หลังจากจบฟุตบอลยูโรไปในเช้าวันจันทร์ โดยเป็นทีมชาติสเปน 🇪🇸 ที่ได้แชมป์ไปครองสำเร็จ และปิดฉากบอลทัวร์นาเมนต์ของทวีปยุโรปไปเป็นที่เรียบร้อย
ทำให้เหลือทวีปสุดท้ายของปีนี้ นั่นคือ “โคปา อเมริกา 2024” โดยเป็นคู่ชิงระหว่าง “แชมป์เก่า” ทีมชาติอาร์เจนตินา 🇦🇷 พบกับ ทีมชาติโคลัมเบีย 🇨🇴 ที่สนาม “ฮาร์ด ร็อค สเตเดียม” ไมอามี รัฐฟลอริดา สหรัฐฯอเมริกา 🇺🇸
มีประเด็นความน่าสนใจมากมายในเกมนี้ แต่ประเด็นที่ใหญ่มากสุดคือนาทีที่ 65′ ของการแข่งขัน เมื่อ “กัปตันทีม” ลิโอเนล เมสซี ที่กำลังวิ่งไปสกัดบอลจากคู่แข่ง แต่เจ้าตัวเสียหลักวางเท้าขวาลงพื้นแล้วพลิกในจังหวะดังกล่าว ส่งผลให้เขาตัดสินใจทิ้งตัวลงไปนอนกองบนสนาม และต้องทำการเปลี่ยนตัวออกไม่สามารถลงเล่นต่อได้ในเกมนี้
แน่นอนว่าเมสซีคือหัวใจสำคัญของคนในชาติ และเป็นพี่ใหญ่ของนักเตะชุดนี้ที่ทรงอิทธิพลที่สุด โดยเจ้าตัวนั่งข้างสนามด้วยการร่ำไห้เพราะไม่สามารถลงไปช่วยทีมชาติได้ และต้องเชื่อมั่นในตัวคนในทีมบนความเสี่ยงที่อะไรก็เกิดขึ้นได้ในรอบชิง
จนกระทั้งหมดครบ 90 นาทีเต็มเกมยังคงเสมอแบบไม่มีสกอร์ ต้องไปต่อเวลาพิเศษเพื่อหาผู้ชนะก่อนไปดวลจุดโทษท้ายที่สุด กลายเป็นในนาทีที่ 112′ กองหน้าสำรองอย่าง “เลาตาโร มาร์ติเนซ” ได้บอลแทงเร็วจาก “จิโอวานี่ โล เซลโซ” และยิงพุ่งบอลสวนผู้รักษาประตูโคลัมเบีย พาทีมขึ้นนำ 1 – 0 และเป็นประตูชัยสำคัญที่ทำให้อาร์เจนติน่าเอาชนะไปในเกมนี้ และรักษาแชมป์บอลทวีปได้สำเร็จอีกครั้ง
โดยในจังหวะทำประตู แม้ว่ามาร์ติเนซจะเป็นผู้ที่ยิงประตูชัยให้กับทีมได้ เขาแสดงความดีใจและวิ่งไปสวมกอดพี่ใหญ่อย่างเมสซีด้วยความภาคภูมิใจ โดยที่เกมยังไม่จบ มันแสดงให้เห็นถึงความรักของทุกคนที่มีต่อเมสซี เพราะเหตุใดเขาถึงได้รับสิ่งดีๆมากมายจากคนในทีมอาร์เจนตินา และยังเป็นศูนย์รวมใจของคนในประเทศที่ยกย่องเขาดังพระเจ้าร่วมกับอดีตตำนานอย่าง “ดิเอโก มาราโดนา” เขาทำได้อย่างไร วันนี้เราไปไขคำตอบของความรักที่ทุกคนให้พระเจ้าลูกหนังคนนี้กันครับ
🇦🇷 : พระเจ้าของประเทศที่คลั่งฟุตบอล
อย่างที่ทุกคนทราบดีว่าเมสซีคือนักฟุตบอลที่ยิ่งใหญ่ชาวอาร์เจนตินา ที่โด่งดังอย่างมากกับการได้เล่นในสโมสรยักษ์ใหญ่สเปนอย่าง “บาร์เซโลนา” และคว้าความสำเร็จมากมายในวงการฟุตบอล ปฏิเสธความเก่งกาจของนักเตะคนนี้ด้วยรางวัลผู้เล่นยอดเยี่ยมของโลกอย่าง “บัลลงดอร์” ถึง 8 สมัย
