กลุ่มนักอนุรักษ์กัมพูชาพบปรากฏการณ์ ‘ปะการังออกไข่’ เป็นครั้งที่ 2 บริเวณหมู่เกาะรง

2 พฤษภาคม 2568

นับเป็นอีกหนึ่งข่าวดี เมื่อกลุ่มนักอนุรักษ์กัมพูชาได้พบปรากฏการณ์ปะการังออกไข่ในน่านน้ำชายฝั่งกัมพูชา บริเวณหมู่เกาะรง จังหวัดพระสีหนุ ซึ่งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศ โดยทางทีมงานจากโครงการพืชและสัตว์เฉพาะถิ่นกัมพูชา (Fauna & Flora-Cambodia Program) ที่ทำงานร่วมกับกระทรวงสิ่งแวดล้อมและกระทรวงเกษตร ป่าไม้ และประมง ได้ดำเนินการสำรวจระหว่างเดือนกุมภาพันธ์จนถึงเดือนมีนาคม 2568 ที่ผ่านมา โดยคาดว่าเป็นช่วงฤดูการวางไข่ของปะการัง

นี่นับเป็นครั้งที่ 2 ที่มีการพบการขยายพันธุ์ของปะการังในกัมพูชา นับตั้งแต่การค้นพบครั้งแรกในปี 2567 ซึ่งปรากฏการณ์นี้ถือเป็นสัญญาณเชิงบวกที่สะท้อนให้เห็นถึงการฟื้นตัวของระบบนิเวศปะการัง ทั้งนี้การเฝ้าติดตามและศึกษาเรื่องนี้อย่างต่อเนื่องมีความสำคัญอย่างมากที่จะช่วยให้เข้าใจรูปแบบการขยายพันธุ์ ตลอดจนสุขภาพโดยรวมของความหลากหลายทางชีวภาพในทะเล อีกทั้งความสำเร็จของโครงการนี้ยังสะท้อนให้เห็นถึงการให้ความสำคัญกับการอนุรักษ์ทรัพยากรทางธรรมชาติและการพัฒนาที่ยั่งยืนของรัฐบาลกัมพูชาและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

จากรายงานของ Fauna & Flora ระบุว่า แนวปะการังใกล้ชายฝั่งกัมพูชามีลักษณะเฉพาะคือมีระดับตะกอนในน้ำสูงและมีอุณหภูมิที่ผันผวนอย่างมาก ซึ่งแนวปะการังเหล่านี้ทำหน้าที่เป็นที่หลบภัยสำหรับปะการังสายพันธุ์ที่ทนความร้อนได้ดี ทั้งยังสามารถช่วยฟื้นฟูปะการังในพื้นที่อื่น ๆ บริเวณอ่าวไทยได้อีกด้วย นอกจากนี้ปะการังยังมีบทบาทสำคัญในการรักษาระบบนิเวศทางทะเล เพราะมีพันธุ์ปลาอีกหลายร้อยชนิดที่ต้องอาศัยปะการังในการหากินหรือใช้เป็นพื้นที่หลบภัย รวมถึงสัตว์ที่ไม่มีกระดูกสันหลังต่าง ๆ ก็มีความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกับปะการัง

อย่างไรก็ดี กระทรวงเกษตรฯ ได้กล่าวว่า การเฝ้าติดตาม สำรวจ และพบปรากฏการณ์ปะการังวางไข่ถึง 2 ปีถือเป็น ‘สัญลักษณ์แห่งความหวัง’ ที่แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของกัมพูชาที่จะปกป้องระบบนิเวศทางทะเลเพื่อคนรุ่นหลัง ส่วนทางด้านกระทรวงสิ่งแวดล้อม ระบุว่า นี่เป็นสัญญาณเชิงบวกที่บ่งบอกว่าทรัพยากรทางทะเลของกัมพูชากำลังดีขึ้น และมันเกิดขึ้นจากความพยายามในการอนุรักษ์และเฝ้าติดตามปะการังซึ่งเป็นสิ่งที่มีความสำคัญอย่างมากต่อระบบนิเวศ โดยสิ่งนี้จะสามารถช่วยส่งเสริมเศรษฐกิจผ่านการท่องเที่ยวบวกกับการส่งเสริมการทำประมงอย่างยั่งยืน

อ้างอิง