14 มิถุนายน 2567 หลายคนที่ผ่านละแวก Emsphere คงจะเห็นเหล่าบรรดา “ด้อมหมีเนย” ล้อมรอบพื้นที่ชั้นล่างหน้าร้าน Butterbear เต็มไปหมด เพราะวันนี้เป็นวันเกิดของ “ยัยหมีเนย” ลูกสาวของชาวด้อมหมีเนย มาสคอตประจำร้าน Butterbear ที่สุดแสนน่ารัก ขี้เล่น และชอบเต้นมากๆ แน่นอนว่า ณ วันนี้หากพูดถึงมาสคอตที่หลายคนชื่นชอบ Butterbear คงเห็นมาสคอตตัวหนึ่งที่หลายคนคงพูดถึงกันอย่างแน่นอน วันนี้เราจะมาไขความลับของยัยหมีเนยสุดน่ารักกันว่ามีที่มาที่ไปอย่างไรบ้าง
เปิดเบื้องหลังยัยหมีเนย น้อนสาวสุดน่ารัก
ต้องบอกก่อนว่าไอดอลสาวสุดน่ารักคนนี้ ได้เริ่มเดบิวต์บนโลกออนไลน์ผ่าน TikTok โดยผู้คิดไอเดียนี้ก็ไม่ใช่ใครที่ไหน เขาคือ “บูม-ธนวรรณ วงศ์เจริญรัตน์” และ “เบลล์-ธนาภา ปางพุฒิพงศ์” สองเจ้าของร้านและผู้ก่อตั้งร้าน Butterbear ร้านอาหารขนมหวนที่ตั้งอยู่ที่ Emsphere ซึ่งทั้งคู่ใช้เวลาอย่างหนักในการพัฒนามาสคอตประจำร้าน จนได้ยัยน้อนหมีเนยสุดน่ารักตัวนี้
แนวคิดของทั้งคู่ในการสร้างน้อนหมีเนยตัวนี้ ไม่ใช่เพียงแค่อยากได้มาสคอตเฉยๆ เท่านั้น แต่ต้องการให้สามารถสื่อสารและเป็นตัวแทนเหมือนมนุษย์คนหนึ่งที่สามารถมีอารมณ์และความรู้สึกได้ รวมถึงสื่อสารกับลูกค้าของร้านได้ด้วยเช่นกัน
ไม่ใช่แค่มาสคอต แต่มีเพลงและตารางงานเป็นของตัวเอง!
แน่นอนว่าไอดอลสาวท่านนี้ เริ่มเป็นที่พูดถึงจากการโชว์ตัวและเต้นที่สนุกสนาน และเธอเองก็มักจะ Cover Dance อยู่เป็นระยะๆ จนถูกใจชาว TikTok และกลายเป็นด้อมหมีเนยขึ้นมาในช่วงเวลาถัดมา ซึ่งเจ้าตัวเองก็มีเพลงออกมาแล้วทั้งหมด 2 เพลง ได้แก่ It’s Butterbear! ซึ่งต้องยอมรับว่าตัวผมเองก็ติดเพลงนี้มากๆ เช่นกัน เพราะเนื้อหามันน่ารักเสียเหลือเกิน
It’s Butterbear Butterbear
Your Buttery Best Friend
Butterbear Butterbear
I’m here to cheer you up!
ซึ่งมีเนื้อหาที่หมายถึง “ฉันจะเป็นเพื่อนที่เติมพลังให้คุณ และฉันจะเชียร์คุณให้สู้ต่อไป” แหม่ น่ารักขนาดนี้ไม่ให้ติดได้อย่างไรกัน นอกจากนี้ยังมีเพลงใหม่อย่าง น่ารักมั้ยไม่รู้ ที่มีเนื้อหาน่ารัก เสมือนคนอยากเทคแคร์คนข้างๆ เช่นกัน
นอกจากนี้เจ้าตัวยังสื่อสารกับด้อมใน Social Media อย่างสม่ำเสมอ เปรียบเสมือนเป็นคนๆ หนึ่งเลยก็ว่าได้ เพราะใน Social Media ของเจ้าตัวก็มีจะอัปเดตตั้งแต่การไปเรียน การโชว์ตัว และกิจกรรมของน้องหมีเนยด้วยเช่นกัน ซึ่งทำให้หลายคนที่เข้ามาเจอต้องเอ็นดูน้องหมีเนยด้วยเช่นกัน ยังไม่นับรวมบน TikTok ที่ขยันอัปโหลดคลิปการเต้นของน้องหมีตลอดเวลา เรียกได้ว่าเป็นจุดพักใจที่ดีเลยก็ว่าได้
ถูกพูดถึงบน Social Media กว่า 13 ล้านครั้ง!
