมรมดนตรี และ ‘ปุณณ์’ (รับบทโดย ไวท์ – ณวัชร์ พุ่มโพธิ์งาม) เลขาสภานักเรียนที่ต้องจับพลัดจับผลูมาเป็นแฟนกัน
คู่ถัดมาคือ ‘จี๊ด’ (รับบทโดย เกล – นันญ์จีรา สิริปิยะโภคิน) สมาชิกชมรมเต้น และ ‘คม’ (รับบทโดย ปลื้ม – นนทพัทธ์ ชื่นวาริน) สมาชิกชมรมว่ายน้ำที่รักกันจนความหวานของพวกเขาทำให้ทุกคนอิจฉา แต่เรื่องราวความรักของพวกเขาก็มีอะไรซ่อนอยู่
คู่รองสุดท้ายคือ ‘แตงโม’ (รับบทโดย ปลายฟ้า – ศิตา มหารวิเดชากร) เด็กสาวจากโรงเรียนคอนแวนต์ และ ‘โมน’ (รับบทโดย มาร์ค – พชรวัฒน์ ว่องทศวัสดิ์) เด็กหนุ่มจากอาชีวะที่ใช้ชีวิตด้วยกันฉันสามีภรรยาแบบที่พ่อแม่ไม่รู้
ส่วนคู่สุดท้ายที่เด็กสุดคือ ‘แป้ง’ (รับบทโดย เพื่อน – วีรกานต์ ภูวภิรมย์ขวัญ) น้องสาวของปุณณ์ผู้เป็นสาววาย และ ‘ป๊อบ’ (รับบทโดย นิว – อัศวพัทธ์ อัศวธีรากุล) กับ ‘เช’ (รับบทโดย เท็ก – สิริเกียรติ แซ่เจี่ย) เพื่อนที่โรงเรียนพิเศษสำหรับสอนการแสดงแห่งหนึ่งที่ถูกแป้งจับจิ้นกัน และเมื่อป๊อบกับเชกำลังจะมีแฟนเป็นผู้หญิง แป้งและผองเพื่อนของเธอก็จะดำเนินภารกิจทำให้คู่ชาย – หญิงต้องล้มเลิก และกลับมาเป็นคู่ชาย- ชาย เหมือนใจเธอให้ได้
เรื่องราวของ ‘LoveSick The Series’ เป็นอย่างไร
เรื่องราวแกนหลักในการเป็นนิยายวาย ถูกชูให้ตัวละคร ‘ปุณณ์-โน่’ เป็นแกนหลักของเรื่องเสียส่วนใหญ่ โดยเหตุการณ์เบื้องต้นทั้งหมดของคู่นี้เริ่มต้นจากโน่ ประธานชมรมดนตรีของโรงเรียนชายล้วนฟรายเดย์ คอลเลจ ที่เขียนของบซื้อกลองชุดกับทางโรงเรียนไป 35,000 บาท แต่พบว่างบโดนตัดเหลือ 5,000 จึงรีบวิ่งแจ้นมายังห้องสภานักเรียนเพื่อหวังจะพบกับ ‘ฟี่’ (รับบทโดย บาส – พีรณัฐ พีระธนะกุล) ประธานสภานักเรียนเพื่อสอบถามความจริง
แต่เมื่อโน่วิ่งไปถึงที่นั่น เขาพบเพียงแค่ปุณณ์ เพื่อนและเลขาสภานักเรียน เขาจึงลองสอบถาม แล้วให้ปุณณ์เปิดเอกสารดูข้อมูล ก็พบว่าจริง ๆ แล้วไม่ได้โดนตัดงบ แต่ในวันประเมินงบประมาณประจำปีของแต่ละชมรม โน่ดันส่งตัวแทนมาเป็นรุ่นน้อง ม.4 ที่ไม่มีอำนาจต่อรองในองค์ประชุม งบจึงโดนหั่นไปยังชมรมวรรณศิลป์แทน โน่หัวเสียและต้องการหาวิธีแก้ปัญหา
“ผมมีอีกวิธีหนึ่ง” ปุณณ์พูดสวนในขณะที่โน่กำลังกระวนกระวาย จนโน่พุ่งตัวเข้ามาฟังข้อเสนอนั้น และบอกว่ายอมทำทุกอย่าง แม้กระทั่งแย่งขนมเด็ก เตะหมา ตบเหม่งอธิการบดี แต่ข้อเสนอของปุณณ์ไม่ใช่สิ่งนั้น