แต่ก่อนที่จะมาเป็นนักฟุตบอลระดับตำนานได้ขนาดนี้ เขาผ่านการถูกเมินจากทีมในบ้านเกิดด้วยความสูงที่เตี้ยเกินมาตรฐานนักกีฬาทั่วไป จนเกือบปิดโอกาสให้พระเจ้าผู้นี้ได้เฉิดฉายให้ทุกคนได้เห็นจนถึงทุกวันนี้
และเป็นบาร์เซโลนาที่เห็นถึงศักยภาพและกล้าเดิมพันกับเขา จนกลายมาเป็นนักเตะคนสำคัญของทีม จนมีชื่อเสียงและสร้างความสำเร็จร่วมกับบาร์เซโลนาจนเป็นที่ถูกกล่าวขานกันไปทั่วโลก แต่เมื่อต้องลงเล่นในนามทีมชาติ เขาเลือกลงเล่นรับใช้ชาติให้กับบ้านเกิดของเขาอย่างอาร์เจนตินา
โดยประเทศนี้เป็นหนึ่งในชาติที่คลั่งไคล้ฟุตบอลเป็นอย่างมาก จากการเป็นชาติแรกที่สร้างการแข่งขันฟุตบอลระดับชาติที่เคยนำเสนอไว้ในเรื่อง “นี่แหละเก่าแก่สุดของโลก” โดยถ้ามีผู้เล่นคนไหนที่สามารถพาทีมขึ้นไปครองความสำเร็จได้ พวกเขาจะเชิญชูคนเหล่านั้นดั่งพระเจ้า และเรียกบุคคลเหล่านี้ว่า “เมสสิยาห์” ของชาติ
โดยก่อนหน้านั้นบุคคลที่คนในชาติต่างเชิดชูดั่งพระเจ้า เขาคือ “เสือเตี้ย” ดิเอโก มาราโดนาผู้เป็นตำนานของโลกฟุตบอลที่พาอาร์เจนตินาคว้าความสำเร็จมากมายอาทิเช่น แชมป์ฟุตบอลโลก 2 สมัย และยังเป็นบุคคลที่ชาวอาร์เจนฯศรัทธาในความเก่งกาจและบารมีที่เขามี จึงทำให้ใครที่นำพาความสำเร็จมาสู่ชาติเปรียบบุรุษผู้นั้นคือพระเจ้าที่ดลบันดาลมาจุติบนโลกนี้ ในดินแดนฟ้าขาวของชาวอาร์เจนตินา เหมือนที่เมสซีกำลังเป็นในทุกวันนี้
🇦🇷 : ก่อนเป็นพระเจ้าที่ถูกรัก เคยเป็นคนที่ถูกรังเกียจมาก่อน
ย้อนกลับไปเมื่อปี 2014 อย่างที่หลายคนจดจำได้เกี่ยวกับเมสซีคือการที่เขาพาทีมชาติเข้าสู่รอบชิงฟุตบอลโลก 2014 ที่จัดขึ้นที่ประเทศอริตลอดกาลอย่างบราซิล 🇧🇷 และต้องชิงกับประเทศเยอรมัน 🇩🇪 ที่มีขุมกำลังสุดแกร่งและเพิ่งถล่มเจ้าภาพบราซิลไป 7 – 1
โดยเกมรอบชิงต่างมีความสูสี และต้องแข่งกันถึงช่วงต่อเวลาพิเศษ ในนาทีที่ 113′ เป็นอังเดร ชูเล่ห์เลี้ยงบอลจากฝั่งซ้าย ตบกลับเข้ามาให้สำรองทีเด็ดของเยอรมันอย่าง “มาริโอ เกิทเซ” จิ้มบอลเข้าไปซุกตาข่าย พาเยอรมันบุกมาฉลองชัยข้ามแดนอเมริกาใต้ และยัดความปราชัยให้กับตัวแทนเจ้าถิ่นอย่างอาร์เจนฯต้องช้ำใจในที่สุด
