แม้ว่าวันปีใหม่ที่ผ่านมา (1 มกราคม 2567) รัฐบาลได้ปรับขึ้นอัตราค่าแรงขั้นต่ำในจังหวัดเชียงใหม่เป็น 350 บาทต่อวัน จากเดิมอยู่ที่ 340 บาท และล่าสุดได้เริ่มนำร่องขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 400 บาทในกลุ่มธุรกิจโรงแรมในพื้นที่เทศบาลนครเชียงใหม่ เมื่อช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่ผ่านมา ก่อนที่จะมีการถกขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 400 บาททั่วประเทศในวันที่ 14 พฤษภาคมนี้
แต่ดูเหมือนเมืองใหญ่อันดับต้น ๆ ที่ตั้งอยู่บนภาคเหนือของประเทศไทยแห่งนี้ จะหนีไม่พ้นคำว่า “เมืองปราบเซียน” ที่ไม่ใช่แค่ผู้ประกอบการเท่านั้นที่เจอฤทธิ์เดชของเชียงใหม่ แต่ยังรวมไปถึงบรรดาเหล่าแรงงานที่ต้องเจอกับปัญหาค่าแรงน้อย จนกลายเป็นอีกประเด็นร้อนที่กลายเป็นดราม่าบนโลกออนไลน์ให้วิพากษ์วิจารณ์ไปทั่วประเทศ แม้ว่าเชียงใหม่จะเป็นจังหวัดที่มีจำนวนผู้ย้ายจากเมืองใหญ่เข้ามาสูงสุดในประเทศ เป็นจำนวน 52,344 คน ในปี 2563
จากข้อมูลด้านเศรษฐกิจ เชียงใหม่มีผลิตภัณฑ์มวลรวมอยู่ที่ 259,026 ล้านบาท มากที่สุดในภาคเหนือ แต่มีรายได้ประชากรต่อปีอยู่ที่ 143,638 บาท เป็นรองจังหวัดกำแพงเพชรและลำพูน (ข้อมูลเมื่อปี 2562) ร้อยละ 70 ของเศรษฐกิจเชียงใหม่ขึ้นอยู่กับภาคบริการ แต่เมื่อดูโครงสร้างเศรษฐกิจจำแนกตามสาขาการผลิตจะพบว่าภาคเกษตรกรรมมีสัดส่วนมากที่สุด ร้อยละ 19.2 แต่มีสัดส่วนผลิตภัณฑ์มวลรวมของจังหวัดเพียงร้อยละ 19.2
นอกจากนี้ในภาคการท่องเที่ยวและการบริการเอง ยังเผชิญปัญหา เรื่องช่องว่างระหว่างช่วง High Season และ Low Season , นักท่องเที่ยวกระจุกตัว และการกระจายรายได้ที่ไม่ทั่วถึง ขณะที่ภาคการเกษตร ประกอบกับช่วงวิกฤตการระบาดของโรคโควิด – 19 เศรษฐกิจภาคบริการได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงจากจำนวนนักท่องเที่ยวที่ลดลง กำลังซื้อของลูกค้าที่หายไปในช่วงวิกฤต ภาระหนี้สินที่มากขึ้น ประกอบกับมาตรการล็อคดาวน์ในขณะนั้น แม้จะมีการกระตุ้นเศรษฐกิจจากภาครัฐตามมา
โครงสร้างและปัญหาทางเศรษฐกิจดังกล่าว ทำให้มีอาชีพที่รองรับบรรดาแรงงาน และบัณฑิตจบใหม่จากสถาบันการศึกษาต่าง ๆ ในเมืองน้อยมาก โดยเฉพาะมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ซึ่งผลิตนักศึกษาป้อนเข้าตลาดแรงงานปีละหมื่นคน แต่เมื่อไม่มีอาชีพมากมายที่รองรับมากพอ และรายได้สวัสดิการที่ไม่สามารถตอบโจทย์ความมั่นคงในการใช้ชีวิตในวัยทำงานได้ เชียงใหม่เลยเผชิญกับปัญหาสมองไหล และทำให้เมืองหลวง “กรุงเทพมหานคร” กลายเป็นทางเลือกเดียวที่สามารถรองรับโอกาสและความก้าวหน้าของแรงงานจากหลากหลายอาชีพ
