คำถามที่ว่าคนไทยมาจากไหน? แล้วมาจากเทือกเขาอัลไตหรือเปล่า? เป็นคำถามที่ได้ยินกันอยู่บ่อยครั้งเมื่อตั้งคำถามเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ชาติไทย ก่อนจะมีอาณาจักรสุโขทัยเป็นราชธานี อาจเพราะสิ่งที่เราร่ำเรียนกันในหลักสูตรการศึกษาปัจจุบัน ไม่สามารถให้คำตอบที่ลึกพอจะหยุดความสงสัยใคร่รู้ของพวกเราได้
ขยายความเรื่องเทือกเขาอัลไตกันก่อน โดยเทือกเขาอัลไตเป็นชื่อที่เคยปรากฏในหลักสูตรการศึกษาของไทย ว่าเป็นแหล่งที่มาของคนไทย ก่อนที่จะย้ายถิ่นฐานมาอยู่บริเวณพื้นที่ประเทศไทยอย่างในปัจจุบัน แต่ความจริงแล้ว หลักสูตรการศึกษาไทย นำเรื่องนี้มาจากหนังที่ชื่อว่า “หลักไทย” ที่เขียนโดยขุนวิจิตรมาตรา
แต่ตัวคนเขียนเองก็ไม่ได้มั่นใจแน่ชัดว่าคนไทยมาจากเทือกเขาอัลไต เพราะขุนวิจิตรมาตราเคยบอกไว้ในเดือนมีนาคม พ.ศ. 2523 ในนิตยสารศิลปวัฒนธรรมว่า เรื่องนี้ที่เขียนในหลักไทย ท่านอ้างอิงตามหมอดอดด์ (William Clifton Dodd) มิชชันนารีชาวอเมริกัน ในสมัยรัชกาลที่ 5 ที่เขียนหนังสือ “The Tai Race: Elder Brother of the Chinese” ซึ่งเล่าไว้ว่า คนไทยน่าจะมีเชื้อสายมาจากมองโกล และชาวมองโกลเคยมีถิ่นอาศัยอยู่บริเวณเทือกเขาอัลไต นั่นอาจทำให้ขุนวิจิตรมาตราสรุปความจากข้อมูลนี้ลงในหนังสือของตัวเองอย่างที่เล่าไป
จากหลักฐานที่พบในปัจจุบันซึ่งไม่มีความเชื่อมโยงของคนไทยกับคนแถวเทือกเขาอัลไต รวมถึงระยะทางที่ห่างไกลมาก ๆ ทำให้หนังสือ “กำเนิดชนชาติไทยและหลักฐานการอยู่อาศัยของกลุ่มชนในประเทศไทย” ที่เรียบเรียงโดยวิสันธนี โพธิสุนทร และตีพิมพ์โดยกรมศิลปากรในปี พ.ศ. 2548 มีการกล่าวไว้ว่า แนวความคิดเรื่องเขาอัลไตต้องถูกหักล้างไป จากการค้นพบหลักฐานหลายประการในพื้นที่แห่งนั้น
แล้วความจริง เทือกเขาอัลไตอยู่ที่ไหน?
เทือกเขาอัลไต เป็นเทือกเขาที่มีขนาดใหญ่มาก มีพื้นที่กว้างมากกว่า 16,000 ตารางกิโลเมตร โดยครอบคลุมพื้นที่ในประเทศรัสเซีย มองโกเลีย จีน และคาซักสถาน โดยเทือกเขาอัลไตเป็นพื้นที่ที่ UNESCO ยกให้เป็นหนึ่งในแหล่งมรดกโลกทางธรรมชาติ เพราะอากาศที่หนาวเย็น ทำให้หลักฐานทางชีววิทยาหลายอย่างถูกเก็บรักษาไว้ที่นี่
หนึ่งในหลักฐานทางชีววิทยาที่เคยถูกศึกษาบริเวณเทือกเขาอัลไตคือ ฟอสซิลกระดูกนิ้วมือของมนุษย์โบราณ ซึ่งค้นพบที่ถ้ำดีนิซอวา (Denisova Cave) ในปี พ.ศ. 2553 และทำการศึกษาโดย สวานเต แพโบ (Svante Pääbo) นักวิทยาศาสตร์รางวัลโนเบล จนพบว่าฟอสซิลกระดูกนิ้วมือนี้ เป็นของมนุษย์โบราณสายพันธุ์ใหม่ที่ถูกค้นพบเป็นครั้งแรก เรียกว่ามนุษย์ดีนิซอวา โดยการศึกษานี้เป็นการค้นพบมนุษย์สายพันธุ์ใหม่ด้วยวิธีการตรวจสอบหลักฐานทางดีเอ็นเอเป็นครั้งแรก
ดีเอ็นเอ ซึ่งเป็นสารพันธุกรรมในสิ่งมีชีวิต กลายมาเป็นเครื่องมือสำคัญในการย้อนอดีตหาที่มาว่าก่อนจะเป็นคนไทย บรรพบุรุษเราเป็นใครมาก่อน?
