โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ เชอร์โนบิล

‘เชอร์โนบิล’ (Chernobyl) คือ โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ขนาดใหญ่ ตั้งอยู่ที่เมืองพรีเพียต (Pripyat) ประเทศยูเครน ซึ่งขณะนั้นยูเครนยังคงเป็นส่วนหนึ่งของสหภาพโซเวียตอยู่ เรื่องราวนี้เกิดขึ้นเมื่อปี 1986 จู่ ๆ ได้เกิดเหตุโรงไฟฟ้านิวเคลียร์เชอร์โนบิลระเบิด และมีผู้เสียชีวิตเบื้องต้นอย่างน้อย 30 ราย รวมถึงประชาชนบางส่วนยังได้รับรังสีในระดับที่สูงจนเสียชีวิตในเวลาต่อมา นอกจากนี้ผลจากการระเบิดยังพัดรังสีไปทางยุโรปตะวันออก ยุโรปตะวันตก และยุโรปเหนือ จนทำให้ต้องอพยพประชาชนสามแสนกว่าคนออกจากพื้นที่อย่างเร่งด่วนที่สุด

สาเหตุของการระเบิดโรงงานนิวเคลียร์เชอร์โนบิลเกิดจากอะไรกันล่ะ?

คำตอบของเรื่องนี้ก็คือ เมื่อวันที่ 26 เมษายน 1986 ขณะที่ทุกอย่างในโรงไฟฟ้าดำเนินไปอย่างปกติ ได้มีการทำการทดสอบเครื่องปฏิกรณ์หมายเลข 4 เกี่ยวกับระบบหล่อเย็นและระบบทำความเย็นฉุกเฉินของแกนปฏิกรณ์นิวเคลียร์ แต่ผลทดสอบกลับไม่เป็นดังคาด เพราะได้เกิดพลังงานกระชากระหว่างการทดสอบ ส่งผลให้แรงดันไอน้ำสูงขึ้นจนเกิดเป็นความร้อนที่ไปหลอมละลายแกนเครื่องปฏิกรณ์หมายเลข 4 และเกิดการระเบิดในที่สุด ซึ่งการระเบิดของโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ในครั้งนี้นำมาซึ่งความสูญเสียมากมายมหาศาล และถูกจัดให้เป็นอุบัติเหตุที่มีความรุนแรงอยู่ที่ระดับ 7 ซึ่งรื่องนี้เกิดจากความไม่ชำนาญของวิศวกรบวกกับไม่มีการประสานงานที่ดี รวมถึงกระบวนการก่อนทดสอบออกแบบมาได้ไม่ดีเท่าไหร่นัก อธิบายให้เห็นภาพคือ ระหว่างที่ทำการทดสอบคนงานได้ปิดระบบควบคุม ปิดระบบป้องกันในภาวะฉุกเฉิน และถอดแท่งควบคุมปฏิกริยาออกจากแกนเครื่อง ผลของความผิดพลาดดังกล่าวจึงเหนือการควบคุม แต่ก็มีปัจจัยอื่น ๆ ประกอบด้วย ทั้งหมดนำมาสู่ ‘หายนะ’ ในครั้งนี้

อย่างไรก็ดี อุบัติเหตุในครั้งนี้นอกจากจะส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตจำนวนหนึ่งแล้ว ในปี 2008 ทาง UNSCEAR ได้ยืนยันว่ามีอีก 64 คนที่มีสาเหตุการเสียชีวิตมาจากรังสี และคนงานในโรงไฟฟ้านิวเคลียร์เสียชีวิตอีก 50 รายหลังจากเกิดอุบัติเหตุไปได้ไม่นาน และมีการทำนายอนาคตไว้ว่าจะมีผู้คนที่เสียชีวิตจากผลกระทบของรังสีอีกประมาณ 3,000 กว่าราย นอกจากนี้ยังมีการเปิดเผยข้อมูลเพิ่มเติมอีกว่า อุบัติเหตุโรงไฟฟ้านิวเคลียร์เชอร์โนบิลระเบิดครั้งนี้ยังรุนแรงกว่าการทิ้งรังสีจากระเบิดปรมาณู ในเมืองนางาซากิและฮิโรชิมะที่ประเทศญี่ปุ่นอย่างน้อย 100 เท่าอีกด้วย

อ้างอิง