อย่างไรก็ดี Zanroo ผู้เชี่ยวชาญด้านโซเชียลดาต้า ได้ทำข้อมูลออกมาเกี่ยวกับการพูดถึง Butterbear ตั้งแต่วันที่ 1 – 12 มิถุนายน 2567 จากช่องทาง Facebook, X (Twitter), Instagram, TikTok และ YouTube พบว่ามีการพูดถึงรวมอยู่ที่ 13,599,968 เอ็นเกจเมนต์ โดยจะมากที่สุดบน TikTok 9,971,877 เอ็นเกจเมนต์ รองลงมาคือบน X (Twitter) 3,554,490 เอ็นเกจเมนต์ และบน Instagram 41,184 เอ็นเกจเมนต์
สาเหตุอาจจะเพราะด้วยเนื้อหาคลิปสั้นบน TikTok ส่วนใหญ่เข้าถึงได้ง่าย และตัวตนของ Butterbear มีการอัปโหลดคลิปบน TikTok มากขึ้นเรื่อยๆ หลังจากที่กระแสความนิยมเริ่มก่อตัวขึ้นเป็นระยะๆ รวมไปถึงเพราะความน่ารักของน้องหมีเนยด้วยเช่นกัน

รายได้ของเจ้าของ Butterbear ไม่ใช่น้อยๆ
Butterbear ร้านอาหารขนมหวาน เป็นร้านอาหารในเครือ Coffee Beans by Dao ซึ่งบริหารโดย บริษัท เอฟ แอนด์ บี บายดาว จำกัด ปัจจุบันนอกจาก Butterbear แล้วยังมีร้าน Coffee Beans by Dao อีกหลายสาขาด้วยเช่นกัน ซึ่งผลประกอบการย้อนหลัง 3 ปี มีรายได้และกำไรที่เติบโตเลยทีเดียว
- ปี 2564 รายได้รวม 282,881,645.49 บาท กำไรสุทธิ 653,772.86 บาท
- ปี 2565 รายได้รวม 385,058,958.13 บาท กำไรสุทธิ 1,313,026.85 บาท
- ปี 2566 รายได้รวม 407,705,180.62 บาท กำไรสุทธิ 1,187,605.76 บาท
วิเคราะห์น้องหมีเนย ถ้าอยากสำเร็จแบบเขา ต้องทำยังไง?
หากจะลองวิเคราะห์น้องหมีเนยว่าทำไมถึงประสบความสำเร็จขนาดนี้ คงตอบได้ง่ายๆ ตามหลักทางการตลาดและการบริการได้หลักๆ ดังต่อไปนี้
- ต้องสร้างตัวตนที่มีชีวิต ไม่ใช่เป็นเพียงมาสคอตเฉยๆ
เพราะท้ายที่สุดแล้ว มนุษย์ก็อยากสื่อสารกับมนุษย์เหมือนกัน สิ่งที่แบรนด์ที่อยากมีมาสคอตต้องคำนึงถึงคือการสร้างตัวตนของมาสคอตให้มีชีวิตชีวา มีการสื่อสารสองทางมากขึ้น เพื่อทำให้กลุ่มลูกค้าใหม่ๆ เข้าถึงมากขึ้น
- Social Media คือแต้มต่อ หากทำดี = ได้ลูกค้าเพิ่ม
การทำให้มาสคอตเป็นที่จดจำ ไม่ได้เพียงแค่การออกโชว์เพียงแค่หน้าร้านเท่านั้น แต่ต้องสื่อสารบนโลกออนไลน์ให้เสมือนแบรนด์กำลังสื่อสารกับผู้คนอยู่เสมอ และทำให้คนที่มาพบเห็นนั้นมีแต่พลังบวกหลังจากที่ได้เห็นการสื่อสารของเรา รับรองได้ลูกค้าแน่นอน
- Service Mind ยังคงสำคัญ ทำตัวให้รัก = รักจนตั้งด้อม
สิ่งสำคัญคือต้องบริการด้วยใจ ไม่ว่าเขาจะเป็นลูกค้าของเราในตอนนี้หรือไม่ เพราะสิ่งสำคัญคือการสร้างสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้าในอนาคต แล้วถ้าหากวันหนึ่งเขาตกหลุมรักเขาขึ้นมา เขาก็อาจจะเป็นลูกค้าในอนาคตของเราก็ได้