ด้วยความบังเอิญแกมตั้งใจของอัลกอริทึ่มจากแอปพลิเคชันฟังเพลงเจ้าหนึ่ง ทำให้เราพบกับเสียงเพลงจาก ‘2021 Ocean Vibes’ ศิลปินที่เราได้ยินเป็นครั้งแรก ก็อดหยิบมือถือขึ้นมาเปิดดูปก Single และชื่อวงเพื่อเซฟชื่อเก็บไว้ไม่ได้เลย เพราะเสียงทำนองเพลงที่ทำถึง และเนื้อเพลงที่แหวกแนวของพวกเขา ทำให้เราไล่ฟัง Single ของเขาจนครบทุกผลงาน

นับตั้งแต่เพลงแรก ‘A Strawberry Night’ (2021) ถึงเพลงใหม่ล่าสุด ‘Actor’ (2024) ที่เพิ่งปล่อยไปเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ทำให้เราเห็นว่าผลงานของพวกเขาล้วนมีเสน่ห์ และพาให้เราอยากรู้จักพวกเขาให้มากยิ่งขึ้น วันนี้เราเลยนัด ‘อาร์ม-พนธกร โชคคุ้มแก้วถาวร’ และ ‘ปืน-คงกระพัน ฟ้าสาร’ สองสมาชิกของวงมาเปิดเผยเรื่องราวของวงจากวันแรก จนถึงวันนี้กัน

‘ปืน-คงกระพัน ฟ้าสาร’ (ซ้าย) และ ‘อาร์ม-พนธกร โชคคุ้มแก้วถาวร’ (ขวา)

จุดเริ่มต้นความสนใจทางด้านดนตรี

อาร์ม : ผมตั้งใจจะเรียนดนตรีตั้งแต่แรกแล้วครับตั้งแต่ช่วง ม.4 ม.5 ตอนนั้นเริ่มเล่นดนตรีเพราะอนิเมะเรื่องหนึ่งคือ K-on! (เค-อง! ก๊วนดนตรีแป๋วแหวว) เป็นการ์ตูนที่เล่าเรื่องเพื่อนผู้หญิงที่เริ่มทำวงดนตรีกัน ผมเลยอยากมีเพื่อน ๆ เล่นดนตรีด้วยกันบ้าง แต่เพิ่งได้มาลงมือทำเพลงเองก็ตอนเป็นโอตะ จริง ๆ ไม่ได้เรียนทางสาขานี้ด้วย แต่ให้เพื่อนช่วยสอนทำครับ (เพลงนั้นชื่อ ‘คิคิ feat. PandaBoyZ (Phukkhom BNK48 original fan song)’ ในนาม justFLUFFY โดยเขารับหน้าที่เป็นผู้เรียบเรียง และโปรดิวเซอร์ของเพลง – ผู้เขียน)

ปืน : ผมเริ่มชอบดนตรีมาจากที่บ้านเคยเปิดผับ ฟังดนตรีมาตั้งแต่เด็ก ๆ เลยอยากเข้าคณะเกี่ยวกับดนตรีตั้งแต่แรกเหมือนกัน ไม่ได้สนใจทางอื่นเลย

ส่วนเรื่องทำเพลงเริ่มทำจริง ๆ มาตั้งแต่วงก่อนหน้าที่จะมาทำ 2021 Ocean Vibes เป็นการได้ลองแต่งเพลงเองแบบจริง ๆ จัง ๆ ครั้งแรก แต่ถ้าย้อนไปเมื่อก่อนเคยแต่งเพลงให้ปู่ฟังเหมือนกัน แล้วก็ชอบแต่งกลอนจีบสาวอยู่แล้ว

อาร์ม : มึงแต่งกลอนไปจีบสาวจริงเหรอ (หัวเราะ) แล้วมีคนที่ชอบมั้ย

ปืน : ไม่มีใครที่ชอบเลยครับ (หัวเราะ) กลอนที่แต่งตอนนั้นยังดูน้ำเน่ากว่าสมัยนี้ด้วยนะ ยุคนี้ดีขึ้นแล้ว

ปกติชอบฟังเพลงแนวไหนกันบ้าง

อาร์ม : ผมชอบฟังเพลงญี่ปุ่นเกือบจะ 100% เลย ถ้า reference เพลงเก่า ๆ ยุค city pop เลยคือ Miki Batsubara แต่เดี๋ยวนี้จะชอบฟัง Yasuko Agawa เขาเป็นนักร้องสาย city pop แต่เน้นไปในแนวทาง jazz ถ้าเป็นของยุคนี้จะชอบ Kirinji กับ Uwanosora ซึ่งอย่างคุณ Kirinji เขาจะดังหน่อย เคยออกช่อง NHK ด้วย

ปืน : ผมกับอาร์มคนละสไตล์กันเลย ผมจะฟังตามพ่อเป็นส่วนใหญ่ พวก Bee Gees, Eric Clapton โตมาหน่อยก็จะชอบฟัง John Mayer แต่ช่วงเรียนมหาวิทยาลัยไปติดฟังเพลงแนว R&B ด้วย อย่าง Jeff Bernat อะไรแบบนี้ ส่วนช่วงนี้ก็จะชอบฟังแนว New jack swing ฟังเพลงของ Bobby Brown แล้วก็เพลงยุค 90 ของฝรั่งพวก Britney Spears ด้วยครับ

อาร์ม : จริง ๆ แนวเพลงของ 2021 Ocean Vibes ผมก็ได้อิทธิพลมาจากพ่อเหมือนกัน อย่างเช่นเพลงดินสอสู่ปากกาที่มีความเป็นเพลงไทยยุคเก่า ๆ หน่อย มี reference เป็นเพลงของพี่ต้อม เรนโบว์, อริสมันต์, คีรีบูน แล้วก็ดิ อินโนเซ้นท์ มันจะมีความผสมผสานกันระหว่างแนวเพลงยุค 80 แบบญี่ปุ่นและไทยอยู่ในวงเรา

ศิลปินไหนเป็นแรงบันดาลใจหลักในการทำวงขึ้นมา

อาร์ม : 1986 Omega Tribe ครับ

มาร่วมงานกันได้ยังไง

อาร์ม : ได้ยังไงวะ (หันหน้าไปถามปืน)