คนในประเทศไทย ใช่คนไทยหรือเปล่า?
คำถามสำคัญที่ต่อเนื่องมาจากคำถามว่า คนไทยสมัยก่อนมาจากที่ไหน? คือคำถามที่ว่า คนที่อยู่ในพื้นที่ประเทศไทยก่อนหน้าสุโขทัยใช่คนไทยหรือเปล่า? ถ้าไม่ใช่ แล้วบรรพบุรุษของคนไทยเราทุกวันนี้ มาจากไหนกันแน่?
ถ้านับหลักฐานเก่าแก่ที่สุดตามที่พบในประเทศไทย ต้องกล่าวถึงหลักฐานที่พบในแหล่งโบราณคดีเพิงผาถ้ำลอด อำเภอปางมะผ้า จังหวัดแม่ฮ่องสอน มีโครงกระดูกของมนุษย์เพศหญิงคนหนึ่ง ที่เคยอาศัยอยู่ในพื้นที่ดังกล่าวของประเทศไทยเมื่อ 13,640 ปีที่แล้ว ในสมัยไพลสโตซีนตอนปลาย เรียกกันว่า “เลดี้แห่งถ้ำลอด” มีลักษณะรูปหน้าสั้น หน้าผากกว้าง และริมฝีปากหนา แต่ก็ยังไม่มีหลักฐานอื่นใดที่บอกว่า เลดี้แห่งถ้ำลอด เป็นผู้สืบเชื้อสายคนไทยมาจนถึงปัจจุบัน
หลักฐานที่เก่าแก่ที่สุด ที่ชี้ให้เห็นว่า มนุษย์กลุ่มแรกอพยพเข้าสู่เอเชียตะวันออกเฉียงใต้เมื่อประมาณ 60,000 ปีที่แล้ว เป็นฟอสซิลที่พบในถ้ำผาลิง ประเทศลาว โดยเจ้าของฟอสซิลนั้นมีลักษณะเป็นคนที่ตัวเล็ก ผิวดำ ผมหยิก เรียกว่าเป็นลักษณะของ นิกริโต (Negrito) ยกตัวอย่างมนุษย์กลุ่มนี้ เช่น ชาวมานิ (หรือชาวซาไก) ซึ่งเป็นชนพื้นเมืองกลุ่มนิกริโตดั้งเดิมในประเทศไทย
นักวิทยาศาสตร์คิดว่า ในช่วงระยะเวลาประวัติศาสตร์หลายพันปี หลังการอพยพเข้ามาในพื้นที่ประเทศไทย กลุ่มคนนิกริโตนั้นมีการผสมผสานกับชาติพันธุ์ออสโตรเอเชียติก หรือชาวมองโกลอยด์ผิวเหลืองที่เดินทางลงมาจากจีนตอนใต้เมื่อ 3,000-5,000 ปีก่อน ซึ่งตรงกับช่วงยุคหินใหม่ จนเกิดเป็นกลุ่มชาติพันธุ์มอญ-เขมรในเวลาต่อมา
หลักฐานจากแหล่งโบราณคดีบ้านเชียงในประเทศไทย มีอายุอยู่ประมาณ 2,700-3,200 ปีก่อน เป็นสมัยปลายยุคหินใหม่ ย่างเข้าใกล้ยุคเหล็ก พบว่าตัวอย่างโบราณในยุคหินใหม่ รวมไปถึงตัวอย่างกลุ่มคนไทยในยุคสำริด มีรหัสพันธุกรรมที่ใกล้ชิดกับชาวออสโตรเอเชียติก มากกว่ากลุ่มคนที่พูดภาษาไทยซึ่งอยู่ในกลุ่มภาษาไทกะไดอย่างในปัจจุบัน
ไม่ว่าจะมาจากไหน “เชื้อชาติไทย” ก็ไม่มีจริง
รศ. ดร.วิภู กุตะนันท์ ผู้เชี่ยวชาญด้านพันธุศาสตร์เชิงมานุษยวิทยา เคยทำงานวิจัยศึกษาว่า “คนไทยมาจากไหน” และได้ให้สัมภาษณ์ไว้ว่า ประเทศไทยเคยมีการศึกษามนุษยวิทยาพันธุศาสตร์มาตั้งแต่ปี 2001 แต่ในช่วงแรก ๆ เทคโนโลยีด้านการศึกษาชีวโมเลกุลยังมีความก้าวหน้าไม่มาก ทำให้การศึกษาเป็นไปอย่างเชื่องช้า
จนกระทั่งปี 2017 การวิเคราะห์รหัสพันธุกรรมที่มีความยาวรหัสมากขึ้น เสียค่าใช้จ่ายที่ถูกลง จนทำให้นักวิทยาศาสตร์สามารถวิเคราะห์ลำดับของรหัสพันธุกรรมไมโตคอนเดรียได้ง่ายดายกว่าเดิม รวมถึงการศึกษาด้วยชีวสารสนเทศ หรือ Bioinformatics ที่ใช้คอมพิวเตอร์ช่วยในการประมวลผล เป็นไปได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น หลังจากนั้นนักวิทยาศาสตร์ก็สามารถศึกษารหัสพันธุกรรมที่ยาวขึ้นได้เรื่อย ๆ
จากการศึกษาเท่าที่มีมาในปัจจุบัน ซึ่งเกิดจากการศึกษาดีเอ็นเอของคนไทยในทุกภูมิภาค สรุปง่าย ๆ ได้ว่า
- คนไทยภาคเหนือ คือ คนจีนตอนใต้ที่อพยพลงมา
- คนไทยอีสาน คือ คนเชื้อสายมอญ-เขมร รวมกับจีนตอนใต้
- คนไทยภาคใต้และภาคกลาง คือ คนที่มีเชื้อสายมอญที่ทดสอบทางสถิติแล้วไม่มีความแตกต่างกันในเชิงชาติพันธุ์ แต่ก็มีความเหมือนกับชาวอินเดียตอนใต้บางส่วนด้วย
โดยรวมแล้วคงตอบไม่ได้ว่าคนไทยแท้ ๆ ต้องเป็นแบบไหน
เชื้อชาติอื่น ๆ มีจริงบ้างไหม?
