ในบรรดานักร้องศิลปินสายแร็ปเปอร์ต่างมีลู่ทางในการทำงานและการพิสูจน์ตนเองแตกต่างกันออกไป ทว่าท่ามกลางศิลปินมากมายมีหนึ่งคนที่น่าจับตามอง ‘JRBUBLEGUM’ หรือ พชร รักการค้า อดีตแร็ปเปอร์วง BEAR KNUCKLE ที่เคยฝากผลงานเพลงฮิตไว้มากมาย ได้ออกมาฉายแสงในฐานะศิลปินเดี่ยวเป็นครั้งแรก พร้อมบอกเล่าเรื่องราวและแง่คิดของเขาตลอดระยะเวลาการเดินทางในสายธารแห่งวงการบันเทิง การเป็นศิลปิน LGBTQIA+ และการพิสูจน์ตัวเองในแง่มุมอื่น ๆ รวมถึงที่มาของซิงเกิลใหม่อย่าง ‘แฉะ’ ที่ได้รับแรงบันดาลใจที่ไม่ธรรมดา
วันนี้เราจึงนัดพบกับเจอาร์ที่สตูดิโอหนึ่งใจกลางเมืองอโศก เพื่อพูดคุยเกี่ยวกับชีวิต แนวคิด และผลงานของเขา ซึ่งตลอดระยะเวลาการสนทนาเขาพูดคุยด้วยท่าทีที่เป็นกันเอง สดใส ร่าเริง ถ่ายทอดพลังบวกอยู่เสมอ เมื่อรวมกับคอสตู้มชุดสีชมพูดสดใส ประดับประดาไปด้วยดอกไม้ ยิ่งทำให้เขาเป็นคนที่อยู่ด้วยแล้วรู้สึกสนุก หลังจากทักทายทำความรู้จักกันเบื้องต้น เขาค่อย ๆ เล่าเรื่องราวของตนเองที่ปะปนไปด้วยเสียงหัวเราะและรอยยิ้ม
จุดเริ่มต้นก่อนจะมาเป็น JRBUBLEGUM
เราเป็นคนที่ร่าเริงมาตั้งแต่เด็ก ในตอนเป็นเด็กชอบเล่นบทบาทสมมุติพ่อแม่ลูก แน่นอนว่าเราชอบรับบทคุณแม่ (หัวเราะ) ซึ่งด้วยความที่เราชอบดูละครโทรทัศน์มาก ความสมจริงก็ต้องมีในการละเล่นนั้น ฉากตบกันระหว่างนางร้ายกับนางเองก็ต้องสมจริง แต่ไม่ได้ตบเพื่อนจริงนะ เวลาร้องไห้ก็เอาน้ำแข็งมาทาตาให้มีหยดน้ำไหลออกมา โดยทั้งหมดทั้งมวลแล้วมันก็คือมีความเป็นตัวของตัวเองมาตั้งแต่เด็ก กล้าคิด กล้าทำ กล้าแสดงออก มีงานโรงเรียนถ้าให้เต้นก็เต้น ให้ทำอะไรก็ทำ
พออายุย่างเข้าสู่วัยรุ่นก็ได้มีโอกาสฟังเพลงของแร็ปเปอร์สาว Nicky Minaj ซึ่งถือได้ว่าเขามีอิทธิพลต่อชีวิตเรามาก ทั้งในแง่ของการเป็นศิลปินและการใช้ชีวิตต่าง ๆ เราเริ่มหัดแร็ปจริงจังก็หลังจากที่ได้ฟังเพลงของเขา พอรู้ตัวว่าการแร็ปมันคือทางของเราก็ฝึกเขียนไรม์ ฝึกแร็ปลงบีทมาเรื่อย ๆ จากนั้นก็มีโอกาสได้ไปออดิชั่นกับค่าย แล้วก็ได้เป็นศิลปินเต็มตัว
ชีวิตในฐานะศิลปินที่ไม่เคยรู้มาก่อน