ปืน : อืม.. (นั่งนึก) เหมือนอยู่ดี ๆ ก็กลับมาคุยกันเรื่องอะไรสักอย่าง

อาร์ม : แล้วเหมือนผมก็กำลังทำเพลงใหม่อยู่ก็เลยบอกว่า “เออ มาอัดกีตาร์ให้กูหน่อย” แต่ตอนนั้นยังไม่ได้ทำวงด้วยกันเลย เพลงนั้นคือเพลง ‘A Strawberry Night’ ที่ผมลองทำคนเดียวอยู่

จุดเริ่มต้นของเพลงนี้คืออะไร

อาร์ม : ผมชอบฟัง city pop อยู่แล้ว แต่ยังไม่รู้เลยว่าเพลงแบบนี้เขาทำกันยังไง ตอนนั้นที่ผมสนใจอยากลองทำ ในไทยมีพี่คนหนึ่งเขาชื่อพี่อิคคิว (เผ่าทอง สายเชื้อ) เขาเป็นมือกีต้าร์และนักร้องนำวง ‘Mamakiss’ เขาทำเพลง city pop ดีมาก แล้วผมเป็นเพื่อนใน Facebook กับเขา แต่ไม่ได้รู้จักกันเป็นการส่วนตัว เลยทักข้อความไปบอกเขาว่า “พี่ สอนผมทำหน่อย” แล้วเขาก็สอนผมละเอียดมาก แบบเคี้ยวให้เลย ปกติเขาจะมีแต่ป้อน แต่อันนี้คือย่อยมาให้แล้ว คุยกับเขาแค่แปปเดียวก็ทำเป็นเลย จนช่วงหลัง ๆ ปืนได้ลองไปเรียนกับเขาแล้ว

ปืน : ใช่ ผมเข้าใจเลย เหมือนเขาต่อสายสะดือให้ผมเลย

อาร์ม : เขาสอนผมแบบไม่หวงเลย ถ้าเป็นผม ผมแอบหวงนะ (หัวเราะ) สุดท้ายก็เลยได้ลองทำเพลงแนวนี้ขึ้นมาจริง ๆ

เล่าเส้นทางกว่าจะมาเป็นเพลงแรกให้ฟังหน่อย

อาร์ม : ท่อนฮุคของเพลงนี้เขียนขึ้นได้ตอนผมนั่งอยู่บนรถ รอแฟนเลิกงาน ตอนนั้นผมรับงานสอนอูคูเลเล่อยู่ เลยมีอูคูเลเล่ติดตัวไปบ่อย ๆ นั่ง ๆ อยู่แล้วคิดเนื้อเพลงได้เลยเอามาดีดแล้วอัดเสียงเก็บเอาไว้

เพลงนี้มันมาจากหนังสือเล่มหนึ่งของพี่เบนซ์ ธนชาติ ศิริภัทราชัย ชื่อ ‘The Morning Flight to Sad Francisco’ ในบทที่ 7 ‘An Avocado Night’ เป็นเรื่องประมาณว่าผู้ชายกับผู้หญิงที่อยู่ในกลุ่มเพื่อนกลุ่มเดียวกัน เวลาอยู่ด้วยกันในกลุ่มใหญ่ ๆ ก็เป็นเพื่อนกัน แต่เวลาเจอกันข้างนอกห่าง ๆ ดันเหมือนไม่สนิทกัน

เขาเลยเปรียบเทียบประมาณว่าเหมือนความรู้สึกของตัวเอกกับอะโวคาโดเลย ที่มักจะชอบกินอะโวคาโดถ้ามันไปรวมอยู่กับวัตถุดิบอย่างอื่นในจานอาหาร แต่ถ้ากินอาโวคาโดเปล่า ๆ จะไม่ชอบกิน

ผมอ่านแล้วก็รู้สึกเหมือนความรู้สึกระหว่างผมกับสตอเบอร์รี่ ผมชอบกินสตอเบอร์รี่ที่แปรรูปแล้ว ผมชอบป็อกกี้รสสตอเบอร์รี่ ผมชอบกาแฟที่มี Taste Note กลิ่นสตอเบอร์รี่ แต่สตอเบอรรี่จริง ๆ ผมดันไม่ชอบ เลยออกมาเป็นเนื้อเพลงว่า “ไม่ถึงกับต้องทักทาย ไม่ถึงกับต้องรู้จัก” ก็คือไม่ต้องไปกินสตอเบอร์รี่จริง ๆ  ขอแค่ได้กลิ่นอายของมันก็พอ ซึ่งจริง ๆ เนื้อหามันค่อนข้างส่วนตัวนะ แต่คนก็ชอบกันเยอะครับ

แล้วพาร์ตดนตรีของเพลงนี้ล่ะ

อาร์ม : ถ้าว่ากันด้วยความเป็นเพลงแรก ผมว่ามันยังมีความเป็น city pop น้อยกว่าเพลงอื่น ๆ หน่อย เราลองทำเป็นครั้งแรกด้วย แต่ที่วันนั้นไปขอให้ปืนมาโซโล่ให้แบบ โห มันได้เลย พรสวรรค์

ปืน : พรสวรรค์ครับผม ขอบคุณครับ (หัวเราะ) ในมุมผมยังไม่ได้รู้ทิศทางที่จะไปของเพลงนี้หรือวงนี้ขนาดนั้น รู้แค่ว่าจะทำวง city pop แต่ไม่รู้ว่าจะเป็นแบบไหน เลยมีความครึ่ง ๆ กลาง ๆ อยู่นิดหนึ่ง แต่ข้อดีของมันเลยคือความย่อยง่ายกว่าเพลงอื่น ๆ เพราะพอทิศทางมันชัดขึ้น มันเลยยากขึ้น

