หงส์แดง ลิเวอร์พูล

“ตลาดซื้อขายของลิเวอร์พูลในตอนนี้ถือว่ายอดเยี่ยมเป็นอย่างมาก ถ้าพวกเขาได้อิซัคมาอีกคนล่ะก็ พรีเมียร์ลีกอาจได้ปิดฉากลง (ตั้งแต่ยังไม่เริ่ม) อย่างแน่นอน”

คำพูดที่แฝงความหวั่นเกรงของ ‘ริโอ เฟอร์ดินานด์’ อดีตกองหลังทีมชาติอังกฤษและแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ได้พูดถึง ‘หงส์แดง’ ลิเวอร์พูล ทางช่อง ‘Rio Ferdinand Presents FIVE’ (YouTube) ในประเด็นตลาดซื้อ-ขายนักเตะก่อนเปิดฤดูกาล ‘พรีเมียร์ลีก’ 

นี่คือการยอมรับอย่างไม่อ้อมค้อมถึงสโมสรคู่อริตลอดกาล พวกเขากำลังเดินเกมรุกในตลาดได้อย่างเฉียบขาด โดยเฉพาะกระแสการไล่ล่ากองหน้าตัวเก่งจากนิวคาสเซิล ยูไนเต็ด อย่าง ‘อเล็กซานเดอร์ อิซัค 🇸🇪’ ซึ่งแม้จะยังไม่มีการยืนยันจากสื่อเจ้าดัง แต่มันถือว่าเป็นกระแสที่แรงเกินจะมองข้ามได้

และเมื่อมองใน ‘ทุนทรัพย์’ ของหงส์แดงก็ดูจะมากพอให้พวกเขาคว้าโอกาสเหนือกว่าหลายทีมในลีกตอนนี้ ด้วยการทุ่มซื้อนักเตะอายุน้อยฝีเท้าดีและไม่กระทบกฎการเงินของทั้งลีกและยูฟ่า

หงส์แดงทำได้อย่างไร? ในตลาดรอบนี้ แชมป์ลีกล่าสุดยอมทุ่มงบเสริมทัพไปแล้วถึง 6 ราย รวมมูลค่าเกือบ 300 ล้านปอนด์ และถ้าดีลอิซัคเกิดขึ้นจริง ตัวเลขนี้มีโอกาสทะลุสูงขึ้นได้อีก จึงถูกจับตามองจากแฟนบอลและบรรดาเดอะค็อปทั่วโลก ถึงวิสัยทัศน์การบริหารเงินอย่างมีคุณภาพของพวกเขา

ผู้เขียนจึงอยากชวนมา SUM UP ว่า “การลงทุนครั้งนี้มันคุ้มค่าแค่ไหนสำหรับลิเวอร์พูล” ทั้งที่มา เหตุผล และอนาคตจากการลงทุนในครั้งนี้ หากฤดูกาลถัดไปพวกเขายังสามารถรักษาแชมป์ลีก และคว้าความสำเร็จจากถ้วยอื่นมาได้ นี่อาจเป็น ‘ต้นแบบที่ดี’ ของสโมสรฟุตบอลในด้านการบริหารเงินเพื่อความสำเร็จระยะยาว

สำหรับการซื้อขาเข้านักเตะใหม่ของลิเวอร์พูลในตอนนี้มีทั้งหมด 6 คน

  • โฟลเรียน เวียตซ์ 🇩🇪 ➡️ 116 ล้านปอนด์
  • อูโก้ เอกีตีเก้ 🇫🇷 ➡️ 81 ล้านปอนด์
  • มิลอส เคอร์เคซ 🇭🇺 ➡️ 40 ล้านปอนด์
  • เจเรมี่ ฟริมปง 🇳🇱 ➡️ 29.5 ล้านปอนด์
  • จอร์จี้ มามาร์ดาชวิลี่ 🇬🇪 ➡️ 29 ล้านปอนด์
  • อาร์มิน เปสซี่ 🇭🇺 ➡️ 1.5 ล้านปอนด์

ทั้งหมดนี้ใช้เงินไปแล้วถึง 297 ล้านปอนด์ ถือเป็นการทุ่มงบในตลาดเดียวอย่างมหาศาล และยังไม่นับอีกหนึ่งดีลอย่าง ‘อเล็กซานเดอร์ อิซัค 🇸🇪’ ล่าสุดสื่อดังอย่าง ‘ฟาบริซิโอ โรมาโน่’ ได้รายงานถึงความพยายามของหงส์แดงในการดึงตัวกองหน้าคนนี้ด้วยราคาประเมินมากกว่า 120 ล้านปอนด์ แต่สังกัดอย่างนิวคาสเซิล ยูไนเต็ดยังปฏิเสธในดีลนี้อยู่

จะเห็นได้ว่า ‘ทุน’ ของหงส์แดงในรอบนี้ จัดหนัก จัดเต็มมากกว่าทุกครั้ง โดยมีเหตุผลสำคัญถึงแนวทางในอนาคต เมื่อพิจารณาจากเหล่านักเตะตัวหลักส่วนใหญ่ซึ่งต่างมีอายุที่มากขึ้นจากเดิม แม้ว่าผลงานของพวกเขาจะยังคงรักษามาตรฐานไว้ได้ จนมีส่วนสำคัญในการคว้าแชมป์ลีกล่าสุด ภายใต้นายหัวคนใหม่อย่าง ‘อาร์เน่ สล็อต 🇳🇱’

