ในความเป็นจริงไม่มีทริคหรือเคล็ดลับใดจะช่วยให้คุณรู้สึกดีในการทำงานได้หรอก ซึ่งคำพูดนี้อาจทำให้ผู้อ่านรู้สึกท้อใจเล็กน้อย แต่เชื่อเถอะว่าการยอมรับความจริงที่เจ็บปวดดีกว่าการแบกรับคำลวงที่สบายใจ เพราะต่อให้คุณจัดตารางการทำงานเป๊ะขนาดไหน มี Routine ในการดำเนินชีวิตดีอย่างไร ก็ไม่อาจลบความจริงเรื่องค่าแรงที่ไม่คุ้มค่าเมื่อเทียบกับเวลาทำงาน หรือการต้องแบกรับความกดดันในการทำงานระดับแรงกดอากาศในมหาสมุทรได้
แต่อย่างไรก็ดี การหาทางออกเพื่อผ่อนหนักให้เป็นเบาก็ยังคงสำคัญกว่าการไม่ได้ลงมือทำอะไรเลย วันนี้ The Remark จึงนำ 6 ทริคที่ช่วยให้คุณทำงานได้ดีขึ้นในปี 2024 เพื่อนำไปปรับใช้ในการเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานที่ดี อ้างอิงจาก We Will Teach You To Be Rich ซึ่งเป็นเว็บไซต์ที่รวบรวมบทความแนวพัฒนาตนเองด้านการทำงานและธุรกิจ
Manage อารมณ์ตัวเองให้ได้ก่อนที่จะไป Manage เวลาทำงาน
หลายคนให้ความสำคัญกับการจัดเวลาการทำงานตัวเอง จนหลงลืมที่จะจัดการกับอารมณ์และพลังในการทำงานของตัวเอง หากคุณจัดตารางการทำงานโดยโยกย้ายลิสต์งานที่สำคัญไว้ในช่วงที่อารมณ์ขุ่นมัวและพลังในการทำงานน้อย ก็มีความเป็นไปได้ที่งานชิ้นนั้นจะถูกผลิตหรือคิดออกมาได้อย่างไม่เต็มประสิทธิภาพ ดังนั้นวิธีจัดการได้ง่ายที่สุดคือการที่คุณต้อง ‘เรียนรู้เกี่ยวกับตัวเอง’ ให้มากขึ้น สังเกตว่าช่วงไหนของวันที่ตนเองต้องแบกรับความเครียดจนมากเกินไป หรือช่วงไหนที่อารมณ์ดีพอที่จะคิดสิ่งใหม่ ๆ ได้
สมมติว่าช่วงเช้าสุดของวันจนถึงเที่ยงคุณต้องจัดการกับปัญหาที่ค้างคามาตั้งแต่เมื่อวาน และอารมณ์ฉุนเฉียวง่ายมากเพราะเพิ่งรับประทานอาหารเสร็จแล้วรู้สึกง่วงนอน คุณอาจโยกย้ายงานสำคัญที่ต้องทำไว้ในช่วงก่อนเลิกงาน โดยให้เวลากับตัวเองในพื้นที่เงียบ ๆ เสียหน่อย เพื่อเคลียร์งานที่สำคัญนั้นให้ลุล่วง ซึ่งสิ่งที่ดีคือคุณสามารถปรับใช้สิ่งนี้ในกรณีอื่น ๆ เช่น เลือกช่วงเวลาในการประชุม เลือกช่วงเวลาในการพูดคุยกับเพื่อนร่วมทีม เพราะการพูดคุยก็เป็นหนึ่งในเรื่องที่ต้องอาศัยการจัดการอารมณ์ที่ดี
ปิดแจ้งเตือนโทรศัพท์ในช่วงเวลาที่สำคัญ
ในยุคที่โลกอินเตอร์เน็ตเข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันของเราเป็นอย่างมาก จึงเป็นเรื่องยากในการตัดการติดต่อสื่อสารทางโซเชียลมีเดีย แต่ก็มีหลายครั้งที่การติดต่อสื่อสารที่ไม่สำคัญมักจะรบกวนสมาธิในการทำงานของเรา เช่น แจ้งเตือนข้อความจากเพื่อนที่ส่งรูปภาพมีมมาให้ แจ้งเตือนจากแอปพลิเคชันอีคอมเมิร์ช หรือแจ้งเตือนอื่น ๆ ที่คุณคิดว่าสำคัญน้อยกว่างานที่ต้องโฟกัสในตอนนี้