อาร์ม : ใช่ คือเพลงของ 2021 Ocean Vibes มันจะมีสิ่งหนึ่งที่พอเกิดขึ้นมาแล้ว มันจะอยู่ไปตลอดเลย คือเพลงมันต้องยาก แต่กับเพลงแรกคอร์ดมันง่าย แล้วก็ไม่ได้ใช้โน้ตที่มันหวือหวาไปตามคอร์ด แต่เพลงอื่นจะมีส่วนยากของมันอยู่ มี Kick ยาก ๆ มีคอร์ดที่ปืนเรียกว่าคอร์ดอภินิหารอยู่ (หัวเราะ) เวลาส่งคอร์ดให้ปืนเขาจะแบบ “เฮ้ย ไออาร์ม มึงทำอะไรของมึงเนี่ย”

ความแข็งแรงของวงมันเริ่มชัดเจนได้ยังไง

อาร์ม : พอได้ทำจริง เราก็เริ่มมีความรู้สึกอยากลงลึกไปอีก อยากให้มันมีความ city pop จริง ๆ ขึ้นไปเรื่อย ๆ ก็เลยฟังเยอะขึ้น ทำการบ้านเยอะขึ้นเพื่อให้ได้ผลลัพธ์นั้น

ผมลงลึกจนคิดไปถึงว่าเขาคิดอะไรกันอยู่ เครื่องดนตรีที่ใช้เป็นแบบไหน แต่งตัวแบบไหน ซึ่งจริง ๆ ตอนนี้ผมก็ยังแต่งไม่ได้ มันคิดไปถึงตรงนั้นว่าต้องทำยังไงให้มันใกล้ความเป็นสิ่งนี้มากที่สุด ตอนนี้เองก็ยังไม่ได้ประสบความเสร็จขนาดนั้น ยังพยายามลงลึกเข้าไปเรื่อย ๆ เหมือนกัน

ปืน : มันมีความอยากลองใช้ Instrument แบบในยุคนั้นบ้าง ก็ไปหามาลองใช้ในเพลงเพิ่มขึ้น บางซาวน์กีตาร์ก็เพิ่งมารู้หลัง ๆ ว่าเขาใช้แนวทางแบบนี้นะในยุคก่อน ทีแรกเราก็ทำแต่ในแบบที่ตัวเองชอบ แต่หลัง ๆ พอเราฟังเพลง city pop มากขึ้น หรือว่าฟังเพลงฝรั่งยุค 80 เราก็เริ่มจับแนวทางของซาวน์กีตาร์ได้มากขึ้น

อาร์ม : อย่างปืนเขาจะชอบฟังตะวันตก ผมจะเน้นแค่เพลงยุค 80 ของญี่ปุ่นกับไทย เวลาทำงานด้วยกันเลยเอามาเบลนด์กันได้ หรืออย่างความยากในเพลงของศิลปินญี่ปุ่นยุคนี้เองผมก็เอามาผสมผสานด้วยเหมือนกัน เพราะคิดว่าเขาก็คนญี่ปุ่นเหมือนกัน เขาก็คงจะมีแนวทางของการทำเพลงประมาณนี้แหละมั้ง อะไรแบบนี้ครับ

นิยามของเพลง City pop ในมุมมองทั้งสองคนเป็นแบบไหน

ปืน : สำหรับผมรู้สึกว่ามันก็เหมือนเพลงป๊อปบ้านเราแหละ แต่นั่นคือเพลงป๊อปยุคนั้น คนสมัยนั้นฟังแบบนั้น ถ้าสมมติว่าอีก 30 ปีข้างหน้าศิลปินมาทำเพลงตามยุค 2024 เพลงแนวนั้นก็อาจจะเป็น city pop ของยุคนั้นก็ได้

อาร์ม : ฟีลเหมือนเรามอง Y2K ที่มันกำลังย้อนกลับมามั้ย

ปืน : ใช่ ผมว่ายุคนั้นเหมือนใช้อิทธิพลของฝรั่งกันเยอะ ซาวน์มันเลยออกมามีความเป็นญี่ปุ่น-ฝรั่ง ซึ่งมันเท่มากสำหรับผม มันเป็นยุคที่คนญี่ปุ่นดูไฟแรงมากในการทำดนตรี

อาร์ม : แบรนด์เครื่องดนตรีมันก็แบรนด์ญี่ปุ่นเนอะ

ปืน : ใช่ มีความอยากทำเหมือนฝรั่งนะ แต่ตัวก็มีความอนุรักษ์นิยมอยู่ ก็เลยออกมาเป็น city pop อย่างที่เป็นเอกลักษณ์ในแบบของเขา

อาร์ม : เหมือนช่วงนั้นทหารจากอเมริกาเข้ามาอยู่ในญี่ปุ่นกันเยอะ ก่อนหน้าที่ city pop จะเกิด เพลง jazz มันก็เข้ามาในญี่ปุ่นหนักมาก พอเวลาผ่านไปเพลง jazz ก็เข้ามาผสมผสานกับ city pop อีก มันเลยกลายเป็นแนวเพลงที่ยากขึ้นไปอีก ผมรู้สึกว่าเพลงป๊อปยุค 80 ของฝรั่งยังดูไม่ยากเท่าของญี่ปุ่นเลย

ปืน : แนวทางของฝรั่งคอร์ดมันจะน้อย ฟังง่ายกว่า ถ้าไม่นับพวก fusion jazz นะครับ นับแค่เพลงป๊อปอย่างเดียว

อาร์ม : มีช่วงหนึ่งผมอ่านหนังสือของ Haruki Murakami บางเล่มมันก็เป็นช่วง 80s ผมก็เพิ่งรู้ว่าคนเท่ ๆ เขาน่าจะไม่ค่อยฟังเพลงแนว city pop กันนะยุคนั้น เพราะมันก็คือเพลงป็อป เพลงตลาดไปเลย แต่ในยุคนี้มันกลายเป็นความ nostalgia ฟังแล้วมันย้อนยุค คิดถึงอดีตแม้ในช่วงเวลาที่เราเกิดไม่ทัน ซึ่งมันเป็นไปได้ยังไงก็ไม่รู้

มีสัมภาษณ์หนึ่งเรานิยามวงตัวเองว่าเป็น “Wanna be city pop.” ขยายความเรื่องนี้ให้เราฟังหน่อ

