ในวงการเพลงปัจจุบันที่ใครก็มีผลงานเป็นของตัวเองได้ สิ่งสำคัญของการจะเป็นศิลปินที่น่าจับตามองเลยคือฝีไม้ลายมือที่เป็นเอกลักษณ์ และต้องทำผลงานออกมาให้โดนใจคนฟังอยู่เสมอ แน่นอนว่าในยุคที่เพลงใหม่มีปล่อยให้ฟังกันทุกวันแบบนี้ การจะมีใครโดดเด้งขึ้นมาไม่ใช่เรื่องง่าย
แต่มีคนหนึ่งเลยที่เรากล้าพูดว่าเป็นเรื่องยาก หากคุณจะไม่เคยได้ยินผลงานของเธอ ทั้งการเป็นผู้ร้อง หรือการเป็นผู้สร้างสรรค์ อย่าง ‘Badmixy’ หรือ ‘มิกซ์ เฉลิมศรี’ Influencer ชื่อดังจากแก๊งหิ้วหวีไป หิ้วหวีมา ที่นอกจากบุคลิกภาพและตัวตนของเธอจะโดดเด่นแล้ว ผลงานด้านการทำเพลงของเธอก็ไม่น้อยหน้าใคร จนเพจ ‘จ๊อกจ๊อก’ ถึงกับพาดหัวข่าวเลยว่าเธอเป็น ‘ครูสลา’ แห่งวงการเพลง LGBTQ+ ในไทย (ซึ่งก็ไม่ผิดนัก!) SUM UP เลยอยากพาคุณไปรู้จักกับหลากหลายผลงานเพลงที่น่าสนใจของเธอจนถึงตอนนี้กัน
เพลง ‘เพื่อนไม่ไหว’ เวอร์ชันที่ 2 (2021)
เพลงแรกในชีวิตที่มิกซ์แต่งอย่างเป็นเรื่องเป็นราวเลยคือ ‘เพื่อนไม่ไหว’ เมื่อต้นปี 2021 เพลงแห่งความ Friend Zone ที่เธอแต่งขึ้นมาจากการได้ฟังเพลงของ Polycat และ Saveplanet จนทำให้ในเวอร์ชัน Teaser แรกที่ปล่อยออกมา ทำนองและเมโลดี้ของเพลงดันไปคล้ายคลึงกับเพลง ‘กอดความเจ็บช้ำ’ และกลายเป็นดรามายกใหญ่เมื่อ 3 ปีที่แล้ว จนมิกซ์รับเอาข้อคิดเห็นเหล่านั้นไปแก้ไขทำนองให้กลายเป็นเวอร์ชันที่เผยแพร่ได้จริง และแก้ไขอีกครั้งเป็นเวอร์ชันที่สามในอัลบั้มเต็มแรกของเธอในชื่อ ‘แค่เพื่อนไม่ไหว’ นั่นเอง
เพลง ‘แค่เพื่อนไม่ไหว’ เวอร์ชันที่ 3 (2023)
ก่อนที่จะมีเพลงที่สองต่อกันมาในช่วงปลายปี 2021 อย่างเพลง ‘Next Love’ ที่ลีลาของเพลงจัดจ้านขึ้นแบบก้าวกระโดด และทำให้จุดนี้น่าจะเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้มิกซ์น่าจับตามองมากขึ้นในฐานะ Influencer ที่ผันตัวมาทำเพลงจริงจัง เหมือนกับ Influencer หรือ Youtuber คนอื่น ๆ ที่หันมาทำเพลงในยุคเดียวกันเช่นกัน
ภาพนี้ยิ่งชัดขึ้นเมื่อมิกซ์แต่งเพลงให้กับแก๊ง ‘หิ้วหวีไป หิ้วหวีมา’ 2 เพลงติดต่อกัน ทั้ง ‘Get Me Cum’ (ธันวาคม 2021) และ ‘No.1 (โปรดเลือกฉันเป็นความรักอีกครั้ง)’ (ตุลาคม 2022) ซึ่งมีรูปแบบแนวเพลงแตกต่างกันพอสมควร และการปล่อยเพลง 2 เพลงห่างกันเกือบ 1 ปี ก็ทำให้เราเห็นพัฒนาการในการสร้างสรรค์เพลงของเธอว่ากำลังเริ่มเข้าที่เข้าทางมากขึ้น
จนมาถึงช่วงเดือนพฤศจิกายน 2023 มิกซ์ได้เปิดตัวชื่อใหม่ในวงการเพลงของเธอ อย่าง ‘Badmixy’ และปล่อยเพลงในรูปแบบ Studio Album กว่า 7 เพลงออกมาพร้อมกัน ทั้ง เพดานสีขาว, ถ้าไม่มีฉัน, แค่เพื่อนไม่ไหว, คิดถึงโว้ย, ลองแกล้งหายไป, โอ้ละหนอไอ้แฟนเก่า