ในช่วงแรกยอมรับว่าค่อนข้างช็อก เพราะเราไม่รู้มาก่อนเลยว่าการทำงานกับค่ายเพลงมันมีขั้นตอนอย่างไร วงการเพลงที่เราก้าวเท้าเข้ามามันเป็นแบบไหน ก่อนหน้านี้เคยมีโอกาสได้รับบทเป็นนักแสดงเอ็กซ์ตร้าบ้าง แต่มันก็แค่ผิวเผินเท่านั้น พอได้ลองเข้ามาทำงานในสายนี้อย่างจริงจังก็เหมือนเริ่มได้รู้แนวคิดเกี่ยวกับการทำงานในสายบันเทิงมากขึ้น ซึ่งไม่ใช่แค่การทำเพลงหรือการร้องเพลง แต่มันรวมไปถึงการสื่อสารกับผู้ชม การดึงดูดผู้คนให้จับจ้องกับการแสดงของเรา
แต่สิ่งที่เป็นเรื่องยากและเหนือความคาดหมายของเรามากในการก้าวขึ้นมาเป็นศิลปินเต็มตัวคือ เทคนิคเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ก่อนหน้านี้เราไม่รู้ว่าศิลปินจำเป็นต้องทำ เช่น การใส่หูฟังอินเอียร์บนเวทีหรือการทำมิกซ์แอนด์มาสต์เตอร์ ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นสิ่งที่ตอนเราเป็นผู้ชมจะไม่รู้ว่าจำเป็นต้องมีสิ่งนี้ ต้องคิดธีม คิดไรม์ หรือแม้กระทั่งต้องคิดว่าสุดท้ายแล้วปลายทางของเพลงนี้มันให้อะไรกับผู้ฟังและสังคม เพราะตอนนี้ศิลปินไม่ใช่แค่ร้องเพลงแล้วจบ แต่ต้องคิดไปถึงเรื่องการตลาดของเพลงด้วย
ความยากของการเป็นแร็ปเปอร์ LGBTQIA+
โชคดีที่ก่อนหน้านี้เราเดบิวต์กับกลุ่มแร็ปเปอร์ที่มีทั้งเพศชายและเพศหญิงรวมกัน การที่เราเป็น LGBTQIA+ แล้วไปเข้าร่วมมันเลยดูไม่แปลกตามาก เพราะกลุ่มก้อนนั้นมันมีความหลากหลายทางเพศอยู่แล้ว จึงได้รับการยอมรับค่อนข้างง่าย แต่โดยส่วนตัวเรามักจะพบเจอกับคนที่เขายอมรับตัวตนที่เราเป็นแบบนี้ได้ ทั้งผู้หญิงทั้งผู้ชายทุกคนโอเคกับการแสดงออกทางเพศของเรา เพราะในสังคมแร็ปเปอร์ที่เราอยู่เขาค่อนข้างสนใจที่สกิลการแร็ปมากกว่าเพศสภาพ
แต่ก็เคยมีบางครั้งที่ถูกตัดสินจากเพศมากกว่าผลงานในช่วงที่ปล่อยเพลงออกมา 2 ซิงเกิลแรก แต่เราคิดว่าเขาอาจจะไม่เข้าใจในสิ่งที่เราเป็น ไม่รู้ว่าการใช้จริตแบบนี้ในการร้องเพลงบนเวทีคือวิธีการร้องเพลงรูปแบบหนึ่ง การแสดงออกแบบนี้คือการเอ็นเตอร์เทนต์คนดูรูปแบบหนึ่ง ซึ่งเอาเข้าจริงมันก็เป็นเพียง Toxic Comments ที่ไม่มีความสร้างสรรค์ อยู่ที่ว่าเราจะเก็บมันขึ้นมาใส่ใจหรือไม่เท่านั้นเอง
หนึ่งในผู้เข้าประกวด Miss Fabulous Thailand