อาร์ม : คือเราไม่สามารถทำให้มันเป็น city pop แท้ได้ครับ เพราะเราก็เพิ่งจะมาทำยุคนี้ เครื่องดนตรีเอย หรืออะไรก็ตาม แนวคิดทั้งหมดมันจะเป็นไปตามยุคนั้นแบบเป๊ะ ๆ ไม่ได้เลย เราก็แค่เป็นคนที่พยายามอยากจะเป็นให้เหมือนสิ่งนี้มากที่สุด

อย่างการแต่งเนื้อร้องแบบ city pop ผมรู้สึกว่ามันต้องใส่เนื้อร้องภาษาอังกฤษเข้าไปในเพลงด้วย ร้องแบบไทยคำอังกฤษคำ แล้วบางคำมันจะต้องเชย ๆ หน่อย ผมเพิ่งเจอมาคำนึง ชอบมาก พินอบพิเทา (หมายถึง แสดงอาการเคารพแบบนอบน้อมมาก ๆ) มันแบบ เฮ้ย เชยดีว่ะ โดน มันต้องมีคำเชย ๆ แบบนี้ปนเข้าไปเยอะ ๆ หน่อย อย่างคำว่าเคลือบแคลง ในท่อน “เธอบรรจงคิดอยู่นาน เนิ่นนานมากจนเกิด คำถามที่เคลือบแคลง” ของเพลง Pink Period (2021) หรือคำว่าจมจ่อม ที่เอามาสลับคำในท่อน “มันเหงา มากจนเกินทน จนยิ่งจ่อมจม” ของเพลง ดินสอสู่ปากกา (2023)

ซึ่งตอนแต่งเพลงนี้เราก็คิด mood & tone ของเพลงแต่งออกไปจากเพลงแนว city pop อื่นเลย มันต้องเป็นเชิงพรรณนา เพราะปกติเวลาเราฟังเพลง city pop เราจะนึกถึงเมืองตอนกลางคืน ไม่ก็ริมชายหาดไปเลย คือคนญี่ปุ่น enjoy กับหน้าร้อนมาก ยุคนั้นเขาจะชื่นชอบการไปเที่ยวทะเลมาก เพลงแนวนี้ก็เลยเน้นแต่งให้เข้ากับการไปเที่ยวทะเลด้วย

แล้วอย่างเสียงดนตรีในเพลง ทำยังไงให้มันมีความ “Wanna be city pop.” มากขึ้นในแบบของเรา

อาร์ม : จริง ๆ เรื่องนี้เราเขินที่จะตอบอยู่เหมือนกัน เพราะเรายังไม่มีเครื่องดนตรีจริง ๆ เลยสักชิ้น

ปืน : ใช่ เราไม่มีเครื่องดนตรีแบบ analog เลย เรามีแต่ plug-in ที่จำลองเสียงของเครื่องดนตรีนั้นมา

ถ้าจะต้องมีเพลงเป็นตัวแทนของวง เพื่อใช้เป็น Teaser โปรโมตตัวเอง จะเลือกเพลงไหน

อาร์ม : ถ้าเป็นผม ผมน่าจะเอาแค่ Instrument พวกซาวน์แบบ city pop มาใช้ หรือว่าถ้าเป็นเพลงจริง ๆ น่าจะต้องเป็น Two-Piece เพราะมันเป็นเพลงที่สนุกที่สุดของวง แล้วก็ผมชอบท่อนที่ผู้หญิงร้องในเพลงมากเลย มันดูเซ็กซี่ดี แล้วก็น่าจะเป็นเพลงที่ดู city pop แบบสดใสได้ด้วย

แล้วเพลงไหนที่จริง ๆ แล้วเป็นผลงานที่ทำให้คนรู้จักเรามากขึ้น

อาร์ม : ก็ต้องเป็น A Strawberry Night แหละครับ จนถึงตอนนี้ยังไม่มีเพลงไหนโค่นได้เลย แต่จริง ๆ ผมแอบอยากให้ดินสอสู่ปากกามันดังกว่านี้นะ ผมนึกว่าเพลงนี้มันจะโดนคนแล้ว

ปืน : ใช่ เพราะเพลงนี้อาร์มแต่งตอนที่ตกงานด้วย

อาร์ม : เออใช่ เพลงนี้ผมแต่งได้ตอนที่ผมเริ่มเป็นพนักงานเงินเดือน เริ่มมีเงินเดือน เริ่มเก็บเงินจริงจัง ก็เลยหาข้อมูลเกี่ยวกับการเก็บเงินให้มีประสิทธิภาพ ผมดูไว้เป็นกองทุน แต่ก่อนเราจะซื้อกองทุนเราก็ต้องดูก่อนใช่มั้ยครับว่า เฮ้ย ของที่ไหนดี ตัวไหนลดหย่อนภาษีได้บ้าง ก็ศึกษาไป

จนในอัลกอรึทึ่มยูทูปเขาก็จะเสนอเนื้อหาแต่เรื่องนี้ที่เรากำลังสนใจหาข้อมูลอยู่ แต่จริง ๆ ผมไม่ได้อยากรู้ขนาดนั้น ผมยังอยากดูเกม ดูการ์ตูน ดูสิ่งที่ผมชอบอยู่ ทุกอย่างมันกลายเป็นเนื้อหานี้หมดเลย ก็เลยมาคิดกับตัวเองว่า “เชี่ย รสชาติของการเติบโต” นึกออกมั้ยครับ หรือแบบพอเงินเดือนออก ผมอยากซื้อเกมว่ะ อยากซื้อฟิกเกอร์ แต่กลายเป็นว่าต้องเอาเงินไปซื้อเครื่องกรองน้ำ ต่อภาษีรถยนต์ ซื้อหุ่นยนต์ดูดฝุ่น ซื้ออะไรที่มันดูผู้ใหญ่จังอะ ไม่อยากทำเลย (อาร์มพูดด้วยน้ำเสียงแกมงอแงจริง ๆ)

