วันนี้ (10 เมษายน 2567) ตั้งแต่เวลาประมาณ 12.00 น. ได้มีการจัดกิจกรรมร่วมรำลึกถึงคนเสื้อแดงที่เสียชีวิตจากการถูกสลายการชุมนุมในปี 2553 ที่ปีนี้เป็นการครบรอบการสูญเสียเข้าปีที่ 14 โดยกิจกรรมถูกจัดขึ้น ณ อนุสรณ์สถาน 14 ตุลา (สี่แยกคอกวัว)
บรรยากาศภายในงานเต็มไปด้วยญาติผู้เสียชีวิต และบรรดากลุ่มคนเสื้อแดงมาเข้าร่วมกิจกรรม โดยในกิจกรรมประกอบไปด้วย พระสงฆ์มาสวดอุทิศส่วนกุศลให้กับผู้เสียชีวิต, กิจกรรมวางพวงหรีดจากพรรคการเมือง เช่น พรรคเพื่อไทย และกลุ่มต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง, นอกจากนี้ยังมีการทวงถามหาความยุติธรรมให้กับการสลายการชุมนุมที่ไม่เป็นไปตามหลักการการสลายชุมนุมในปี 2553 รวมถึงมีการกล่าวไว้อาลัยและปาฐกถาสั้นจากตัวแทนญาติวีรชน, อาจารย์, และนักวิชาการ
หากย้อนกลับไปในช่วงเดือนเมษายน ปี 2553 ได้มีการชุมนุมของ ‘คนเสื้อแดง’ หรือกลุ่มที่เรียกตัวเองว่า ‘นปช.’ (แนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ) จากการเรียกร้องให้รัฐบาลของ ‘อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ’ ยุบสภา และเลือกตั้งใหม่ใน โดยมี ‘สุเทพ เทือกสุบรรณ’ เป็นรองนายกฯ และในวันที่ 10 เมษายน 2553 ได้มีภารกิจ ‘ขอคืนพื้นที่’ ตั้งแต่บริเวณสะพานผ่านฟ้าไล่ไปจนถึงสี่แยกคอกวัว ปฏิบัติการเริ่มต้นจากการโปรยแก๊สน้ำตาลงมาจากเฮลิคอปเตอร์ และต่อมาก็มีผู้ชุมนุมเสียชีวิตจากกระสุนจริงประมาณ 27 ศพ ส่วนในฝั่งทหารก็มีผู้เสียชีวิตเช่นกันประมาณ 5 ศพ ซึ่งจากการไต่สวนคดีพบว่า ผู้เสียชีวิตที่มีสาเหตุมาจากกระสุนจากทางฝั่งทหารทั้งสิ้น 7 ศพ
นอกจากนี้การชุมนุมยังคงดำเนินต่อไปเรื่อย ๆ จนกระทั่งช่วงวันที่ 13 – 19 พฤษาคม 2553 ได้มีการสลายการชุมนุมที่รุนแรงมากขึ้น และมีผู้เสียชีวิตจากกระสุนจริงอีกครั้ง โดยความรุนแรงที่สะเทือนขวัญประชาชนมากที่สุดคงจะเป็นการถูกลอบยิง 6 ศพภายในวัดปทุม ซึ่งใน 6 ศพนั้นมีพยาบาลอาสาอยู่ด้วย ทำให้การสลายการชุมนุมปี 2553 กลายเป็นการสลายการชุมนุมที่ละเมิดกฏการสลายการชุมนุมสากล และเป็นเหมือน ‘ฝันร้าย’ ของคนเสื้อแดง นอกจากนี้หนึ่งในญาติผู้เสียชีวิตจากการสลายการชุมนุมช่วงเมษายน 2553 เคยออกมาให้สัมภาษณ์ว่า “นอกจากเงินเยียวยาแล้ว ตนไม่เคยได้รับความเป็นธรรมใด ๆ เลย แม้กระทั่งคำขอโทษจากอดีตนายกอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ตนก็ไม่เคยได้ยิน”
อย่างไรก็ดี บรรยากาศภายในงานเต็มไปด้วยความอึมครึมเนื่องจากฝนตกที่ตกลงมาในช่วงเช้า และประชาชนได้มีการฝากความหวังไว้กับรัฐบาลเพื่อไทย และในวันที่อดีตนายก ‘ทักษิณ ชินวัตร’ ได้กลับบ้านแล้วว่า ให้ช่วยทวงความยุติธรรมให้กับศพของวีรชนผู้เสียชีวิตที่ไม่เคยถูกดันคดีไปถึงศาล และผู้เสียชีวิต และญาติผู้เสียชีวิตไม่เคยได้รับความยุติธรรมเลย แม้ว่าเวลาจะล่วงเลยมาแล้วถึง 14 ปีก็ตาม