“โน่.. เป็นแฟนผมดิ” ปุณณ์พูดอย่างกระอักกระอ่วนกับข้อเสนอตัวเอง ถึงขนาดโน่เองยังสบถคำหยาบที่ออกเสียงไม่ได้เพราะอยู่ในช่องฟรีทีวี ทีมตัดต่อก็เอาเพลงมาสอดทับแทน (อยากรู้ว่าเป็นคำไหน ลองเลื่อนหาดูได้ใน Season 1 ตอนที่ 1 ช่วงนาทีที่ 39 เป็นต้นไป)
จนในตอนที่ 2 เหตุผลของข้อเสนอสุดงงก็คลี่คลาย เพราะโน่ถึงขนาดขับรถไปหาปุณณ์ที่บ้านในคืนวันเดียวกันเพราะอยากฟังเหตุผล จนได้รู้ว่าพ่อของปุณณ์กำลังอยากให้ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของเขาคบกับลูกสาวของเพื่อนตัวเอง แต่ปุณณ์ไม่ชอบ เพราะเขามี ‘เอม’ (รับบทโดย พริม – พริมโรส จินดาวนิช) แฟนสาวจากโรงเรียนคอนแวนต์อยู่แล้ว เขาจึงอยากแกล้งเป็นเกย์ไปเลย เพื่อให้ ‘แป้ง’ น้องสาววัย ม.2 ของตัวเองที่เข้าหาพ่อได้มากกว่าช่วยคุยให้ เพราะเขาเชื่อว่าความเป็น ‘สาววาย’ ของน้องสาวตัวเองจะช่วยแก้ปัญหาเรื่องนี้ได้
แม้โน่จะบ่ายเบี่ยงและยึกยักกับข้อเสนอนี้อยู่นาน แต่ทันใดนั้นแป้งก็เดินออกมาจากในบ้านพอดี ทำให้ภารกิจการปลอมตัวเป็นแฟนกันของทั้งคู่เริ่มต้นตั้งแต่ตอนนั้นนั่นเอง
‘ซีรีส์วาย’ ที่สะท้อนภาพของ ‘สาววาย’ และ ‘กลุ่มเพศหลากหลาย’ เมื่อ 10 ปีที่แล้ว
‘LoveSick The Series’ วางโครงเหตุผลการรักกันของสองตัวละครนี้ให้เกิดขึ้นด้วยความไม่ตั้งใจ ซึ่งเต็มไปด้วยการนำเสนอที่ใส่ความเป็น ‘ชายแท้’ ลงไปในตัวละครชายในเรื่องพอสมควร จากทั้งกิริยาอาการของโน่หลังจากได้ฟังข้อเสนออย่างที่กล่าวไป รวมถึงฉากการขับมอเตอร์ไซค์มาฟังคำอธิบายหน้าบ้านปุณณ์ของโน่ในตอนที่ 2 ที่เมื่อได้ฟังการที่ปุณณ์ขอให้โน่เป็นแฟนอีกครั้ง เขาถึงกับเดินถอยออกห่าง พอปุณณ์จะแตะตัวก็บอก “อย่ามาโดนกูนะเว่ย” แม้แต่จะจับรถก็บอกให้เอามือออกไป
แม้แต่ตัวละครปุณณ์เอง ที่ยื่นข้อเสนอในการยอมเป็นเกย์ ที่แท้จริงก็เพื่อใช้เป็นข้ออ้างในการได้เป็นแฟนกับผู้หญิงที่ตัวเองรักต่อ และการใช้ความเป็นเกย์นี้แก้ปัญหายังสะท้อนแนวคิดของการเป็นสาววายของน้องสาวอย่างแป้ง ที่มี Dialog หนึ่งของปุณณ์กล่าวไว้ว่า
“แป้งอะ ตั้งแต่ขึ้น ม.2 มาก็เปลี่ยนไป ในห้องมีแต่การ์ตูนเต็มห้อง”
“แปลกตรงไหนวะ ตอนเรา ม.2 ก็อ่านแต่การ์ตูน”
“แต่มันไม่ใช่การ์ตูนแบบที่เราอ่านสิโน่”
แล้วซีนประกอบก็เป็นการบุกเข้าห้องส่วนตัวของน้องสาวเพื่อไปไล่ดูการ์ตูนวายที่วางอยู่บนชั้น แล้วก็หันกล้องไปหาโปสเตอร์การ์ตูนวายที่ติดอยู่ข้างกัน ซึ่งเสนอแนวคิดความไม่เข้าใจ และมองความชอบแบบ ‘สาววาย’ ว่าเป็นความแปลกของสังคมเพศชายที่มองไปยังเพศหญิง
