“อย่าแอบดูจอยนะ” “วินนิ่งไหมเย็นนี้” “น่า…ก็จอยมันไม่ดี” คือคำพูดติดปากของเด็กสมัยก่อนที่ชื่นชอบในการเล่นเกม ซึ่งก่อนหน้าที่สายแลนด์ (LAN Cable) จะนำอินเทอร์เน็ตมุ่งเข้าสู่ทุกบ้าน เด็กสมัยก่อนไม่ได้มีวิธีการเล่นเกมออนไลน์บน PC เหมือนในปัจจุบัน วิธีการเล่นเกมสมัยก่อนก็คือ นัดแนะกับกลุ่มเพื่อนหลังเลิกเรียนที่บ้านใครสักคนหนึ่ง และต่อจอยเกมเล่นกันสัก 2-3 ชั่วโมง เพียงเท่านี้ก็ช่วยให้วันนั้นกลายเป็นวันดี ๆ ไปได้โดยปริยาย
เสน่ห์ของเกมและการเล่นเกมสมัยก่อน ค่อย ๆ หายไปตามกาลเวลาเมื่อโลกเราเริ่มเข้าสู่ยุคดิจิทัลเต็มตัว บางคนเปลี่ยนไปเล่นเกมออนไลน์ หรือบางคนเมื่อโตขึ้นก็เลิกเล่นเกมไปเลย นั่นก็เพราะมีข้อจำกัดด้านเวลาเข้ามาเกี่ยวข้อง วันนี้จึงอยากชวนมารื้อความทรงจำไปกับ 5 เกมเก่าในสมัยก่อนว่ามีเกมอะไรกันบ้าง?
1. Contra-คู่หู 8 bits ยอดนักรบ
หากพูดถึงเกมเก่า ไม่พูดถึง Contra ก็คงเป็นไปไม่ได้ ซึ่ง Contra เป็นเกมสัญชาติญี่ปุ่น ในเกมจะมีตัวละครทหาร 2 คน (ภาพมีลักษณะเป็น 8 bits) ถืออาวุธสงคราม และไล่รบไปในแต่ละด่าน ตอนเด็ก ๆ ที่พวกเราเล่นกันก็ไม่ได้คิดอะไรนอกจากยิง ๆ และหลบกระสุนให้มีชีวิตรอดในแต่ละด่าน ๆ ไป แต่พอโตมาหน่อยก็พอจะรู้เนื้อเรื่องว่า เกมนี้เป็นเรื่องราวของ 2 ทหารที่ได้รับภารกิจให้ปราบองค์กรก่อการร้ายที่ชื่อว่า ‘เหยี่ยวแดง’ ซึ่งเป็นองค์กรอสุรกายจากต่างดาว โดยจะสังเกตได้จากแต่ละด่านจะมีสัตว์หน้าตาประหลาด ๆ เต็มไปหมด เท่ากับว่าการต่อสู้ของทหาร 8 bits 2 คนนี้ ทำไปเพื่อปกป้องโลกและมวลมนุษยชาติส่วนวิธีการเล่น Contra จะเล่นผ่านเครื่องเล่นเกมแฟมิคอม (Famicom) โดยต้องเสียบตลับเกมเพื่อเล่นนั่นเอง
2. Harvest Moon Back to Nature-จำลองการใช้ชีวิตในไร่นาป่าเขา
Harvest Moon Back to Nature เป็นอีกหนึ่งเกมปลูกผักในความทรงจำ ซึ่งภาพของเกมก็ยังคงเป็น 8 bits เช่นกัน โดยเกมนี้ถูกปล่อยให้พวกเราได้เริ่มเล่นกันในช่วงปี 1999 และเป็นอีกหนึ่งเกมที่เรียกได้ว่า ถ้าได้เปิดเล่นแล้วสามารถกินเวลาชีวิตไปทั้งวันเลยก็ว่าได้ เพราะมันมีกิจกรรมให้เราสามารถทำได้ไม่รู้จบ หลัก ๆ ของเนื้อเรื่องเกมคือจำลองให้เราได้ใช้ชีวิตเป็นเกษตรกร ตกปลา เลี้ยงสัตว์ ดูแลฟาร์ม ขุดแร่ หรือแม้แต่กระทั่งจีบหนุ่มหรือจีบสาวด้วยการเด็ดดอกไม้หรือเอาผลไม้ไปจีบตัวละครอื่น ๆ ซึ่ง Harvest Moon เริ่มต้นด้วยการเป็นเกมตลับบอยเช่นกัน แต่ก็พัฒนาไปเรื่อย ๆ จนสามารถเล่นบนเครื่อง PS1 หรือ PS2 ได้
3. Winning Eleven-เกมเตะบอลในตำนาน