ตอนที่ตัดสินใจประกวด Miss Fabulous Thailand 2024 เรารู้สึกว่าอยากให้คนอื่นได้เห็นเราในอีกแง่มุมหนึ่งนอกเหนือจากการเป็นศิลปิน ได้เห็นเราในมุมที่จริงจังมากขึ้น ฝึกฝน ท้าทาย เหงา เศร้า สนุก เสียใจ ซึ่งมันเป็นสิ่งที่เราอยากรำเสนอให้กับทุกคนได้รู้ว่า เราไม่ได้มีดีแค่อย่างเดียว แต่ยังสามารถทำอะไรได้อีกมาก เพราะก่อนหน้านี้ไม่ค่อยมีคนได้รู้จักกับเราในมุมที่มีความเป็นมนุษย์เลย ส่วนใหญ่ก็จะรู้จักในมุมของศิลปินเพียงอย่างเดียว ไม่ค่อยได้มีปฏิสัมพันธ์กับผู้คนในเชิงอื่น ไม่ค่อยได้แสดงศักยภาพหรือไลฟ์สไตล์อื่นออกมาให้ได้เห็น
นอกเหนือจากการที่เราเอาตัวเองออกมาทำความรู้จักกับผู้คนในมุมอื่น ก็ได้มิตรภาพจากเพื่อนผู้เข้าแข่งขันด้วยกัน ได้พบปะพูดคุยแลกเปลี่ยนกับคนอื่น ๆ ทำให้เรามีโอกาสได้เจอกับคนอื่นนอกเหนือวงการเพลงมากขึ้น ซึ่งเป็นผลพลอยได้ที่ดีมาก เพราะตอนที่เราไปประกวดเราไม่ได้หวังตำแหน่งชนะเลิศตั้งแต่แรก เราแค่ต้องการนำเสนอตัวเองในอีกแง่มุมหนึ่ง ซึ่งมันก็ประสบความสำเร็จแล้วในตอนนี้
วิธีการรับมือกับ Toxic Comments คือการตระหนักรู้ในตัวเอง
ต้องทำความเข้าใจก่อนว่า Toxic Comments เป็นเรื่องที่เราควบคุมไม่ได้ เพราะมันไม่ใช่สิ่งที่เราจงใจให้เกิด มันเป็นสิ่งที่คนอื่นตั้งใจทำให้เกิด และที่สำคัญมันจะเกิดขึ้นแน่นอนไม่ว่าคุณจะทำตัวดีมาจากไหนก็ตาม โดยเฉพาะการที่คุณเป็นบุคคลสาธารณะ วิธีการรับมือกับ Toxic Comments สำหรับเราคือการนิ่งและตระหนักรู้เสมอว่าตัวเองเป็นใคร หากการแสดงความคิดเห็นในครั้งนั้นมีแต่ความเกลียดชัง เราไม่จำเป็นต้องใส่ใจมันด้วยซ้ำ ไม่ต้องไปเชื่อมัน อะไรที่ไม่สร้างสรรค์ก็ทิ้งไป เพราะมีแค่เราคนเดียวเท่านั้นที่รู้ว่าแท้จริงแล้วเราเป็นใคร
วิธีการทำเพลงในแบบฉบับของ JRBUBLEGUM
ขั้นตอนแรกก็จะมีไอเดียก่อน ซึ่งส่วนใหญ่ก็จะได้มาจากเรื่องราวรอบตัว พอได้ไอเดียก็จะจดไว้แล้วก็หาบีทที่น่าจะเข้ากับธีมของก้อนไอเดียนี้มารวมไว้ด้วยกันแล้วก็ส่งให้โปรดิวเซอร์ดู เมื่อโปรดิวเซอร์ทำบีทเพลงจากไอเดียของเราออกมาแล้ว ก็จะเข้าสู่ขั้นตอนการเขียนไรม์และอัดเดโม่ ซึ่งเดโม่ตัวนี้จะถูกนำมาฟังเพื่อประชุมร่วมกันว่า ท่อนไหนดี ท่อนไหนไม่ดี ท่อนไหนควรใส่อะไรเพิ่ม ท่อนไหนควรเอาอะไรออก รวมถึงส่งให้กับเพื่อน ๆ ได้ฟังด้วย เพื่อวัดว่าจากหูของผู้ชมจริง ๆ รู้สึกอย่างไรกับเพลงนี้ โดยพวกเขาเหล่านั้นไม่ต้องมีทฤษฎีทางดนตรีเลย