สล็อตคือผู้ถูกเลือกมาสานต่อความสำเร็จของ ‘เยอร์เก้น คล็อปป์’ และกลุ่มบริหารอย่าง ‘เฟนเวย์ สปอร์ต กรุ๊ป’ แนวทางในการทุ่มซื้อจากยุคก่อน เป็นสิ่งที่ไม่ได้ถูกทุ่มในตลาดเดียวอย่างตอนนี้ด้วยความสำเร็จที่ค่อย ๆ สร้างขึ้นมา แต่พวกเขาก็เลือกที่จะกล้าเสียเงินเพื่อมองถึงความสำเร็จ อย่างที่เคยลงทุนกับ ‘เวอร์จิล ฟาน ไดร์จ 🇳🇱‘ และ ‘อลิสซอน เบคเกอร์ 🇧🇷’ แล้วกลายมาเป็นหัวใจแนวรับของทีม

แม้จะมีบ้างที่พวกเขาลงทุนสูง แต่ได้ผลตอบแทนกลับมาไม่คุ้มค่านัก พวกเขาก็ยังคงเลือกใช้เงินตามความจำเป็น ไม่ซื้อมาอย่างผลีผลามจนอาจเสี่ยงต่อกฎการเงินของลีกอย่าง ‘PSR (Profit and Sustainability Rules)’ 

ส่วนหนึ่งมาจาก ‘ความสำเร็จ’ ทั้งผลงานและการเติบโตในแบรนด์ของพวกเขา การได้เป็นแชมป์พรีเมียร์ลีกและเข้ารอบลึกของถ้วยยุโรปอย่างแชมเปี้ยนส์ลีกทำให้พวกเขามีรายรับจากความสำเร็จในส่วนนี้ และยังมีปัจจัยอื่น ๆ ได้แก่

  • สปอนเซอร์และสินค้าของสโมสรทำยอดได้ถึงประมาณ 308 ล้านปอนด์ 
  • ยอดตั๋วเข้าชมทั้งเกมการแข่งขันและเยี่ยมชมสนามสูงสุดในประวัติศาสตร์ของสโมสรอยู่ที่ประมาณ 102 ล้านปอนด์
  • แถมยังได้แบรนด์กีฬายักษ์ใหญ่อย่าง ‘อดิดาส’ มาด้วยมูลค่าสูงถึงประมาณ 60 ล้านปอนด์ต่อปี

ยังไม่นับรายได้ส่วนอื่นที่เกี่ยวข้องกับพวกเขา ซึ่งมีมูลค่ารวมกันเกือบถึงประมาณ 700 ล้านปอนด์

อีกปัจจัยที่เป็นส่วนสำคัญอย่างการขายนักเตะและเงินสะสมจากการใช้ในฤดูกาลก่อน พวกเขาได้ขายผู้เล่นคนสำคัญ โดยมีขวัญใจอย่าง ‘เทรนด์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์’ และ ‘หลุยส์ ดิอาซ 🇨🇴’ รวมกันถึงประมาณ 190-200 ล้านปอนด์ ช่วยทำให้ผลประกอบการทางการเงินของพวกเขาอยู่ในเกณฑ์ที่ปลอดภัยจากกฏการเงินของลีก แม้จะทุ่มซื้อเยอะมากก็ตาม

ด้วยเหตุนี้ทำให้การทุ่มซื้อในครั้งนี้เกิดจากความจำเป็นในแนวทางใหม่ของสล็อต ด้วยผลงานของเขาที่พิสูจน์มาแล้ว ทำให้ทีมบริหารมองถึงการลงทุนในอนาคต ซึ่งจะเห็นได้จากค่าเฉลี่ยอายุของนักเตะใหม่เหล่านี้อยู่ในช่วง 20 ปีต้น ๆ และเลือกใช้จ่ายด้วยสัญญาเป็นระยะยาว ทำให้พวกเขาสามารถรัดกุมค่าใช้จ่ายได้อย่างรอบคอบ เพื่อไม่ให้โดนผลกระทบจากการใช้เงินมหาศาลจนเกินไปแบบที่บางทีมเคยเป็นประเด็นมาแล้ว

ต้องยอมรับว่าทั้งหมดมาจากการวางแผนด้านบริหารทั้งเรื่องการเงินและผลงานในสนาม เป็นส่วนช่วยให้พวกเขามีต้นทุนที่เหนือกว่าคู่แข่งทีมต่าง ๆ ในตอนนี้ ผนวกกับความรอบคอบทางการบริหารเงิน จึงนำไปสู่การใช้จ่ายที่คุ้มค่าของพวกเขา ต้องมารอดูว่าการลงทุนในครั้งนี้ จะ “ดี หรือ แย่” แต่อย่างน้อยในตลาดซื้อ-ขายครั้งนี้ หงส์แดงถือเป็น ‘ต้นแบบที่ดี’ สำหรับสโมสรฟุตบอลในการบริหารทีมเพื่อความสำเร็จที่ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วตอนนี้

อ้างอิง