ผมทดความคิดนั้นไว้ในใจ จนวันหนึ่งผมตกงาน บริษัทเก่าที่เคยทำงานด้วยเจ๊งกะทันหันเลย บ่ายสามวันนั้นเขาเรียกประชุม แล้วก็บอกว่าวันนี้เราจะทำงานกันเป็นวันสุดท้ายนะครับ แล้วบริษัทนี้เป็นที่ทำงานที่ผมแฮปปี้มาก เพื่อนร่วมงานดี work-life balance ดี ผมอยู่ได้ทั้งชีวิตเลยแม้เงินเดือนจะไม่มาก แต่แพลนที่ผมจองจะไปกับแฟนที่เกาะช้างก็กำลังจะไปเพราะจองแล้ว ไปถึงก็แอบไม่จอยบ้างนิดหน่อย

มีวันหนึ่งในทริปผมแช่อ่างอาบน้ำอยู่ เลื่อนมือถือไปเจอโพสต์ของเพื่อนพอดี ว่าตอนนี้นึกถึงชีวิตตัวเองตอนเปลี่ยนจากการใช้ดินสอเป็นปากกาเลย ผมก็แบบ “เชี่ย! ได้เพลงแล้ว” โดดจากอ่างน้ำขึ้นมาเหมือน Yureka Moment เลย แม้จะยังไม่ได้แต่งเป็นรูปเป็นร่างเลย แต่รู้เลยว่าได้แน่นอน

ทุกอย่างในเพลงนี้ราบรื่นและทำเสร็จเร็วมาก ผมโยนให้ปืนขึ้นพาร์ตดนตรีให้ก่อน แล้วก็เนื้อร้องเพลงนี้ผมตั้งใจเขียนมาก เป็นเพลงที่ชอบที่สุดแล้วครับใน 2021 Ocean Vibes

เป็นศิลปินยุคนี้ยากหรือง่ายขึ้นยังไงบ้าง

อาร์ม : ผมว่าเป็นศิลปินง่าย แต่ mass ยากครับ ไม่รู้ว่ายากขึ้นมั้ยนะ

ปืน : ผมมองว่ามัน mass ยากขึ้น เพราะศิลปินมันเกิดทุกวัน แล้วถึงแม้จะ mass ได้ แต่จะ mass ต่อในผลงานต่อ ๆ ไปก็ไม่ง่าย บางคนมาเพลงเดียวแล้วก็ไป ยุคนี้มันยากกว่าสมัยก่อนเยอะในมุมนี้ ไม่รู้ว่ามองผ่านมุมของวงตัวเองรึเปล่าเลยเป็นแบบนี้

อาร์ม : อาจจะผิดที่ผมก็ได้ ปืนเขาก็บอกว่าอยากให้เพลงมันย่อยง่ายกว่านี้ แต่ผมอยากจะทำแบบนี้ ผมว่ามันเป็นเพลงที่ต้องตั้งใจฟัง ซึ่งอันนี้ก็ไม่ผ่านแล้ว เพลงที่จะ mass ได้ มันต้องเพราะตามธรรมชาติ ไม่จำเป็นต้องตั้งใจฟังมากเกินไปขนาดนั้นก็ได้ แบบเปิดผ่าน ๆ ก็ยังเพราะเลย แต่ผมก็ยังอยากจะให้มันเป็นแบบนี้อยู่ ซึ่งคนอื่นเขาก็อาจจะ mass ง่ายกว่านี้

ถ้าให้ป้ายยาคนฟังหน้าใหม่ 3 เพลงที่หากได้ฟังแล้วชอบ จะเข้าใจทิศทางของวงเราทันทีเลย น่าจะเป็นเพลงไหนบ้าง

อาร์ม : แน่นอนว่าต้องเป็น A Strawberry Night และดินสอสู่ปากกา อีกเพลงอะไรดี

ปืน : ผมลองดูแปปนึง (หยิบมือถือจากกระเป๋ามาไล่ดูชื่อเพลงอย่างละเอียด) น่าจะเป็น Meiko ครับ

อาร์ม : เพลงนี้ก็ย่อยง่ายเหมือนกัน เพลงนี้ผมแต่งจากอนิเมะเรื่องที่ชอบคือ ‘Ano Hana ดอกไม้ มิตรภาพ และความทรงจำ’ ถ้าให้ขยายความเพิ่ม เกือบทุกปกเพลงของวงเราจะมีที่มาจากเมือง ๆ หนึ่ง คือเมืองชิจิบุ จังหวัดไซตามะ ที่ญี่ปุ่น เป็นเมืองที่อนิเมะเรื่องนี้เอามาเป็น reference ซึ่งตอนนี้อนิเมะเรื่องนี้กำลังกลายเป็นแกนที่วงเรากำลังดำเนินอยู่

เล่าเลยแล้วกันว่าตอนนี้เรากำลังทำเพลง EP อยู่ 2 เพลง ที่สไตล์ภาพปกเพลงแบบงาน Illustration จะเปลี่ยนไปใช้ภาพที่ถ่ายจากกล้องฟิล์ม ณ เมือง ๆ นั้นจริง ๆ ซึ่งตอนที่เราหาทางติดต่อช่างภาพเพื่อหาภาพกล้องฟิล์มมาใช้มันยากมาก ส่วนมากเราทักเขาไปแล้วเขาไม่ค่อยตอบสนองกลับมา จนนปโปะให้โชค (นปโปะ คือนปโปะเดียวกันกับเพลง ‘นปโปะหม่ำ ๆ’ เพราะอาร์มก็คือเจ้าของเจ้าหมาแสนซนตัวนี้นั่นเอง) เพราะมี lomography คนหนึ่งทักข้อความมาในช่องทางของนปโปะ ผมก็เลยขอให้เขาช่วยหาตากล้องจนได้มา แล้วตอนนี้ก็รอเขาถ่ายภาพนั้นมาให้เราใช้เป็นปกเพลงอยู่ ตอนนี้ผมค่อนข้างยึดมั่นมาก ๆ ว่าอยากให้เมืองนี้มันสำคัญกับวงเรา

