หากลองนึกย้อนกลับไปในช่วงของบรรยากาศการก่อนการเลือกตั้ง แน่นอนว่าสิ่งที่จูงใจให้ประชาชนอย่างเรา ๆ สนใจในแต่ละพรรคการเมืองก็คือ ‘นโยบาย’ ซึ่งนโยบายที่ว่าจะกลายเป็นนโยบายรัฐก็ต่อเมื่อพรรคการเมืองนั้น ๆ ได้รับเลือก กลายเป็นรัฐบาล และได้นำนโยบายที่เคยใช้ในช่วงหาเสียงไปปฏิบัติจริง แต่ในบางครั้งเมื่อนโยบายของรัฐถูกนำมาปฏิบัติจริงสิ่งที่ตาม ๆ กันมาก็คือ ‘ภาระ’ ที่ประชาชนจะต้องแบกรับเพื่อการเข้าถึงนโยบายนั้น ๆ
วันนี้เราจึงอยากชวนมาพูดคุยถึงประเด็นภาระที่ประชาชนชนต้องแบกรับโดยจะอิงข้อมูลจากโครงการเราชนะในรัฐบาลของพลเอกประยุทธ์ จันโอชา จนมาถึงโครงการดิจิทัลวอลเล็ตซึ่งเป็นนโยบายของรัฐบาลปัจจุบันนั่นเอง
โดยในงานวิจัยของ ‘ภาวินี ช่วยประคอง’ เรื่อง ได้อย่างก็ต้องเสียอย่าง: ภาระจากการเข้าถึงบริการในการลงทะเบียนเราชนะสำหรับประชาชนที่ไม่มีสมาร์ทโฟน ได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับภาระในการเข้าถึงบริการหรือนโยบายของรัฐเอาไว้ 3 ประเด็นใหญ่ ๆ
ประเด็นแรกก็คือ ภาระที่เข้าถึงการบริการหรือนโยบายรัฐที่ต้องแลกมาด้วยต้นทุนทางการเรียนรู้ ยกตัวอย่างให้ง่ายขึ้นมาหน่อยก็คือ เมื่อรัฐบาลมีนโยบายอะไรบางอย่างออกมา สิ่งที่ประชาชนต้องทำก็คือการศึกษาข้อมูลถึงกระบวนการ ขั้นตอนการลงทะเบียนต่าง ๆ กฏระเบียบต่าง ๆ ซึ่งสิ่งเหล่านี้มีต้นทุนที่ประชาชนต้องแลกคือต้นทุนในการเรียนรู้สิ่งเหล่านี้
ประเด็นที่สองก็คือ ภาระที่เข้าถึงการบริการหรือนโยบายรัฐที่ต้องแลกมาด้วยต้นทุนในการปฏิบัติตามนโยบาย ประเด็นนี้ยกตัวอย่างง่าย ๆ เช่น การต้องเดินทางเพื่อนำเอกสารไปให้กับภาครัฐเพื่อให้เป็นไปตามกติกา สิ่งที่เสียไปก็คือต้นทุนเรื่องเงินค่าเดินทาง หรือหากจะยกตัวอย่างอีกสักอันก็คือ การนั่งรอให้ภาครัฐดำเนินการนโยบายให้ สิ่งที่ประชาชนต้องเสียไปก็คือต้นทุนด้านเวลา
ประเด็นสุดท้ายก็คือ ภาระที่เข้าถึงการบริการหรือนโยบายรัฐที่ต้องแลกมาด้วยต้นทุนทางจิตวิทยา ซึ่งต้นทุนชนิดนี้อาจจะทำให้เกิดความรู้สึกที่กระทบกระเทือนจิตใจ ยกตัวอย่างให้เห็นภาพชัด ๆ คือ ในช่วงที่มีการประกาศใช้โครงการเราชนะ มีคุณยายท่านหนึ่งถูกเจ้าหน้าที่ดุตอนเข้าไปทำเอกสารจนร้องไห้ นี่คือตัวอย่างของการสูญเสียต้นทุนทางจิตวิทยาเพราะรู้สึกถูกด้อยค่า โดนดูถูกเหยียดหยาม หรืออาจจะเป็นการซักถามเรื่องส่วนตัวมากจนรู้สึกถูกคุกคาม เป็นต้น
ทั้ง 3 ต้นทุนที่ว่า เป็นอุปสรรคในการเข้าถึงการรับบริการหรือนโยบายของรัฐ เพราะบางทีประชาชนไม่มีต้นทุนมากพอที่จะจ่ายทั้งตัวเงินและเวลา รวมไปถึงอาจจะรู้สึกลบ ๆ จนไม่เข้ารับบริการหรือรับนโยบายของรัฐทั้ง ๆ ที่พวกเขามีสิทธิ์นั้น