“แฉะ” เพลงที่ได้แรงบันดาลใจมาจากการอาบน้ำ
แรงบันดาลใจที่ทำให้เกิดซิงเกิลใหม่อย่างเพลงแฉะ เกิดขึ้นในตอนที่เรากำลังอาบน้ำในห้องน้ำ (หัวเราะ) อยู่ ๆ ก็คิดขึ้นมาได้ว่าถ้าเราทำเพลงเกี่ยวกับความแฉะและความชุ่มช่ำมันน่าจะสนุกดี เพราะคำว่าเปียกแฉะมันสามารถนำไปใช้ได้ในหลายความหมายและคิดได้ในหลายแง่ เช่น เวลาร้อนเราก็อยากอาบน้ำให้มันชุ่มชื้นร่างกาย เวลาฝนตกเราก็หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะเปียกแฉะ อีกอย่างหนึ่งที่สำคัญคือผู้หญิงกับความชุ่มชื้นเป็นของคู่กันอยู่แล้ว เพราะความสดใส ชุ่มชื้น อิ่มน้ำ มันเป็นสัญญะแห่งการมีสุขภาพที่ดี นอกจากนี้มันก็ยังใช้ไปในเชิงหยอกเอินผู้ชายได้อีกด้วย
ทำไมถึงเลือก ‘น้ำเพชร’ มาร่วมฟีทเจอร์ริ่งในเพลงนี้
ความจริงเรารู้จักกับน้ำเพชร (อิสรีย์ ธรากูลพิพัฒน์) มาสักพักแล้ว ตั้งแต่ที่ได้มีโอกาสเข้าร่วมการประกวด Miss Fabulous Thailand 2024 ซึ่งในตอนนั้นเราคุยกันว่าอยากทำเพลงด้วยกันสักหนึ่งซิงเกิล ต่อมาเรามีไอเดียเพลงแฉะพอดี หลังจากอัดเดโม่เสร็จมันจะมีท่อนร้องหนึ่งท่อน พยายามฟังไปเรื่อย ๆ ก็คิดว่าอยากให้น้ำเพชรมาร้องท่อนนี้ พอติดต่อไปเขาก็ยินดีที่จะมาร่วมฟีทเจอร์ริ่งเพลงนี้กับเรา ซึ่งเป็นตามที่คาดไว้ว่าน้ำเพชรเหมาะกับการร้องเพลงนี้ในท่อนนี้มาก ๆ
ที่มาของ MV แบบสับ แบบฉ่ำ แบบแฉะ
เราเป็นคนคิดเองว่าอยากให้ใน MV มีทะเลทราย เพราะอยากสื่อในทำนองว่าประเทศไทยมันร้อนเหมือนกับทะเลทราย แต่มีแค่เราเท่านั้นที่เปียก ฉ่ำ แฉะ (หัวเราะ) เพราะเราเปรียบเสมือนโอเอซิสที่อยู่ท่ามกลางทะเลทราย ตอนที่วางไอเดียของ MV เรามองภาพไว้เล็กมาก ขอแด๊นเซอร์สัก 6 คน ถ่ายทำในสตูดิโอเล็ก ๆ แต่พอถึงวันถ่ายทำทีมโปรดักชั่นขนทะเลทรายจริงมาวาง แด๊นเซอร์อีกยี่สิบชีวิต สไตล์ลิสต์รังสรรค์เสื้อผ้ามาแบบร้อยลูกปัดเองทุกเม็ด รวม ๆ คือทุกคนตั้งใจทำงานของตัวเองกันมาก แล้วอยากให้งานมันออกมาดี ออกมาเลิศ ไม่ใช่แค่โปรเจกเล็ก ๆ แล้ว เพราะตอนที่เราบรีฟไปทุกคนเห็นภาพตรงกันว่ามันต้องออกมาสนุกแน่นอน เลยอยากตั้งใจทำให้มันออกมาดีที่สุด
บทเรียนตลอดระยะเวลาการเป็นศิลปินและคนในวงการบันเทิง