และในปีถัดมาเกิดการแข่งขันระดับทวีป 2 ปีติดกันคือปี 2015 และ 2016 โดยเมสซีพาทัพฟ้าขาวเข้ารอบชิงได้ถึง 2 ครั้ง และต้องพบคู่แข่งหน้าเดิมคือทีมชาติชิลี 🇨🇱 ซึ่งในครั้งแรกปี 2015 ชิลีที่เป็นเจ้าภาพโคปา อเมริกาในครั้งนั้น สามารถหยุดความอันตรายของเมสซีและทีมจนไปดวลจุดโทษ และในปีแรกเป็นชิลีที่สามารถชนะจุดโทษอาร์เจนตินาไปได้ 4 – 1 โดยมีเพียงแค่เมสซีที่ไม่พลาดจุดโทษในครั้งนั้น
แต่ถัดมาอีก 1 ปี เนื่องจากครบรอบ 100 ปีที่จัดการแข่งขันโคปา อเมริกาจึงจัดทัวร์นาเมนต์พิเศษนี้ที่สหรัฐฯ และเป็นคู่ชิงหน้าเดิมที่ต้องกลับมาพบเจอกันอีกครั้ง และยังไร้สกอร์ในการแข่งขันจนต้องไปดวลจุดโทษเหมือนเมื่อปีที่แล้วอีกครั้ง
โดยประเด็นที่สำคัญอยู่ตรงที่คนสังหารจุดโทษคนแรกของอาร์เจนฯคือเมสซี แต่เขาดันยิงพลาดบอลเกินข้ามคานไม่ได้ใกล้เคียงกับการเป็นประตู และจบการดวลกลายเป็นชิลีที่รักษาแชมป์ได้อีกครั้งด้วยสกอร์ 2 – 4 และสร้างความเจ็บปวดต่อเมสซีที่ถึงกับร้องไห้ออกมาจากความผิดหวังที่เกิดขึ้น
ด้วยเหตุนี้จึงมีแฟนบอลชาวอาร์เจนฯหลายส่วน เริ่มไม่ศรัทธาต่อพระเจ้าองค์นี้ และเชื่อว่าเมสซีก็เป็นได้เพียงนักเตะของบาร์เซโลนา ไม่ได้มีความยิ่งใหญ่หรือมอบความสำเร็จมาได้เหมือนที่มาราโดน่าเคยทำไว้ คำดูถูกและถากถางรวมไปถึงความผิดหวังที่เจ้าตัวเองก็ทราบ มันกัดกร่อนใจนักเตะคนนึงที่พยายามทำทุกอย่างให้ดีที่สุด แต่คนที่เขารักต่างสาปส่งไร้ใยดีต่อสิ่งที่เขาพยายามจะทำ เป็นเหตุให้เขาตัดสินใจประกาศอำลาทีมชาติในเวลานั้น และได้ไปทบทวนความผิดหวังต่างๆที่เกิดขึ้นเพื่อรักษาสภาพจิตใจของมนุษย์คนนึงให้กลับมาเข้มแข็งได้อีกครั้ง
🇦🇷 : ช่วงเวลาดำดิ่งของชาติ แต่พระเจ้ายังอยู่เคียงข้างเสมอ
หลังจากการอำลาที่เกิดขึ้นของเมสซี อาร์เจนตินาเริ่มเข้าสู่วิกฤตการณ์ต่างๆเข้ามาสู่วงการฟุตบอล วาระแห่งชาติคนใหญ่คนโตต่างขอร้องวิงวอนให้เมสซีกลับเข้ามาสู่ชาติอีกครั้ง แม้กระทั่งพระเจ้าองค์เก่าอย่างมาราโดนาสมัยที่ยังมีชีวิตอยู่ ยังเคยเตือนสติแฟนบอลและชาวอาร์เจนฯถึงการกระทำต่อนักเตะที่ดีที่สุดของชาติ และขอให้ยังคงเชื่อมั่นในสิ่งที่เมสซีจะนำพาความสำเร็จมาสู่ชาติได้อีกครั้ง
“ต่อให้ทีมชาติรุ่น U-15 แพ้ คนที่ผิดก็คือเมสซี ต่อให้การจัดการแข่งขันในลีกพลาด เมสซีก็ยังผิดอยู่ดี ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นในอาร์เจนฯ เมสซีก็ผิดหมดเสมอ…..