ปัญหาที่เกิดขึ้นทำให้ภาครัฐพยายามที่จะแก้ไขปัญหาผ่านการออกนโยบายต่าง ๆ อาทิ แผนพัฒนาจังหวัดเชียงใหม่ ที่เน้นอุตสาหกรรมท่องเที่ยวที่สามารถปรับตัวตามสถานการณ์ การสนับสนุนเกษตรกรรมเพิ่มมูลค่า เกษตรกรรมแปรรูประดับสูง การลงทุนด้านเศรษฐกิจสร้างสรรค์ เพื่อเพิ่มรายได้และจำนวนแรงงานในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจจังหวัด
นอกจากนี้กระแสเศรษฐกิจดิจิทัลที่เกิดขึ้นในพื้นที่จากกลุ่ม Digital Nomad หรือคนที่ทำงานประเภทออนไลน์ที่ย้ายเข้ามาในเชียงใหม่ ซึ่งมีจุดเด่นจากการเป็นเมืองท่องเที่ยว ค่าครองชีพต่ำ สามารถช่วยผลักดันเศรษฐกิจของจังหวัดให้เติบโตมากขึ้น หากภาครัฐสนับสนุนและต่อยอดทรัพยากรที่มีอยู่ รวมถึงการสนับสนุนภาคเอกชนที่คอยผลักดัน เช่นเดียวกับเศรฐกิจสร้างสรรค์ที่สามารถต่อยอดจากศิลปะ วัฒนธรรม วิถีชีวิตของเชียงใหม่ให้เกิดรายได้เพิ่มขึ้นได้ รวมถึงขยายประเภทงานเพื่อรองรับลูกจ้างจากหลากหลายอาชีพมากขึ้น
หากในอนาคตอันใกล้ เราสามารถแก้ปัญหาโครงสร้างทางเศรษฐกิจและเปิดทางให้นโยบายที่ภาครัฐและเอกชนร่วมกันสร้างขึ้นมาดำเนินการได้อย่างเต็มที่ ปัญหาที่เกิดขึ้นก็จะค่อยๆบรรเทาลง พร้อม ๆ กับที่เศรษฐกิจท้องถิ่นจะมีรายได้มากพอที่จะดึงบรรดาแรงงานจำนวนมหาศาล ไม่ให้ไหลออกจากพื้นที่ และสร้างความมั่นคงให้แก่ลูกหลานชาวเชียงใหม่ได้
ที่มา :
- https://www.prd.go.th/th/content/category/detail/id/31/iid/247199
- https://chiangmai.mol.go.th/อัตราค่าจ้างขั้นต่ำ
- https://www.bangkokbiznews.com/news/news-update/1121441
- https://www.bbc.com/thai/articles/crg91vpe3d5o
- https://themomentum.co/worktips-comingbackhome/
- https://thecitizen.plus/node/67286
- https://www.chiangmai.go.th/managing/public/D2/2D24Aug2022155450.pdf
- https://www.ryt9.com/s/prg/3442387
- https://www.bot.or.th/content/dam/bot/documents/th/thai-economy/regional-economy/northern_document/northern_economic_structure/northern-economic-structure-pic/โครงสร้างภาคเหนือ.pdf
- https://www.bot.or.th/th/research-and-publications/articles-and-publications/articles/regional-articles/reg-article-2021-14.html
- https://www.thansettakij.com/business/economy/592438
- https://www.thansettakij.com/business/economy/594473
CREATED BY
นักออกแบบกราฟิกจากเชียงใหม่ สนใจในเสียงดนตรี ภาพยนตร์ และความเป็นไปของโลกยุคโลกาภิวัฒน์ไปพร้อมกับศิลปวัฒนธรรมท้องถิ่น