ถัดจากนั้นไม่นาน เรื่องราวก็พาเราไปดูอากัปกิริยาของแป้งเมื่อได้ดูภาพข่าวของชายรักชายบนหน้าจอทีวีในเรื่อง แป้งกรี๊ดฟินจิกหมอนขาดเหมือนอย่างที่คนดูซีรีส์เรื่องนี้อินไม่มีผิดเพี้ยน จนปุณณ์ที่นั่งอยู่ข้าง ๆ ถึงกับถามว่า
“นั่นมันผู้ชายทั้งคู่ไม่ใช่หรือแป้ง”
“ก็เป็นผู้ชายทั้งคู่ไง แป้งถึงได้กรี๊ด” แป้งถอนหายใจก่อนตอบความสงสัยของพี่ชาย
จุดนี้ก็เป็นอีกจุดหนึ่งที่เนื้อหานำเสนอถึงความชอบของความเป็นสาววายในยุคนั้น เพื่อทำให้คนที่อาจไม่เข้าใจสิ่งนี้ได้เข้าใจกันแบบง่าย ๆ
หลังจากวางปมนี้ให้เป็นปมใหญ่ของเรื่อง ‘ปุณณ์-โน่’ ก็พาเราไปทำความรู้จักชีวิตของนักเรียนโรงเรียนชายล้วนหลากหลายแง่มุมทั้งในรั้วและนอกรั้ว พร้อมทั้งยังนำเสนอช่วงเวลาของการปลอมตัวเป็นคู่รัก ที่ทำให้จากเพื่อนผู้ชายแมน ๆ สองคนได้ใช้เวลาอยู่ด้วยกันมากขึ้น สำรวจความสัมพันธ์ผ่านเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่ทำให้เกิดความห่างไกล ทั้งจากการที่พวกเขาและแฟนของตัวเองทั้งสองคนอย่าง ‘เอม’ แฟนของปุณณ์ และ ‘ยูริ’ (รับบทโดย พายอาร์ – พัณณิน ชาญมนูญ) แฟนของโน่ต่างต้องใช้เวลาอยู่ด้วยกัน และทำให้เกิดความสับสนในตัวเองจากความใกล้ชิด หรือซีนจิ้นที่ทำให้เรือแล่นของทั้งปุณณ์และโน่ ซึ่งส่งผลให้พวกเขาทั้งคู่ต่างรู้สึกแล้วว่านี่ไม่ใช่แค่การแกล้งเพื่อปลอมตัวว่ารักกัน แต่อาจจะเป็นความรู้สึกดี ๆ ที่กำลังก่อตัวให้พวกเขารักกันจริง ๆ ก็เป็นได้
เสียงตอบรับจากผู้ชมที่ถล่มทลาย
‘คุณราชิต กุศลคูณสิริ’ ผู้กำกับและเขียนบท LoveSick The Series Season 1 กล่าวถึงผลตอบรับจากผู้ชมในรายการ Divas Cafe เมื่อวันที่ 22 สิงหาคม 2557 ว่า เสียงตอบรับส่วนใหญ่บนโลกออนไลน์ในแง่ลบเกี่ยวกับความรักแบบชายรักชายนั้นถือว่ามีน้อยมากเมื่อเทียบกับเสียงตอบรับจากผู้ชมในแง่บวก หากเทียบกันอาจจะเป็นแง่ลบเพียง 10% เท่านั้น
ส่วนหนึ่งเขามองว่าเหตุผลอาจเป็นเพราะเสียงตอบรับแง่ลบทั้ง 10% ในยุคนั้น มองในเรื่องของความหวาดหวั่นของคนรุ่น Baby Boomer หรือ Gen X ที่มีต่อพฤติกรรมการลอกเลียนแบบจากสื่อในเรื่องการรักเพศเดียวกัน ส่วนที่แง่บวกมีถึง 90% ก็อาจจะมาจากการที่ซีรีส์เรื่องนี้เน้นการนำเสนอความรักแบบแง่บวก สวยงาม น่ารัก สดใสแบบวัยรุ่นเป็นไอเดียหลัก ทำให้เนื้อหาเบา ๆ แบบนี้ได้รับเสียงตอบรับที่ดีจากคนดู
