วันนี้ (7 ส.ค.67) สืบเนื่องจากศาลรัฐธรรมนูญมีวินิจฉัยลงมติเอกฉันท์ ให้ยุบพรรคก้าวไกลตามที่กฎหมายบัญญัติ และเพิกถอนสิทธิ์ทางการเมืองของกรรมการบริการพรรคเป็นเวลา 10 ปี นับตั้งแต่มีการสั่งยุบพรรค ได้แก่ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรค, ชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรค, ณธีภัสร์ กุลเศรษฐสิทธิ์ เหรัญญิกพรรค, ณกรณ์พงศ์ ศุภนิมิตตระกูล นายทะเบียนพรรค, ปดิพัทธ์ สันติภาดา กรรมการบริหารพรรค (ลาออกจากสมาชิกพรรค ก่อนย้ายไปสังกัดพรรคเป็นธรรม เพื่อรักษาสถานะรองประธานสภา), สมชาย ฝั่งชลจิตร กรรมการบริการพรรค, อมรัตน์ โชคปมิตต์กุล กรรมการบริหารพรรค, อภิชาต ศิริสุนทร กรรมการบริหารพรรค, เบญจา แสงจันทร์ กรรมการบริหารพรรค, สุเทพ อู่อ้น กรรมการบริหารพรรค และ อภิสิทธิ์ พรมฤทธิ์ กรรมการบริหารพรรค รวมทั้งสิ้น 11 คน
ขณะที่ผู้พิพากษาคดียุบพรรคก้าวไกลในครั้งนี้คือ คณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ นำโดย นครินทร์ เมฆไตรรัตน์ ประธานศาลรัฐธรรมนูญ, สุเมธ รอยกุลเจริญ, ปัญญา อุดชาชน, อุดม สิทธิวิรัชธรรม, วิรุณห์ แสงเทียน, จิรนิติ หะวานนท์, อุดม รัฐอมฤต, นภดล เทพพิทักษ์ และ บรรจงศักดิ์ วงศ์ปราชญ์ ทั้งหมด 9 คน
อย่างไรก็ตามผลจากคำวินิจฉัยยุบพรรคก้าวไกลนี้ ส่งผลให้ สส.ก้าวไกลที่เหลือ 142 คน ต้องหาสังกัดพรรคใหม่ภายใน 60 วัน ซึ่งก่อนหน้านี้ พิธา เคยให้สัมภาษณ์ว่าตนเองเชื่อใจสมาชิกคนที่เหลือว่าจะไม่ไปจับมือกับพรรคฝ่ายตรงข้ามอย่างแน่นอน ขณะที่จิรัฏฐ์ ทองสุวรรณ์ สส.ฉะเชิงเทรา สส. จากพรรคก้าวไกลอ้างว่ามีผู้ช่วยรัฐมนตรีท่านหนึ่ง ยื่นข้อเสนอเป็นเงินจำนวน 30 ล้านบาท เพื่อให้ตนย้ายไปร่วมพรรคด้วย ซึ่งประเด็นนี้เป็นที่น่าจับตามองกันต่อไปว่าจะมี ‘งูเห่า’ เลื้อยไปพันเกี่ยวกับพรรคฝ่ายตรงข้าม เหมือนกรณีของพรรคอนาคตใหม่หรือไม่ ต้องติดตามกันอย่างใกล้ชิด