อันนี้ส่วนตัวนิดนึง ตอนมัธยมผมเคยไปตามรอยอนิเมะเรื่องนี้ที่เมืองนี้แล้วรู้สึกผูกพันกับที่นั่นมากเลย พอจังหวะแรก ๆ ที่ต้องคิดว่าจะเอาอะไรมาเป็นปกเพลงของ 2021 Ocean Vibes ก็เลยคิดว่าเอาเมืองที่เราเคยไปมาเป็นปกเพลงดีกว่า แล้วก็ค่อย ๆ ใช้มาเรื่อย ๆ จนรู้สึกผูกพันมากขึ้นโดยไม่รู้ตัว ล่าสุดที่ไปญี่ปุ่นมากับปืนก็เพิ่งไปเมืองนี้กันมา ซึ่งมันก็สวยมาก ๆ เพราะเราไปช่วงเทศกาลดอกไม้ไฟที่ใหญ่ติด 3 อันดับในญี่ปุ่นพอดี

วิธีคิดปกเพลงในแต่ละ Single เป็นยังไงบ้าง เพราะสิ่งนี้ก็เป็นตัวดึงดูดผู้ฟังให้เข้ามาฟังได้ด้วยเหมือนกัน

อาร์ม : ใช่ครับ มีคนบอกแบบนั้นเยอะเหมือนกัน แต่จริง ๆ ผมสุ่มวิวในเมืองนั้นเอา อย่างในเพลงดินสอสู่ปากกา ผมตั้งใจให้เป็นวิวโรงเรียนเพราะแนวทางของเพลงมันสื่อไปทางนั้น ส่วนเพลงอื่นผมก็ไปไล่ดูว่าวิวมุมไหนในเมืองบ้างที่สวย ผมก็บอกนักวาดว่าเอาวิวนี้ครับ ขอท้องฟ้าเป็นสีแบบนี้ แล้วก็บอกเขาว่าอยากได้เป็นแนว city pop ครับ ใส่ obi strips หรือแถบทางซ้ายของปกมาให้เลย แล้วก็ใส่โลโก้วงมาให้หน่อย ปรากฏว่าสวย เลยใช้โลโก้วงที่เขาออกแบบให้เป็นโลโก้หลักของวงไปเลยจนถึงตอนนี้

ต้องขอบคุณพี่แต๋ม (@linnatamm) มาก ๆ เพราะปกติเขาจะวาดแต่ตัวการ์ตูน พอเราให้เขาวาดแนวอื่นบ้าง เขาบอกผมว่านี่เป็นการวาดวิวครั้งแรกของเขาเลย ซึ่งเขาก็ทำออกมาได้ดี

ปืน : จ้างมาแล้ว 3 ปี ยังไม่เคยเปลี่ยนนักวาดเลยตั้งแต่ทำมา

คิดว่าทำไมความเป็น Nostalgia ถึงขายได้ในยุคนี้

ปืน : ผมรู้สึกว่าการดำเนินชีวิตของคนยุคนี้มันยากลำบากกว่าสมัยก่อน ไม่ว่าจะทางไหนก็ตาม การหาเงิน การเดินทาง จนรู้สึกว่าคนน่าจะคิดถึงช่วงเวลาที่ชีวิตมันสบายกว่านี้ ก็คือตอนที่เราเป็นเด็กที่ไม่ต้องคิดเรื่องหนี้สิน หรือเรื่องการใช้ชีวิต ผมรู้สึกว่าทุกคนจะต้องมีช่วงเวลาที่คิดถึงชีวิตมัธยมกันบ้างแน่ ๆ

อาร์ม : มันคือความคิดที่อยากกลับไปในวัยเด็ก ที่ชีวิตมันอาจจะไม่ได้งง่ายขึ้นกว่าเดิมหรอก แต่วัยเด็กมันเป็นวัยที่ไม่ต้องเครียดมาก

ปืน : แต่สำหรับผมมันง่ายนะ สำหรับคนอื่นผมไม่รู้เลย ผมมักคิดถึงวัยเด็กบ่อย แล้วพอมาใช้ชีวิตในกรุงเทพฯ ผมรู้สึกว่ามันยาก มันเหนื่อย ก่อนนอนก็จะนึกถึงตอนมัธยมตลอดว่าสมัยนั้นไม่ต้องคิดอะไรเลย ไปเที่ยวกับเพื่อน ไปเรียนก็เรียน ๆ ไปแบบนั้น กลับบ้านก็มีข้าวให้กิน เดี๋ยวนี้มันก็ต้องวางแผนชีวิตมากขึ้น ผมก็เลยจะรู้สึกว่าเวลาเราฟังเพลงเก่า ๆ ที่เคยฟังในช่วงนั้น ผมก็จะหวนกลับไปนึกถึงช่วงเวลาเหล่านั้นเลย

อาร์ม : สำหรับผม city pop เวลาฟังแล้วมันจะกลับไปนึกถึงช่วงประถม ว่าชีวิตประจำวันช่วงนั้นเป็นยังไงบ้าง แล้วก็ความ nostalgia ที่มันถูกให้ความสำคัญขึ้นในยุคนี้อย่างการเป็นตัวละครคุณยายเพิ่มมาในเรื่อง Inside Out 2 มันก็ทำให้เห็นว่าคนหวนกลับไปคิดถึงอดีตบ่อยเหมือนกัน ทั้งที่จริง ๆ ก็เคยมีคนทำภาพ meme มาประมาณว่า ความ nostalgia คือการที่เราคิดถึงตอนนั้นจัง อะไร ๆ ก็ดีไปหมด แต่พอกลับไปมองภาพตอนนั้นจริง ๆ มันก็ไม่ได้ดี มันคือชีวิตปกติ แต่ความ nostalgia นี่แหละที่ทำให้ช่วงเวลาตรงนั้นดีขึ้น และมีคุณค่าขึ้น ตอนประถมเราก็ไม่ได้รู้สึกอะไรกับมันหรอก แต่มันคือหนึ่งอารมณ์ของคนยุคนี้

เหมือนกับว่าโลกยุคอดีตคือค่า 0 ส่วนโลกปัจจุบันคือค่า –

อาร์ม : ไม่ผมว่ามันอาจจะ 0 ทั้งคู่ก็ได้ แต่ความ nostalgia ต่างหากที่มันทำให้เวลามองย้อนกลับไปในอดีตแล้วกลายเป็นค่าบวก

ปืน : เป็นไปได้ อีกสัก 10 ปี ผมมองย้อนกลับมาตอนนี้ อาจจะเป็นยุคที่ อุ้ย ดีจัง ก็ได้