เดวิด ไรช์ (David Reich) นักพันธุศาสตร์ผู้เขียนหนังสือ “ดีเอ็นเอปฏิวัติ” (Who We Are and How We Got Here) เขาพยายามยืนยันว่า จากดีเอ็นเอของพวกเราทั้งหมด คนทั้งโลกล้วนเป็นลูกผสม
ตัวอย่างที่อยู่ในหนังสือ เป็นข้อมูลช่วงหนึ่งของประวัติศาสตร์สงครามโลก เมื่อพวกนาซีเคยโฆษณาชวนเชื่อเรื่องการสืบสายเลือดบริสุทธิ์จากชาวอารยันที่พูดภาษาอินโด-ยูโรเปียน ซึ่งตั้งรกรากอยู่ในเยอรมนีมาอย่างยาวนาน ผู้ที่ไม่ใช่ชาวอารยัน โดยเฉพาะชาวยิว จึงถูกกำจัดโดยพวกนาซี แต่ด้วยหลักฐานทางพันธุกรรม ทำให้การศึกษาโบราณคดีพบว่าบรรพบุรุษของพวกนาซี เคยเป็นกลุ่มคนที่อาศัยบริเวณทุ่งหญ้าสเตปป์ (Steppe) ในประเทศรัสเซีย แล้วจึงอพยพมาอยู่ในเยอรมนีสมัยหลัง ๆ ไม่ตรงกับสิ่งที่พวกนาซีพยายามโฆษณาชวนเชื่อ
แม้แต่มนุษย์โบราณก็ยังมีการผสมข้ามสายพันธุ์ จากที่เมื่อก่อนเคยเป็นเพียงสมมุติฐาน แต่ในปี พ.ศ. 2558 สวานเต แพโบ และทีมงาน ก็ได้พบหลักฐานการผสมข้ามสายพันธุ์ระหว่างนีแอนเดอร์ทัล และมนุษย์สมัยใหม่ ในตอนใต้ของยุโรป เมื่อ 50,000-60,000 ปีก่อน นั่นทำให้การตรวจดีเอ็นเอหาบรรพบุรุษของบางคนในสมัยนี้ ก็อาจพบว่าตัวเองมีบรรพบุรุษเป็นมนุษย์โบราณนีแอนเดอร์ทัลได้ด้วย
อย่างที่ เดวิด ไรช์ ยืนยันไว้ในหนังสือของเขา คนทั่วโลกก็ล้วนเป็นลูกผสม จากบรรพบุรุษที่ผสมข้ามกลุ่ม ข้ามสายพันธุ์ มาตลอดหลายพันหลายหมื่นปี นั่นจึงไม่ใช่เรื่องแปลก ถ้าจะบอกว่า คนไทยล้วนเกิดมาจากร้อยพ่อพันแม่ ไม่มีเชื้อชาติไทยแท้ ๆ มีแค่เพียงความเข้าใจว่าเราทุกคนล้วนเป็นมนุษย์เหมือน ๆ กันทั้งนั้น
อ้างอิง
- https://whc.unesco.org/en/tentativelists/5533/
- https://en.wikipedia.org/wiki/Altai_Mountains
- https://thematter.co/thinkers/altai-no-thai/5739#google_vignette
- https://library.tu.ac.th/search/detail/CATTOT000000699256?mainLink=/statistics/loanBestList
- https://www.nobelprize.org/prizes/medicine/2022/press-release/
- https://themomentum.co/theframe-wibhu-kutanan/
- https://www.matichon.co.th/article/news_3267252#google_vignette
- https://www.brandthink.me/content/code-thai-03/
- https://ngthai.com/history/39637/pangmapaarchaeologicalsites/