วิธีการที่ดีที่สุดคือการปิดเสียงแจ้งเตือนขณะทำงานสำคัญ โดยคุณอาจแจ้งคนสนิทหรือคนใกล้ตัวไว้ว่าช่วงเวลานี้คุณจำเป็นต้องปิดโทรศัพท์ หากต้องการติดต่อให้ส่งข้อความหรือโทรมาในภายหลัง เพราะจดจำไว้ว่าการตัดตัวเองออกจากสภาวะที่วุ่นวายหรือว้าวุ่นบ้างก็เป็นสิ่งที่ดี คุณอาจปรับใช้วิธีการนี้กับช่วงเวลาอื่น ๆ ในชีวิตได้ เช่น วันหยุดที่ต้องการพักผ่อน เพื่อทำให้สมองได้ทำงานน้อยลง เครียดน้อยลง จิตใจว้าวุ่นน้อยลง และอยู่กับตัวเองให้มากขึ้น
โฟกัสเพียงสิ่งเดียวในการทำงานแต่ละครั้ง
เชื่อว่าหลายคนน่าจะรับรู้กันดีอยู่แล้วผ่านประสบการณ์หรือการเรียนรู้ต่าง ๆ ว่า การทำอะไรหลายอย่างพร้อมกัน มีแนวโน้มจะทำให้ทุกสิ่งที่ทำนั้นออกมาไม่ดีทั้งหมด เพราะมนุษย์ไม่อาจทำอะไรหลายอย่างพร้อมกันอย่างมีประสิทธิภาพได้ ดังนั้นการโฟกัสอะไรเพียงสิ่งเดียวในการทำงานแต่ละครั้งจึงเป็นสิ่งสำคัญมาก ถึงแม้ว่างานของคุณจะหนักหนาร้อยพันอย่างก็ตาม
คุณอาจใช้วิธีการจด ‘To do list’ หรือการเขียนโน้ตเรียงลำดับความสำคัญในการทำงาน เลือกทำงานที่สำคัญและเร่งด่วนก่อนที่จะไปเริ่มงานอื่น ๆ โดยให้คุณใช้เวลาโฟกัสกับงานขณะนั้นไปเลย และปล่อยวางงานอื่นที่สำคัญน้อยกว่า เพื่อประสิทธิภาพในการทำงานและการบริหารด้านเวลาที่ดี ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะสร้างวินัยในการทำงานให้กับคุณได้ในอนาคต
ความสมบูรณ์แบบไม่มีอยู่จริง ปล่อยให้ตัวเองพลาดบ้างก็ได้
หากใครที่อ่านบทความมาจนถึงตรงนี้ คุณอาจจะเริ่มรู้สึกอยากแท็กหัวหน้าให้มาลองอ่านดูโดยเฉพาะหัวข้อนี้ เพราะสิ่งที่ผู้เขียนกำลังจะบอกกับพวกคุณคือ “ความสมบูรณ์แบบไม่มีอยู่จริง” หลายครั้งที่ไอเดียเจ๋ง ๆ หรือความคิดดี ๆ ผุดออกมาจากความผิดพลาดหรือสิ่งที่ไม่คาดคิด ความเพอร์เฟคเป็นเพียงสิ่งที่เราตั้งมาตรฐานขึ้นมาเอง คุณไม่มีวันรู้ว่ามันเวิร์คหรือไม่ตราบใดที่ไม่ลองทำมันดู และแน่นอนว่าเราต่างก็เป็นมนุษย์ที่ผิดพลาดได้ ไม่มีใครถูกลงโปรแกรมมาเก่งกาจตามมาตราวัดของใคร ดังนั้นไม่ต้องสงสัยหากมีความผิดพลาดเกิดขึ้นภายในทีม
วิธีการที่ง่ายที่สุดคือกำหนดขอบเขตในการทำงานไว้ให้กว้างที่สุดเท่าที่จะทำได้ คิดให้รอบด้านที่สุดว่าโปรเจคนี้มีความเป็นไปได้ที่จะผิดพลาดในทิศทางใดบ้าง และแนวทางการแก้ปัญหาที่ง่ายและเร่งด่วนที่สุดคืออะไร และให้คิดไว้เสมอว่า “ทุกสิ่งที่มีโอกาสผิดพลาด จะผิดพลาดเสมอ” เมื่อเราเรียนรู้ที่จะผิดพลาดอย่างถูกต้องเราจะไม่เกรงกลัวในการลงมือทำอะไร และสิ่งที่สำคัญกว่านั้นคือการเรียนรู้ว่าไม่มีสิ่งใดสมบูรณ์แบบที่สุด ยอมรับในผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น เข้าใจว่าทุกสิ่งสามารถผิดพลาดได้ และสิ่งที่สำคัญที่สุดคือการโอบกอดเพื่อนร่วมทีมไว้เสมอ