ที่นี้หากวกกลับมาที่ประเด็นโครงการเราชนะ ในงานวิจัยชิ้นนี้ได้สะท้อนให้เห็นภาพว่า โครงการเราชนะที่เป็นโครงการกึ่งมาตรการทางการคลังที่เกิดมาเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่สำหรับผู้ที่ไม่มีสมาร์ตโฟนมีต้นทุนที่ต้องจ่ายหลายส่วน ไม่ว่าจะเป็นการเสียเวลา, เสียโอกาส, เสียเงิน เพราะประชาชนที่ไม่มีสมาร์ตโฟนต้องเดินทางไปลงทะเบียนตามจุดลงทะเบียนต่าง ๆ และบางคนมีสมาร์ตโฟนแต่ไม่สามารถลงทะเบียนได้สำเร็จก็จำเป็นต้องเดินทางมาเช่นเดียวกัน รวมถึงในช่วงนั้นมีโควิด-19 ระบาด ประชาชนจำเป็นต้องเสี่ยงต่อการติดโรคระบาดเพื่อเข้ารับบริการจากนโยบายรัฐ
และดังที่ได้เกริ่น ๆ ไปข้างต้นคือ ต้นทุนทางจิตวิทยาที่ประชาชนต้องเสีย มีความรู้สึกแย่ที่ต้องแก่งแย่งเพื่อลงทะเบียน หรือการถูกเจ้าหน้าที่พูดจาหรือปฏิบัติด้วยวิธีการที่แย่ ๆ หรือปฏิเสธที่จะให้บริการ ทั้งหมดที่อธิบายมาเพื่อสะท้อนให้เห็นถึงนโยบายรัฐที่เหมือนจะเป็นการจัดทำแบบบนลงล่าง และจุดบอดของนโยบายนี้คือภาครัฐมองข้ามความแตกต่างและความรู้ในการใช้สมาร์ตโฟนของประชาชนแต่ละคน
ส่วนนโยบายที่กำลังจะเกิดขึ้นในรัฐบาลปัจจุบันก็คือ ‘นโยบายดิจิทัลวอลเล็ต’ ที่เป็นมาตรการกึ่งการคลังเช่นเดียวกัน และเพิ่งจะมีการประกาศขั้นตอนการลงทะเบียนออกเป็น 2 รูปแบบ ก็คือ ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการผ่านแอปลิเคชั่น สำหรับผู้ไม่มีสมาร์ตโฟนก็จะมีการจัดให้ลงทะเบียนในโครงการระยะถัดไป และจะเปิดให้ลงทะเบียนตามจุดที่กำหนด ส่วนข้อจำกัดก็คือ ผู้ไม่มีสมาร์ตโฟนจะใช้จ่ายได้ในพื้นที่ที่แคบกว่าผู้ที่มีสมาร์ตโฟน ส่วนผู้พิการอาจจะต้องรอลุ้นให้เปิดใช้จ่ายในรอบพิเศษถัดไป
ข้อดีของการจัดทำนโยบายดิจิทัลวอลเล็ตคือ การเปิดให้ลงทะเบียนที่คิดมาครอบคลุมแล้วทั้งผู้ที่มีสมาร์ตโฟนและไม่มีสมาร์ตโฟน โดยมีการแถลงเนื้อหาแยกกันของทั้ง 2 ประเด็นนี้เพื่อป้องกันการสับสนของประชาชน แต่สิ่งที่อาจจะต้องพึงระวังคือ ข้อจำกัดของการใช้งานสำหรับกลุ่มที่ไม่มีสมาร์ตโฟนที่ดูจะเสียเปรียบกว่า ไปจนถึงปัญหาการลงทะเบียน หรือปัญหาต่าง ๆ ที่นำมาสู่การสูญเสียต้นทุนต่าง ๆ ของประชาชน จนนำสู่การปฏิเสธการเข้ารับบริการหรือเข้ารับนโยบายดังที่เคยเกิดขึ้นในโครงการเราชนะมาก่อนแล้วนั่นเอง
อ้างอิง
- https://so05.tci-thaijo.org/index.php/PSPAJ-KKU/article/view/259278/179354
- https://www.thairath.co.th/news/society/2802917
- https://www.facebook.com/watch/?v=422367735540950
- https://www.prachachat.net/finance/news-1615312