สิ่งหนึ่งที่ชัดเจนมากที่สุดคือ มันสอนว่าไม่มีใครพร้อมมาแต่แรก 100% กับทุกเรื่องในชีวิต ถ้าวันนั้นเราไม่ได้ตัดสินใจไปออดิชั่นกับค่ายเพลง ไม่ตัดสินใจเอาตัวเองออกจากคอมฟอร์ตโซนไปประกวด Miss Fabulous Thailand ไม่ตัดสินใจกล้าออกมาทำเพลงเดี่ยว ไม่ตัดสินใจโทรหาน้ำเพชรในวันนั้น มันก็คงไม่เกิดสิ่งที่เรากำลังมานั่งคุยกันในวันนี้ ไม่มีใครพร้อมมาตั้งแต่แรก แค่ต้องลองตัดสินใจทำดู ไม่อย่างนั้นเราก็ไม่มีวันที่จะได้รู้ว่ามันเวิร์คไหม ต่อให้ผลมันจะออกมาเป็นแบบไหนก็ตาม แต่อย่างน้อยเราได้ลองทำมันแล้ว
เป้าหมายในอนาคตของตัวเอง
ถ้าความคาดหวังในอนาคตอันใกล้คือการทำให้เพลงแฉะมันประสบความสำเร็จในทางของมัน แล้วก็อาจมีอีกสองซิงเกิลที่ปล่อยมาในปีนี้ ปีหน้าก็จะรวมเป็นหนึ่งอัลบั้มให้ได้ ส่วนอนาคตอันไกลก็คาดหวังว่าจะได้มีโอกาสไปโกอินเตอร์ในต่างประเทศเหมือนกัน จากที่ก่อนหน้านี้เคยไปญี่ปุ่นและกัมพูชามาแล้ว ก็อยากไปได้ไกลมากขึ้น เป็นที่รู้จักในวงกว้างมากขึ้น ในส่วนของอัลบั้มใหม่ที่กำลังจะเกิดขึ้นได้วางคอนเซปต์ไว้คร่าว ๆ ว่าจะเป็น JRBUBLEGUM ที่ไม่ใช่แค่แร็ปเพียงอย่างเดียวอีกต่อไปแล้ว จะได้เห็นเราในหลายมุม ในหลายโทนเพลงมากขึ้น
สุดท้ายนี้ก็ฝากเพลงแฉะที่สามารถฟังกันได้ทุกช่องทางสตรีมมิ่งทั่วไป แล้วก็อัลบั้มใหม่ที่กำลังจะเกิดขึ้นเร็ว ๆ นี้ ส่วนงานทัวร์ร้องเพลงสามารถจ้างวานได้ตลอดทั่วราชอาณาจักร และฝากติดตามพร้อมให้กำลังใจทุกการเติบโตและการเดินทางของเรา เพราะทุกคนจะได้เห็นตัวเราในมุมมองใหม่ ๆ มากขึ้นอย่างแน่นอน
หลังจากพูดคุยกันจบเรานั่งคุยกับเขาอยู่อีกครู่หนึ่ง ถามย้ำว่าเพราะอะไรเขาถึงเป็นคนที่สดใสร่าเริงได้ขนาดนี้ เขาย้ำชัดว่าความจริงแล้วตนเองก็มีอารมณ์เหงา เศร้าซึม ไม่ต่างจากคนทั่วไป แต่อาจเป็นเพราะตนเองสามารถดึงความคิดออกมาจากห้วงอารมณ์นั้นได้ไว จึงดูเหมือนไม่ทุกข์ใจกับเรื่องอะไรนาน JRBUBBLEGUM เป็นหนึ่งในศิลปินที่เราคุยด้วยแล้วรู้สึกประทับใจ ทั้งแง่คิด คำพูด และทัศนคติหลายอย่างที่แสดงออกมา ทำให้เรารู้สึกว่าเขาพร้อมที่จะส่งต่อพลังงานดี ๆ ผ่านเสียงเพลงได้อย่างแน่นอน
AUTHOR
ไม่ชอบคนข้างล่าง
Content Photographer
Graphic Designer