และเพลงสุดท้ายที่ทำให้สังคมสนใจมิกซ์ในฐานะศิลปินมากขึ้น อย่าง ‘ฟ้ารักพ่อ’ เพลงที่แต่งขึ้นจากคีย์เวิร์ดดังของ ‘เรยา’ (นำแสดงโดย อารยา เอ ฮาร์เก็ต) ในละครเรื่อง ‘ดอกส้มสีทอง’ ที่ว่า “ถ้าฟ้าต้องเสียตัว ฟ้าต้องได้เป็นแอร์” จากฉากที่เรยาพูดกับคุณสินธร (นำแสดงโดย วรวุฒิ นิยมทรัพย์) ว่าเธอจะต้องได้เป็นแอร์โฮสเตสในสายการบินของเขาเท่านั้น เธอถึงจะยอมยื่นหมูยื่นแมวให้ด้วยเนื้อตัวของเธอ
อีกทั้งเพลง ‘ฟ้ารักพ่อ’ นี้ก็ยังมีการเชิญศิลปินที่มีท่อนเพลงขวัญใจคุณน้า ๆ อย่าง “ป๋าสั่งอะไรหรือยัง แหมรู้ใจจัง สั่งที่หนูชอบ แป๊ะซะ ปลาช่อนตัวใหญ่ ต้มยำน้ำใส หนูช๊อบชอบ” หรือเนื้อของเพลงที่ชื่อ ‘หนูช๊อบชอบ’ ของ ‘ยุ้ย ญาติเยอะ’ ซึ่งก็เป็นเนื้อเพลงที่ถูกนำมาเล่นในหมู่คนรุ่นใหม่มากเหมือนกัน เมื่อทั้งสองเพลงนี้นำกลิ่น Pop Culture ที่สุดไวรัลมาใส่แบบนี้ ความดังของเพลงเลยกระจายไปทั่วโลกออนไลน์ และกลายเป็นหมุดหมายใหม่ของเธอที่ทำให้ได้ไปออกรายการ ได้สัมภาษณ์ และได้รับเชิญไปร้องเพลงในหลายคอนเทนต์
ในขณะเดียวกันที่มิกซ์ทำเพลงของตัวเอง มิกซ์ก็ยังเป็นคนเบื้องหลัง หรือ ‘Music Producer’ ที่ทำหน้าที่แต่งเพลง และสร้างภาพลักษณ์จาก Insight ของคนใกล้ตัวหลาย ๆ คน ทั้ง ‘เอิ้ก ชาลิสา’ เพื่อน LGBTQ+ ในกลุ่มเดียวกัน ที่มิกซ์แต่งเพลง ‘เลือดกรุ๊ปบี’ ที่มาจากคำพูดโบ้ยทุกสิ่งอย่างของเอิ้ก ไม่ว่าจะเป็นอะไรก็ตาม เธอจะโบ้ยว่าอาจเป็นเพราะเลือดกรุ๊ปบีอยู่เสมอ หรืออย่างเพลง ‘ชอบนอน’ ที่แต่งมาจากชีวิตจริงของเอิ้กที่ชอบนอนเหมือนกับชื่อจริง ๆ
มาถึงเพลงใหม่ล่าสุดของ ‘โยชิ รินลดา’ LGBTQ+ ที่ผู้คนต่างตกตะลึงในความสวยของเธอเสมอ แม้กระทั่งในหมู่เพื่อน ๆ ของเธอ หรือเหล่าคุณน้าในโลกออนไลน์เอง ที่มักจะหยิกแกมหยอกเสมอว่า “โยชิมาทำไม” ทุกครั้งเมื่อเห็นเธอมาในงานเดียวกัน และทำให้แสงสว่างในงานจับจ้องไปที่โยชิมากกว่าคนอื่น ๆ และกลายมาเป็นชื่อเพลง ‘มาทำไม’ ที่แต่งให้กลายเป็นเพลงรัก ซึ่งผู้ร้องบอกกับแฟนของเธอว่า “ไม่ต้องถามว่ามาทำไม ก็เพราะว่าใจมันคิดถึงเธอ” สิ่งนี้เป็นจุดแข็งของมิกซ์ในฐานะคนแต่งเพลงที่สามารถหยิบจุดแข็งของแต่ละคนมาสร้างสรรค์ให้เป็นทั้งเพลงประจำตัว และเพลงป๊อปยุคใหม่ที่น่าสนใจเพลงหนึ่งได้พร้อม ๆ กัน
ถึงวันนี้หลังจากผ่านดรามาอย่างเข้มข้นในจุดเริ่มต้นการทำเพลง ‘มิกซ์’ ได้เฉิดฉายและกลายเป็น ‘Badmixy’ ได้อย่างสมภาคภูมิ น่าติดตามต่อไปว่าผลงานใหม่ ๆ ของเธอเป็นไปในรูปแบบไหน แต่เชื่อเหลือเกินว่ามิกซ์จะยังคงรักษาคุณภาพ จากการเป็นคนฟังเพลงที่จริงจัง และนำความชอบเหล่านั้นมาเปลี่ยนเป็นความใช่ในแบบของเธอได้เป็นอย่างดี