“เราคิดว่าการลอกเลียนแบบในเรื่องความรักมันน่าจะไม่ผิด คือถ้าเขารักใครสักคน มันจะเป็นความรักที่สวยงาม ไม่ว่าจะผู้หญิงหรือผู้ชาย” ราชิตย้ำแนวคิดของเขาในรายการ
นอกจากภาพลักษณ์ด้านบวกที่ซีรีส์เลือกนำเสนอแล้ว สุดท้ายการเลือกหยิบนิยายวายออนไลน์เรื่องนี้ที่มีผู้อ่านติดตามมากมายเป็นทุนเดิมมาสร้างให้เป็น Live Action ก็ช่วยให้ผู้อ่านกลายร่างเป็นผู้ชม และแฟนตัวยงของเรื่องไปได้ด้วยแบบไร้ข้อกังขา แม้จะมีคอมเมนต์หลาย ๆ ส่วนที่ตำหนิเรื่องความมือใหม่ของทั้งนักแสดงและผู้สร้างสรรค์ ที่ทำให้บาง Scene บาง Dialog ออกจะแข็งไปเสียหน่อย แต่ก็ต้องยอมรับว่ากระแสคู่จิ้น ‘ปุณณ์-โน่’ มาแรงจริง ๆ ในยุคนั้น และทำให้พวกเขาทั้งสองคนโด่งดังเป็นพลุแตกทั้งในประเทศและต่างประเทศ
ทั้งงานโชว์ตัว รายการสัมภาษณ์สด สัมภาษณ์ลงนิตยสาร งานถ่ายแบบ งานแสดง กรูกันเข้ามาหาพวกเขาไม่ขาดสาย รวมถึงงาน Meet & Greet ที่จัดขึ้นค่อนข้างถี่ภายในระยะเวลา 2 ปีที่ซีรีส์นี้กำลังออกอากาศและเป็นกระแสอยู่ในช่วงนั้น รวมถึงสิ่งประกอบสร้างซีรีส์อย่างเพลง ‘สั่น (Shake)’ ร้องโดย บอย – สมภพ โภคพูล ที่บอกเล่าความสับสนภายใต้ความอ้างว้างภายในใจที่ไร้คำตอบแน่ชัด ว่าเพราะอะไรกันที่ทำให้ใจสั่นขนาดนี้ ก็เป็นอีกเพลงที่สะท้อนความเป็นวัยรุ่นยุคนั้นได้เป็นอย่างดีทั้งเนื้อร้องและท่วงทำนอง ซึ่งก็เป็นเพลงประกอบซีรีส์ที่ไม่ว่าใครที่ติดตามจะต้องร้องตามได้อย่างแน่นอน
และงานเลี้ยงก็ย่อมมีวันเลิกรา เมื่อทางต้นสังกัดจัดคอนเสิร์ต ‘LoveSick Love Actually Meet & Greet Festival’ ขึ้นในวันที่ 12 ธันวาคม 2558 ที่ BCC Hall เซ็นทรัลพลาซ่า ลาดพร้าว หรือประมาณ 2 เดือนหลังจากซีรีส์ Season 2 จบลง เพื่อเป็นการขีดเส้นใต้ตัวหนา ๆ ว่านี่จะเป็นการปิดตำนานความรักวุ่น ๆ ของวัยรุ่นกางเกงน้ำเงินโดยสมบูรณ์
การกลับมาอีกครั้งในปีที่ 10 ที่แฟน ๆ ต่างจับตา ‘LoveSick 2024’
แต่ก็ใช่ว่าตำนานจะมีได้บทเดียว เพราะตำนานบทใหม่กำลังจะเกิดขึ้นในเดือนกันยายนที่จะถึงนี้ กับ ‘LoveSick 2024’ ซีรีส์ชุดใหม่ที่จะขยายเรื่องราวบางส่วนที่ไม่ถูกเล่าในเนื้อหาซีรีส์ชุดเดิมเมื่อ 10 ปีที่แล้ว พร้อมทั้งสอดแทรกความสดใหม่จากทัพนักแสดงเซตใหม่ที่ผ่านการคัดเลือกมาเป็นอย่างดีกว่า 27 ชีวิต โดยได้ ‘แอลม่อน – ภูมิสุวรรณ สุวรรณสถิตย์’ มารับบทเป็นปุณณ์ และ ‘โปรเกรส – ภาสวิชญ์ ธรรมสังคีติ’ มารับบทเป็นโน่
