วันนี้ (25 มิ.ย 67) ถือเป็นหนึ่งวันสำคัญในแวดวงการคมนาคมไทย เนื่องจากเป็นวันครบรอบ 108 ปี สถานีรถไฟกรุงเทพ (หัวลำโพง) สถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ที่เป็นจุดศูนย์กลางแห่งการเดินทางของคนไทยมานับร้อยปี โดยสถานีรถไฟกรุงเทพ (หัวลำโพง) มีการก่อสร้างตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 แล้วเสร็จและเปิดใช้อย่างเป็นทางการในสมัยรัชกาลที่ 6 เมื่อวันที่ 25 มิถุนายน 2459 หากนับตั้งแต่รถไฟขบวนแรกแล่นเข้าสถานีจนถึงวันนี้ก็เป็นเวลากว่า 108 ปีแล้วที่สถานีหัวลำโพงเป็นสถานที่ที่ส่งคนไปออกเดินทางไปยังต่างจังหวัดและกลับบ้าน
นอกจากเป็นสถานีรถไฟที่เก่าแก่แล้ว สถาปัตยกรรมของสถานีรถไฟกรุงเทพ (หัวลำโพง) ยังเปรียบเสมือนสิ่งปลูกสร้างที่บ่งบอกถึงพัฒนาการของยุคสมัย เนื่องจากสถาปัตยกรรมของตัวอาคารสถานีเป็นศิลปะแบบเรเนอซองค์ผสมผสานกับโดมทรงอิตาลี คล้ายกับสถานีรถไฟในประเทศเยอรมนี การตกแต่งภายในใช้ทั้งบันได เสาอาคาร รวมถึงที่ทำการกองโดยสารนั้นใช้หินอ่อนจากเยอรมนีทั้งหมด แน่นอนว่ากระจกทุกบานและนาฬิกาทุกเรือนมีดีไซน์แบบในยุคก่อน ขับเน้นให้เราเห็นถึงเส้นเวลาที่แบ่งชัดระหว่างอดีตและปัจจุบันอยู่ทุกครั้งที่ได้ก้าวเท้าเข้าไปในสถานีรถไฟกรุงเทพ (หัวลำโพง)
ภาพรถไฟเก่าสีขาวแดง ตัดสลับกับสีขาวครีมที่หม่นหมองตามกาลเวลาของตัวอาคาร ผู้คนทุกชนชั้นวรรณะหลากหลายจุดหมายสะพายเป้เตรียมออกเดินทาง ยังคงเป็นภาพที่ซ้อนทับกับเมื่อครั้งอดีต เสาทุกต้นยังคงแบกรับน้ำหนักอาคารเก่าเอาไว้ พอ ๆ กับที่แบกรับสวัสดิภาพของนักเดินทางทั้งหลายมาร้อยปี จึงเป็นที่น่าเสียดายเล็กน้อยที่ในวันนี้จำนวนคนและการเดินทางลดน้อยลงจากการย้ายสถานีไปยังสถานีกลางบางซื่อ หรือสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ แต่เมื่อเข็มเวลาไม่เคยหยุดเดินก็เลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเปลี่ยนแปลง
สถานีรถไฟกรุงเทพ (หัวลำโพง) ยังคงส่งนักเดินทางทั้งเก่าใหม่ไปสู่เป้าหมายไม่ต่างจากหนึ่งร้อยปีก่อน ท่ามกลางสถาปัตยกรรมเก่าบนเข็มเวลาที่ผลัดเปลี่ยนวันใหม่มาเสมอ สถานีรถไฟกรุงเทพ (หัวลำโพง) จึงไม่ต่างจากพิพิธภัณฑ์ที่มีชีวิต เมื่อเราจ้องมองก็เหมือนสะท้อนภาพแห่งยุคสมัยออกมาอยู่ทุกเฟรม อีกไม่นานคงถึงเวลาที่สถานีแห่งนี้ต้องเกษียณอายุ หลังจากที่ทำงานมานานนับร้อยปี ถือว่าได้ทำเต็มที่ในฐานะการคมนาคมระบบรางยุคแรก ๆ ของประเทศไทย