…..สิ่งที่ผมอยากบอกเขา หากอยากจะเลิกเล่น ก็จงเลิกมันไปเลย แล้วมาดูว่าอาร์เจนตินาจะเป็นอย่างไรหากขาดเมสซีแล้ว?” คำตรัสของพระเจ้าสื่อถึงพระเจ้าที่ยังจมในภาวะตกต่ำของช่วงเวลาที่เกิดขึ้น
หลังจากผ่านช่วงเวลาที่ทบทวนหลายสิ่งด้วยการสนับสนุนจากหลายฝ่ายช่วงให้เมสซีตัดสินใจกลับมารับใช้ชาติอีกครั้ง แต่อีกสิ่งอีกที่เขากลับมาในครั้งนี้คือการเป็นผู้มอบสิ่งต่างๆทั้งการช่วยเหลือทั้งเรื่องที่เกี่ยวกับฟุตบอล และช่วยเหลือในเรื่องระดับประเทศ เช่นการแบ่งบริจาคเงินส่วนนึงเพื่อช่วยเหลือวิกฤตของสมาคมจากปัญหาทางเศรษฐกิจของอาร์เจนตินา จากเรื่องเงินเฟ้อที่เกิดขึ้น หรือช่วงฝ่าวิกฤตโควิดก็เป็นเมสซีที่พร้อมจะบริจาคเงินบางส่วนที่ตัวเองมีเพื่อผู้คนอาร์เจนฯจะผ่านพ้นช่วงเวลาที่เกิดขึ้นไปได้
และแน่นอนว่าแม้ความผิดหวังที่ผ่านมาจะเป็นเรื่องที่บั่นทอนตัวเขา แต่หากมองในอีกมุมมันเป็นบทเรียนนึงที่สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคน และเอามาเป็นประสบการณ์ที่นำมามอบให้สู่ทุกคนในทีมชาติ สร้างสปิริตให้ทุกคนร่วมกันเป็นหนึ่งใจเดียว ผ่านเจตนารมณ์ของเขาที่มีต่อชาติบ้านเกิด และกลายเป็นจุดเริ่มต้นเล็กๆที่ทำให้ทุกๆคนเริ่มสัมผัสถึงสิ่งดีๆที่พระเข้าองค์นี้ค่อยๆประทานสิ่งดีๆมาสู่พวกเขาจากช่วงเวลาที่แย่ที่สุด แต่จะสามารถกลับไปลุยกันใหม่ได้อีกครั้ง
🇦🇷 : ร่วมใจให้เป็นหนึ่ง สิ่งที่พระเจ้าประทานความสำเร็จสู่อาร์เจนตินา
หลังจากผ่านปี 2020 หลายอย่างของฟุตบอลทีมชาติอาร์เจนตินาเริ่มค่อยๆแก้ปัญหาต่างๆที่ผ่านมาได้ ด้วยการเข้ามาคุมทีมของ “ลิโอเนล สคาโลนี” อดีตรุ่นพี่เพื่อนร่วมทีมชาติของเมสซี ได้เข้ามาพยายามปรับบางสิ่งที่เหมาะสมต่อรูปแบบการเล่นของอาร์เจนตินาชุดใหม่
ปัญหาที่ผ่านมาของทีมชาติมาจากการฝากภาระการเล่นทั้งหมดตกไปที่เมสซีมากเกินไป จริงที่ว่าเขาคือผู้เล่นที่ดีที่สุดของทีม แต่ฟุตบอลยุคใหม่ที่ถูกพัฒนาการเล่นให้มีประสิทธิภาพของความเป็นทีมมากกว่าการเล่นที่แบกด้วยผู้เล่นเพียงคนเดียว