อาร์ม : เหมือนตอนผมทำวงนี้ช่วงแรก ๆ จะมีความรู้สึกว่าชีวิตช่วงประถมกับมัธยมดีจัง แต่มหาวิทยาลัยกลับรุ้สึกไม่ค่อยสนุก ไม่ได้คิดถึงมันขนาดนั้น พอผ่านมาถึงวันนี้กลายเป็นผมกลับไปรู้สึกคิดถึงช่วงเวลาตอนเรียนมหาวิทยาลัย มองว่าตอนนั้นมันก็ดีนะ อะไรอย่างนี้ กรอบเวลาของความ nostalgia มันจะค่อย ๆ ขยับไป

ถ้าให้นึกเร็ว ๆ ตอนนี้ทั้งสองคน nostalgia กับช่วงชีวิตไหนของตัวเองอยู่บ้าง

อาร์ม : ของผมตอนประถม

ปืน : ของผมเป็นตอนมัธยม

อาร์ม : ตอนประถม กับมัธยมเรียนที่เดียวกัน คือที่โรงเรียนน่านคริสเตียนศึกษา เป็นโรงเรียนคริสเตียน แต่อยู่ภาคเหนือ จังหวัดน่านยุคนั้นก็ไม่ได้เหมือนตอนนี้ที่บูมมากขึ้น เมื่อก่อนมันเงียบสงบมาก แล้วเป็นช่วงเวลาที่ผมมีความสุขที่สุดเลย ยิ่งช่วงคริสต์มาสมันจะหนาวมาก โรงเรียนจะเปิดเพลงคริสต์มาสตลอดทั้งวัน มีงานคริสต์มาส ไนท์ มีไปโบสถ์ ทำนู่นทำนี่ แล้วผมชอบมากเลย

ปืน : เอาจริง ๆ ผมก็ชอบยุคนี้เหมือนกัน

อาร์ม : แต่ตอนช่วงมัธยมที่ปืนชอบ ผมก็ชอบด้วยเหมือนกันอีก

ปืน : เหมือนตอนประถมความจำผมค่อนข้างเลือนลาง เลยจำช่วงมัธยมได้มากกว่า

อาร์ม : ช่วงมัธยมผมกับปืนค่อนข้างในช่วงชีวิตด้วยกันเต็มที่ มันมีอะไรให้ลองมากมาย ผมกับปืนเคยเป็นเชียร์ลีดเดอร์ทั้งคู่ ถึงแม้ตอนนี้ผมกับปืนจะน้ำหนักขึ้นมาร่วม 40 กิโลกรัมกันทั้งคู่แล้ว ทำวงประกวดกัน ทำทุกอย่างที่เป็นสายกิจกรรมไม่ใช่การเรียน

ย้อนกลับมาวันนี้บ้าง 2021 Ocean Vibes นอกจากเพลงจะโดดเด่นแล้ว แต่ความเป็นอินฟลูในตัวก็เด่นไม่แพ้กัน อย่างเช่นมีมบางอันที่กลายเป็นไวรัล เซนส์ตลกของเราสองคนเป็นแบบไหน เล่าให้ฟังหน่อย

อาร์ม : จริง ๆ เราค่อนข้างคุยกันตลอดว่าจะไม่ติดตลก จะไม่ขำ เราจะต้องเท่ แต่มันก็หลุดออกมาตลอดครับ อย่างคลิปแรกที่แนะนำตัวแบบเบียว ๆ นั่นไม่ใช่การเล่นรอบแรก เราเล่นกันก่อนรอบนึงตอนแฟนผมไปอาบน้ำอยู่ ผมกับปืนและแฟนเช่าบ้านอยู่ที่นั่นกัน รอบนั้นขำกว่านี้ ขำกันจนจะตาย เพราะไม่เคยได้ยินมุกนี้กันมาก่อน จนมาบอกแฟนว่ามุกนี้ขำมาก เดี๋ยวทำให้ดู เดี๋ยวหาจังหวะทำ

ระหว่างรอเขาจุดพลุ ก็นั่งร้านข้างทาง สั่งอะไรมากินกัน แล้วก็ยกกล้องขึ้นมาถ่ายเล่นกันอีกรอบนึง ถ่ายแล้วลืมไปเลย จนช่วงหนึ่งอยากหาคอนเทนต์มาลง TikTok ช่องที่เพิ่งทำ ก็เลยลองลงอันนี้ดู ดังเลย แต่สุดท้ายมันก็เท่านั้นอะ เพราะคนที่เขามาติดตามเขาอยากดูอะไรตลก ๆ อย่างนี้ต่อ เขาไม่ได้ติดตามเพราะเราเป็นศิลปินตั้งแต่แรก

@2021oceanvibes

วิธีแนะนำตัวให้มันเท่ๆแบบชาวญี่ปุ่น

♬ เสียงต้นฉบับ – 2021 Ocean Vibes – 2021 Ocean Vibes

ผมก็กลัวนะว่าความเป็นอินฟลูจะทำให้ความเป็นศิลปินมันลดลง คือความเป็นตัวผมมันไม่ได้ลดลงหรอก แต่ทุกคนก็น่าจะรู้ว่าเวลา Influencer หลาย ๆ คนมาทำเพลง คนดูก็สลัดภาพความเป็น Influencer ของเขาไม่ได้ในฐานะของศิลปิน คนจะไปโฟกัสอีกทางมากกว่า ซึ่งผมไม่อยากให้เรื่องนั้นมันเกิดขึ้นกับตัวเอง ไม่รู้ตอนนี้มันเป็นแบบนั้นไปแล้วรึเปล่าด้วย

คือเรื่องนปโปะมันเป็นงานที่ผมก็ต้องทำ ถามว่ามันใช่ทางที่คิดไว้ตั้งแต่แรกมั้ยก็ต้องบอกว่าไม่ได้คิดไว้เลย มันก็มีความสุข มันก็สนุกนะ แต่มันไม่ใช่สิ่งที่เราอยากอยู่กับมันจริง ๆ อย่างวง 2021 Ocean Vibes

