หากคุณนั่งทำงานอยู่ใจกลางเมืองกรุงเทพฯ ก็คงจะรู้ดีว่าการจราจรนี้มีความหนาแน่นค่อนข้างมาก รถสัญจรไปมาตลอดทั้งวันและไม่สามารถคาดเดาได้ว่าจะติดในช่วงเวลาไหนบ้าง โลกนี้จึงได้มีสิ่งที่เรียกว่า ‘สัญญานไฟจราจร’ และ ‘ทางม้าลาย’ เพื่อเป็นเครื่องมือที่จะช่วยให้ผู้คนสามารถเดินข้ามถนนไปมาได้อย่างปลอดภัย
แต่ทุกคนคงรู้กันดีว่านิสัยการขับรถและการเคารพกฏจราจรของแต่ละคนไม่เท่ากัน หากจะยกกรณีตัวอย่างให้เห็นภาพขึ้นมาอีกนิด ทุกคนคงจะจำได้ว่าในปี 2565 ได้เกิดกรณีของ ‘หมอกระต่าย’ ที่ถูกรถบิ๊กไบค์ชนเสียชีวิตขณะกำลังข้ามถนนอยู่บนทางม้าลาย บริเวณเขตราชเทวี กรุงเทพฯ และก่อนหน้านั้นก็มีกรณีของผู้สื่อข่าวแกรมมี่ที่ถูกรถชนจนเสียชีวิตที่แยกอโศกด้วยสาเหตุที่คนขับรถไม่ยอมหยุดรถเมื่อเห็นสัญญาณไฟ จนนำมาสู่การรณรงค์ให้ผู้ใช้รถใช้ถนนเคารพกฏ สัญญาณไฟจราจร และสัญญาณไฟทางม้าลายเพื่อป้องกันไม่ให้อุบัติเหตุในลักษณะเดียวกันเกิดซ้ำขึ้นอีก
ทีม SUM UP จึงได้ลงพื้นที่สำรวจผู้ใช้รถใช้ถนนบริเวณแยกอโศกมนตรีว่ามีพฤติกรรมเป็นอย่างไรบ้าง ซึ่งก็พบว่าผู้ขับขี่รถทั้งมอเตอร์ไซต์และรถยนต์ส่วนใหญ่ไม่จอดเวลาสัญญานไฟทางม้าลายขึ้นเป็นสีแดงและขับฝ่าออกไป นอกจากนี้ยังมีบางคนจอดบนทางม้าลาย หรือกลับรถบริเวณตรงทางม้าลาย โดยพฤติกรรมที่ไม่เคารพกฏจราจรและเพื่อนร่วมทางเหล่านี้ สุ่มเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุแก่ผู้คนที่สัญจรไปมาเป็นอย่างมาก
อย่างไรก็ดี ถนนจัดว่าเป็น ‘สินค้าสาธารณะ’ ที่ทุกคนใช้ประโยชน์ร่วมกัน ดังนั้นทุกคนอาจจะต้องเคารพกฏกติกาและไม่ประมาท เพื่อให้ทุกคนสามารถใช้ประโยชน์กับสิ่งนี้ไปพร้อมกับการมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ปลอดภัยนั่นเอง