วลีอย่าง “น่า…ก็จอยมันไม่ดี” “ห้ามใช้สูตรเตะบอลข้ามหัวนะ” มีต้นกำเนิดมาจากเกมเตะบอลอย่าง Winning Eleven ซึ่งเกมนี้เป็นเกมเตะบอลในตำนานที่เด็กผู้ชายเกือบ 90 % น่าจะเคยเล่นหรือผ่านหูผ่านตากันมาบ้าง ซึ่งเกมนี้นอกจากจะเป็นการเตะบอลแข่งกันแล้ว ยังจำลองการเป็นผู้จัดการทีมให้เราอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นการบริหารตัวนักเตะ การอัพสกิลของตัวนักเตะ รวมไปถึงการได้เลือกเล่นทีมฟุตบอลที่เราชอบ ซึ่ง Winning Eleven (หรือPes) ได้วางจำหน่ายครั้งแรกในปี 1994 สำหรับเล่นบนซูเปอร์แฟมิคอม (Super Famicom) และต่อมาก็ได้วางจำหน่ายสำหรับเล่นบนเครื่อง PlayStation หลังจากนั้นเจ้าของเกมได้ทำการรีแบรนด์ใหม่โดยใช้ชื่อเป็น eFootball รูปแบบคือสามารถโหลดเกมไปเล่นได้เลยฟรี ๆ
4. Super Mario-โหม่งเห็ดช่วยเจ้าหญิง
หากจะพูดถึงเกมในความทรงจำ Super Mario คงเป็นเกมแรก ๆ ที่ขึ้นมาในหัว และแน่นอนว่าเกมนี้ถือเป็นเกมยอดฮิตระดับตำนานที่อยู่ยาวมาจนถึงปัจจุบัน ซึ่งเนื้อหาของเกมไม่ได้มีอะไรซับซ้อน ตัวละครหลักอย่างมาริโอต้องฝ่าฟันด่านต่าง ๆ เพื่อเข้าไปช่วยเหลือเจ้าหญิงพีช และมีตัวละครอื่น ๆ เข้ามาด้วย เช่น ลุยจิ โท้ด ดองกีคอง โยชิ เป็นต้น ซึ่งเกม Super Mario มีมาแต่ตั้งยุคเล่นบนเครื่องเล่นเกมแฟมิคอม (Famicom) ซุปเปอร์แฟมิคอม (Super Famicom) ลากยาวมาจนถึงยุคเกม PlayStation โดย Super Mario นั้นถูกสร้างออกมาไม่ต่ำกว่า 20 ภาคให้พวกเราได้เลือกเล่นกัน และในแต่ละภาคก็จะมีความสนุกแตกต่างกันออกไป
5. Circus Charlie-หนูน้อยในโรงละครสัตว์
หากยังพอจำกันได้มีอีก 1 เกมเก่าที่ทุกคนน่าจะเคยเล่นกัน ซึ่งก็คือเจ้าเกม Circus Charlie ภาพในความทรงจำคือเด็กผู้หญิงตัวน้อย ๆ ยืนอยู่บนหลังสิงโตและกระโดดลอดห่วงไฟ ซึ่งเกมนี้ก็ยังเป็นภาพ 8 bits อยู่ เอาจริง ๆ แล้วเกมภาพ 8 bits ค่อนข้างมีเสน่ห์ในแบบของมัน โดยเนื้อเรื่องของเกมนี้เป็นเรื่องราวของโชว์ในโรงละครสัตว์ แบ่งออกเป็น 5 ด่าน ได้แก่ 1. ด่านขี่สิงโตข้ามห่วง 2. ด่านเดินไต่เชือกข้ามฝูงลิง 3. ด่านไถลูกบอลกระโดดสลับ 4. ด่านขี่ม้าข้ามสิ่งกีดขวาง 5. ด่านโหนเชือกไปข้างหน้า เป็นต้น หน้าที่ของเราคือการบังคับทิศทางของเด็กผู้หญิงให้ทำแสดงโชว์ไปได้อย่างราบรื่น ซึ่งจัดเป็นอีกหนึ่งเกมที่ไม่มีความซับซ้อนแต่สามารถสร้างความเพลิดเพลินให้กับผู้เล่นได้อย่างน่าเหลือเชื่อ
อย่างไรก็ดี นี่เป็นเพียง 5 เกมเก่าในความทรงจำที่ยกมาเท่านั้น ยังมีเกมอีกจำนวนมากมายที่อยู่ในความทรงจำของเด็กแต่ละคน นอกเหนือไปจากความสนุก การได้เล่นเกมยังนับว่าเป็นช่วงเวลาดี ๆ ที่จะช่วยให้เราลืมความเครียดบางอย่างที่พ่วงมากับการเติบโตเป็นผู้ใหญ่ได้อีกด้วย
อ้างอิง