ซึ่งทีมผู้สร้างสรรค์ซีรีส์รีเมคในครั้งนี้คือ ‘Tia51 (Thank in Advance 51)’ ค่ายผู้ผลิตที่เพิ่งมีซีรีส์เรื่องแรกอย่าง My Universe the Series รักเราเท่าจักรวาล ทาง Amarin TV HD 34 ไปเมื่อช่วงปลายปีที่แล้ว จนถึงต้นปีที่ผ่านมา และ ‘LoveSick 2024’ กำลังจะกลายเป็นผลงานที่สองซึ่งผู้คนต่างรอคอยการกลับมาครั้งนี้ว่าจะเป็นอย่างไร จะทำออกมาได้ดีแค่ไหน และจะยังคงความรักอบอุ่นแบบเดิม ๆ อย่างที่เคยเป็นมาไว้ได้มากน้อยเพียงใด
ในช่วงเวลาที่ผ่านมาก็มีการสร้างสรรค์เนื้อหาน้ำจิ้มออกมามากมาย ทั้งการนำนักแสดงมาทำคอนเทนต์ Vlog บ้าง เอามาลงสนามเล่นกีฬาแข่งกันบ้าง หรือออกโชว์ตัวในวันฉลองครบรอบ 10 ปี ‘LoveSick The Series’ เวอร์ชันแรกที่เพิ่งจัดไปเมื่อวันที่ 6 กรกฎาคมที่ผ่านมา ซึ่งก็ทำให้แฟน ๆ ชุดเดิมได้เห็นหน้าค่าตานักแสดงเซตใหม่ที่จะมารับบทที่พวกเขารัก
พร้อมทั้งมีการปล่อยเพลงที่ทุกคนคิดถึงอย่าง ‘สั่น (Shake)’ ในเวอร์ชัน 2024 ที่ได้นักแสดงหลักหลาย ๆ คนมาร่วมร้องเรียกน้ำย่อยคนดูอีกด้วย ซึ่งใน MV เพลงนี้ก็ทำให้ผู้ชมได้เห็นการแสดงแบบคร่าว ๆ ของนักแสดงทั้งหมดที่เริ่มสวมบทบาทของตัวละครแล้วบ้างในบางแง่มุม แต่ที่สำคัญที่สุดคงหนีไม่พ้นการที่เพลงนี้กลับมาอีกครั้ง และทำให้แฟน ๆ ทุกคนหวนนึกถึงวันวานครั้งยังเป็นสาววายแรกรุ่น ที่อาจจะยังใช้ชีวิตอยู่ในรั้วโรงเรียนไม่ต่างจากปุณณ์ โน่ และตัวละครอื่น ๆ อาจพบเจอประสบการณ์ความรัก หรือรูปแบบการใช้ชีวิตในโรงเรียนที่คล้ายคลึงกัน
ทั้งหมดนั้นน่าจะทำให้การกลับมาของ ‘LoveSick 2024’ เป็นไทม์แมชชีนอันทรงพลังของผู้คนที่รักสิ่งนี้เข้าเต็มเปาเมื่อ 10 ปีที่แล้ว และอาจจะรักมันอีกครั้งในกลิ่นอายของยุคสมัย และการตีความที่แตกต่างออกไป แต่สุดท้ายเราเชื่อเหลือเกินว่าสิ่งที่ทรงคุณค่าที่สุดของซีรีส์ครั้งนี้คือการที่มันจะหยิบเอาความทรงจำอันหอมหวานที่อาจจะถูกเก็บไว้ยังลิ้นชักชั้นในสุดของจุดเริ่มต้นการเป็นสาววายของคุณ ให้กลับมาสดใส และเบิกบานอีกครั้งได้อย่างแน่นอน
ที่มา
- https://th.wikipedia.org/wiki/รักวุ่น_วัยรุ่นแสบ
- https://www.youtube.com/watch?v=3Hrtd_c5PmE
- https://writer.dek-d.com/hedfuc/writer/view.php?id=436675