ทำสิ่งที่คิดว่ายากก่อนเสมอ
หากจินตนาการว่า ‘งาน’ คือ ‘สัตว์ประหลาด’ ที่เราต้องจัดการมันให้ราบคาบ ให้เรามองหา ‘บอส’ หรือ ‘งานยาก’ ของวัน ที่เราต้องจัดการมันก่อนอันดับแรก หากเราจัดการงานที่คิดว่ายากก่อน มันจะทำให้การทำงานที่เหลือรู้สึกง่ายและราบรื่นขึ้นกว่าเดิม คำแนะนำคือให้คุณเลือกจัดการงานยาก ๆ ก่อนในช่วงเช้าของวัน โดยอาจแบ่งเวลาเพื่องานนั้นโดยเฉพาะ แล้วค่อยหันมาเคลียร์งานอื่นต่อไป ซึ่งวิธีนี้อาจไม่เวิร์คสำหรับบางคนหรือการทำงานบางประเภท แต่สามารถปรับใช้วิธีนี้กับบริบทในชีวิตประจำวันอื่น ๆ ได้
กินอาหารที่มีประโยชน์ พักผ่อนให้เพียงพอ
ถึงแม้ฟังดูเหมือนคำเตือนทั่วไปของแพทย์ที่นำมาใช้จริงในชีวิตประจำวันได้ยาก แต่เชื่อเถอะว่านี่คือหนึ่งในวิธีที่ดีที่สุดในการทำให้คุณภาพชีวิตของคุณดีขึ้น ในช่วงแรกอาจจะทำตามยากแต่หากเราหาตรงกลางและบาลานซ์มันได้จะช่วยให้เรามีสุขภาพที่ดีขึ้น
มาเริ่มจากเรื่องอาหารการกินกันก่อน ถ้าหากการกินอาหารคลีนทุกวันและดื่มน้ำวันละ 8 แก้วเป็นเรื่องยาก คุณอาจเริ่มเปลี่ยนพฤติกรรมการกินทีละน้อย จากการงดกินอาหารแปรรูปในร้านสะดวกซื้อ เปลี่ยนมากินอาหารปรุงสุกตามร้านอาหารปกติ และซื้อน้ำขวดใหญ่ขนาด 1.5 ลิตรมาดื่ม โดยตั้งเป้าให้ตัวเองดื่มน้ำให้หมดขวดทุกวัน
ในส่วนของการนอนหลับพักผ่อนคุณอาจเริ่มต้นด้วยการสร้างสภาพแวดล้อมในห้องนอนให้เหมาะกับการพักผ่อนมากที่สุด จัดที่นอนนุ่ม ๆ แอร์เย็น ๆ ปิดไฟมืดสนิท แล้วพยายามนอนหลับให้ได้อย่างน้อย 6 – 8 ชั่วโมงในแต่ละคืน เพราะอย่าลืมว่าร่างกายของคุณควรได้พักบ้าง
อย่างไรก็ตามนี่เป็นเพียงคำแนะนำที่รวบรวมมา หากอยากทำสิ่งเหล่านี้ให้สำเร็จอาจต้องลองปรับให้เหมาะสมหรือเข้ากับชีวิตประจำวันของตัวเองให้มากขึ้น คอยเรียนรู้และสังเกตสิ่งรอบตัวที่สามารถปรับใช้กับตัวเองได้ อาศัยประสบการณ์เป็นตัวบอกว่าควรหรือไม่ควรทำอะไรในช่วงเวลาไหน กินหรือนอนอย่างไรถึงดีที่สุดและไม่กระทบกับชีวิตประจำวัน ถึงแม้มันจะไม่สามารถทำให้ชีวิตการทำงานของคุณราบรื่นได้ในชั่วพริบตาแต่ก็ดีกว่าการที่ไม่ได้ลองทำอะไรเลย ที่สำคัญจงจดจำไว้ว่าการทำงานเป็นเพียงส่วนหนึ่งในชีวิต ไม่ใช่ทั้งหมดของชีวิต ดังนั้นเซฟตัวเองไว้ก่อนเสมอ
อ้างอิง
CREATED BY
ไม่ชอบคนข้างล่าง