ก่อนหน้านี้เหมือนผมก็เคยเป็นไวรัลใน Facebook ตัวเองหลายครั้ง เรื่องการเมือง เรื่องรีวิวร้านอาหาร หรือเรื่องไร้สาระก็ตาม แต่เหมือนเรายังจับจุดมาต่อกันไม่ได้ว่าเราจะทำยังไงให้กระแสมันจุดติดแล้ววิ่งต่อไปได้ จนนปโปะเหมือนมันจับโดนเส้นกระแสใหญ่เลย ทุกอย่างที่ทำต่อ ๆ กันมาก็เหมือนการลอง อย่างการทำเพลงนปโปะหม่ำ ๆ นี่ก็ใช่ ทุกวันนี้นปโปะกลายเป็นงานหลักในชีวิตของผม แต่ผมก็อยากให้ 2021 Ocean Vibes เป็นเรื่องหลัก นึกออกมั้ยครับ

อย่างตอนนี้เอง ผมจะชอบแทรกความเป็นวงเข้าไปบ้างในช่อง TikTok @staywithnoppo ทำให้คนมาตามช่อง @2021oceanvibes มากขึ้นด้วย แต่มันสวนทางกับงานจ้าง ตั้งแต่เดือนมีนาคมจนถึงตอนนี้ (เราสัมภาษณ์กันปลายเดือนสิงหาคม) ยังไม่มีงานเลย ทั้งที่ช่วงนั้นเรามีทีเดียวสามงานติดกัน ก็หวังว่าปล่อยเพลงรอบนี้จะมีคนเห็นเรามากขึ้นครับ

อัลกอริทึ่มมีผลกับการทำงานเพลงยังไงบ้างในมุมเรา

อาร์ม : จริง ๆ สิ่งที่เราหวังเพิ่งอัลกอริทึ่มไม่ใช่ TikTok ครับ แต่เป็น Spotify อันนี้คือต้องการที่สุดสำหรับวงเรา แต่สำหรับ TikTok นปโปะก็ต้องการ เพียงแต่ตอนนี้มันติดลมบนไปแล้ว ีบ้างที่มีจะมีคนออกมาทำ Video Content แบบถ้าคุณชอบฟังเพลง city pop คุณต้องไม่พลาดวงนี้! อะไรอย่างนี้ ก็จะมีวงเราไปโผล่ในคลิปด้วย ใน X (Twitter) ก็ดีครับ เวลามีคนทวีตว่า “เฮ้ย เราเพิ่งเคยฟังเพลงวงนี้” มันก็ทำให้คนรู้จักเพิ่มขึ้นเหมือนกัน

เล่าถึงแฟนเพลงที่เหนียวแน่นของเราหน่อย

อาร์ม : น่ารักนะครับ เขาชอบเราจริง ๆ อย่างตอนปล่อยเพลง สตรี With May แม้แต่ผู้จัดการวงยังพูดเลยว่า “ทำเพลงอะไรของมึงออกมาเนี่ย” แม้แต่ผมเองยังไม่รู้เลยว่ามันต้องอยู่ในอารมณ์ไหนถึงฟังเพลงนี้ เพราะเพลงนี้มันไม่ได้เชื่อมโยงความสุขหรือความเศร้าถึงใครเลย ผมปล่อยเพลงมา ผมนอยด์ละ แต่มีแฟนเพลงที่เขาบอกว่าเขาเป็นภาวะซึมเศร้า เขาดาวน์มาก แล้วเพลงปล่อยวันนี้ เขามีความสุขมาก ผมแบบ เชี่ย! เพลงมันมีคนฟัง แล้วมันก็ทำงานของมัน

ลองคิดว่าในอีก 5 ปีข้างหน้า 2021 Ocean VIbes ดังเป็นพลุแตก คนรู้จักเพียบเลย อยากบอกอะไรกับตัวเองในวันข้างหน้านั้นบ้าง

อาร์ม : ทำต่อนะ

ปืน : ห้ามขี้เกียจ

แสดงว่าตอนนี้..

ปืน : ขี้เกียจ.. หนัก เลยครับ

อาร์ม : ห้ามเลือกเยอะ

ปืน : มีอะไรรับเลย ทำเลย

อาร์ม : อย่างที่ผ่านมาพอคนในวงน้อย ก็ต้องจ้างคนข้างนอกเยอะ บางงาน offer มาเห็นแล้วแบบ เราเจ็บหนักเลยนะ

ปืน : ที่ผ่านมาเข้าเนื้อหมดที่ไปเล่น แต่เราก็มีความสุขที่ได้ไปโชว์ครับ

ฝากผลงานหน่อย

อาร์ม : จ้างไปเล่นหน่อยนะครับ ขอแค่นี้เลย อยากเล่นมาก อยากออกไปปล่อยของ แล้วก็เร็ว ๆ นี้จะมีผลงานเพลงใหม่ออกมา 2 เพลง ที่เป็นเพลง standard jazz ที่มันมีอยู่แล้ว ใครจะเอาไปหยิบจับต่อยอดก็ได้ เอามาทำเป็นแนว city pop ทั้ง 2 เพลงเลย ผมทำเพลงนึง ปืนทำเพลงนึง เลือกกันมาเลยเพลงที่ชอบที่สุดสมัยเรียน

มันก็น่าจะเป็นการเปิดตลาดไปสู่ที่อื่นได้ด้วย ก็จะเป็นการเอามาตีความกันใหม่ ซึ่งสนุกดีครับที่ได้ทำตอนนี้ ปีนี้ตั้งใจจะปล่อยให้ได้ 5 เพลง มีปล่อยไปแล้ว 1 เพลงคือ Actor แล้วก็ EP พิเศษที่กำลังจะปล่อย ช่วงปลายปีก็จะทำอีก 2 เพลง ถ้าทำทัน แล้วก็หวังว่ามันจะช่วยทำให้พวกเราไปได้ไกลมากกว่านี้ด้วยครับ

AUTHOR

Content Creator

พนักงานมือใหม่ที่สนุกกับการหาเรื่องมาเล่า ไม่มีสิ่งที่ชอบตายตัว มีแต่สิ่งที่ชอบแล้ว และกำลังหาสิ่งใหม่ที่ชอบต่อไป