ทว่าสคาโลนีเลือกให้เมสซียังคงเป็นศูนย์ใจการเล่นของทีม แต่ปรับให้ผู้เล่นอื่นๆในชาติ พยายามสร้างพลังงานการเล่นเพื่อช่วยเหลือวิธีการให้เมสซีได้เล่นในจังหวะที่น้อยแต่สร้างประสิทธิภาพให้กับทีม และด้วยผู้เล่นชุดใหม่ที่มีเมสซีเป็นแรงบันดาลใจ พวกเขาพร้อมเล่นถวายหัวให้พี่ใหญ่ที่เป็นขัวญใจและยังเป็นผู้คอยช่วยเหลือจนเป็นศูนย์รวมใจของชาติ มันช่วยให้อาร์เจนฯชุดนี้มีความแข็งแกร่ง และเล่นเป็นร่วมกันเป็นทีมโดยมีเมสซีเป็นผู้บัญชาการในสนาม
ด้วยผลลัพธ์นี้ส่งผลให้พวกเขาสามารถคว้าแชมป์โคาปาได้สำเร็จในปี 2021 และเป็นความสำเร็จที่สำคัญของเมสซีที่เขาพยายามทำมันมาโดยตลอดเพื่อมอบความสุขให้กับชาวอาร์เจนตินา และด้วยขุมกำลังที่สะสมความกระหาย อีกภารกิจสำคัญคือการก้าวไปครองแชมป์บอลโลก 2022 ที่อาร์เจนตินาถูกจับตามองให้เป็นเต็งหนึ่ง
รวมไปถึงการเฝ้ารอความสำเร็จของเมสซีที่ต้องการพิสูจน์ต่อความผิดหวังว่าเขาจะทำมันได้ร่วมไปกับทีมชาติชุดนี้ โดยพวกเขาดวลจุดโทษเอาชนะฝรั่งเศสไปอย่างสนุก และสามารถพิชิตเป้าหมายเป็นที่หนึ่งของโลกสำเร็จด้วยขุมกำลังที่มีเมสซีเป็นแก่นนำของชุดนี้
เมสซีเฝ้ารอมาตลอดจนทำให้อาร์เจนตินาชุดนี้ มีความแข็งแกร่งทั้งในเรื่องทีมและตัวผู้เล่น เมื่อทุกคนกลับมารวมตัวกันในนามทีมชาติ พวกเขาพร้อมมอบความปราชัยให้กับคู่แข่ง และพร้อมจะทำทุกอย่างเพื่อให้พระเจ้าของพวกเขา
เมื่อย้อนกลับมาที่รอบชิง แม้เมสซีจะออกไปข้างสนามและเจ้าตัวก็เสียใจที่ไม่สามารถช่วยทีมต่อได้ยันจบเกม แม้แต่แฟนบอลที่ตามมาเชียร์ก็รู้สึกได้ถึงความเศร้าที่เกิดขึ้น และผู้เล่นทุกคนในสนามก็พร้อมจะทำทุกทางให้ทีมคว้าชัยชนะ เพราะสิ่งที่เมสซีพนชยายามให้อาร์เจนตินา มันเป็นมากกว่าความรักที่คนๆนึงจะมอบให้ใครสักคนได้
และเมื่อจบเกมด้วยความสำเร็จ สิ่งนี้มันเป็นการแสดงออกให้เห็นถึงความสัมพันธ์อันดีผ่านชายคนนึงที่ถูกยกย่องว่าเป็นพระเจ้า และเจตนาที่อยากแสดงให้ทุกคนได้รับรู้ จนในวันที่เขาต้องเสียใจมากที่สุด ผู้คนที่ได้รับความตั้งใจจากเขา ก็ได้ตอบแทนสิ่งดีๆี่พระเจ้ามอบให้ เป็นความสำเร็จที่พิสูจน์ให้เห็นแล้วในศึกโคปา อเมริกา 2024 ด้วยการเป็นแชมป์ของทีมชาติอาร์เจนตินา 🇦🇷🏆