เมื่อพูดถึงเทศกาลสงกรานต์ที่เชียงใหม่แล้ว หลายคนมักจะนึกถึงคูเมืองเชียงใหม่ ที่เต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ และรถกระบะนับพัน ๆ คัน ที่ท้ายรถขนถังน้ำมาสาดใส่ผู้คนที่ออกมาเล่นน้ำสงกรานต์ หรือในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา แหล่งท่องเที่ยวยอดฮิตอย่างถนนนิมมานเหมินท์ สี่แยกรินคำ ได้กลายเป็นจุดเช็คอินสาดน้ำของเหล่าวัยรุ่นทุกปี เปลี่ยนให้เส้นทางจราจรสำคัญของเมือง กลายเป็นสีลมหรือถนนข้าวสารแบบกรุงเทพมหานคร
ไม่ใกล้ ไม่ไกลจากบริเวณดังกล่าว นอกจากจะเป็นอีกพื้นที่ที่มีการสาดน้ำสงกรานต์อย่างสนุกสนาน แต่ยังเป็นอีกจุดหนึ่งที่เราจะได้เห็นความเป็นท้องถิ่น ควบคู่ไปกับยุคสมัยอย่างกลมกลืน สะท้อนสีสันและวัฒนธรรมของคนเชียงใหม่ ที่ยังคงเป็นเอกลักษณ์ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปแค่ไหนก็ตาม

ท่ามกลางแสงแดดและอากาศร้อนอบอ้าวในฤดูร้อน ยังคงมีฝูงชนในบริเวณใกล้เคียงและนักท่องเที่ยวจากทุกสารทิศ เฝ้ารอการเคลื่อนขบวนของพระพุทธรูปสำคัญที่คู่บ้านคู่เมืองมาหลายศตวรรษ พร้อมกับบรรดามหรสพ การแสดงศิลปวัฒนธรรมท้องถิ่น ที่ทุกฝ่ายต่างขนกันมาแสดงให้เห็นตลอดเส้นทางยาว 4 กิโลเมตร จากสถานีรถไฟเชียงใหม่ จนถึงหน้าวัดพระสิงห์
หลายคนต่างทราบกันดีแลัวว่า ทุกวันที่ 13 เมษายนของทุกปี ซึ่งเป็นวันแรกของเทศกาลสงกรานต์ จะมีการอัญเชิญพระพุทธสิหิงค์ พระพุทธรูปสำคัญมาแห่ขบวนให้ประชาชนได้สักการะเพื่อเป็นสิริมงคลแก่ชีวิตต้อนรับวาระดิถีปีใหม่ไทย โดยในบทความนี้เราจะกล่าวถึงการแห่ขบวนพระพุทธสิหิงค์ที่จังหวัดเชียงใหม่ ที่ถือเป็นไฮไลต์สำคัญของการจัดงานเทศกาลสงกรานต์ หรือที่คนท้องถิ่นเรียกว่า “ปีใหม่เมือง”

พระพุทธรูปโบราณ ศิลปะล้านนา คาดว่ามีอายุราวต้นพุทธศตวรรษที่ 20 มีประวัติความเป็นมาอย่างยาวนาน สำหรับชาวเชียงใหม่ เชื่อกันว่า อำนาจบารมีของพระพุทธรูปองค์นี้ จะช่วยให้บ้านเมืองร่มเย็นเป็นสุข ฟ้าฝนตกต้องตามฤดูกาล และช่วยขจัดภัยพิบัติต่าง ๆ ทำให้ทุกปี ตลอดเส้นทางขบวนแห่ จะมีชาวบ้านและนักท่องเที่ยว นำน้ำขมิ้นส้มป่อย มาสรงน้ำพระพุทธรูปองค์สำคัญ นอกจากนี้ ยังมีขบวนแห่พระพุทธรูปจากวัดต่าง ๆ ทั่วจังหวัดเชียงใหม่และพื้นที่ใกล้เคียง กว่า 50 วัด มาร่วมเทศกาลอีกด้วย
แม้จะเป็นขบวนแห่ทางศาสนา แต่ศรัทธาไม่แยกไปจากทางโลก ย่อมเชื่อมความเชื่อให้ยังคงอยู่คู่กับคนในสังคม ไม่เพียงแต่จะมีแค่ขบวนแห่พระพุทธรูปเท่านั้น ตลอดเส้นทางกว่า 4 กิโลเมตร เหล่านักดนตรี นางรำ หรือที่ภาษาเหนือเรียกว่า “ช่างฟ้อน” จะออกมาแสดงศิลปะวัฒนธรรมท้องถิ่น เพื่อร่วมสมโภชงานเฉลิมฉลองตลอดเส้นทาง ไม่ว่าจะเป็นคนชรา เด็กวัยรุ่น คนหนุ่มสาว กลุ่มชาติพันธุ์ต่าง ๆ ในพื้นที่ ต่างออกมาร่วมแสดงฝีมือการฟ้อนรำ และการเล่นดนตรีพื้นเมืองอย่างสนุกสนาน

ไม่ว่าจะเป็นการแสดงอย่างฟ้อนเล็บ ฟ้อนก๋ายลาย อันอ่อนช้อยงดงาม ประกอบกับการแห่กลองตึ่งโนงของล้านนา การฟ้อนนก ฟ้อนโต และกลองปู่เจ ของชาวไทใหญ่ รวมทั้งขบวนแห่กลองชาวบ้าน อันมีจังหวะเร้าใจ ทำให้ตลอดเส้นทางการเดินขบวน มีกลิ่นอายของอารยธรรมท้องถิ่น ที่ยังคงโดดเด่นและปรับเปลี่ยนให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลงของยุคสมัยที่เปลี่ยนไป ขณะเดียวกัน ก็ไม่ทำให้บรรยากาศการเล่นน้ำสงกรานต์เงียบเหงาลง แต่กลับสร้างสีสันให้เทศกาลสนุกสนานและงดงามมากยิ่งขึ้น
ในปัจจุบัน เทศกาลสงกรานต์ของไทยได้รับเลือกให้เป็นมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมของมนุษยชาติ ขององค์การการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรม แห่งสหประชาชาติ (UNESCO) หากจะเน้นย้ำถึง Soft Power หรือการอนุรักษ์ความเป็นไทยอย่างไรก็ตาม เทศกาลสงกรานต์ ถือเป็นภูมิปัญญาของคนท้องถิ่น ที่ทำให้วาระปีใหม่ กลายเป็นเทศกาลเฉลิมฉลองที่สนุกสนาน และงดงามในคราวเดียวกัน จนได้รับการยกย่องในระดับนานาชาติ

เช่นเดียวกับประเพณีปีใหม่เมืองที่เชียงใหม่ ความสนุกสนานในการสาดน้ำ และการแสดงศิลปะวัฒนธรรมท้องถิ่น ยังคงกลมกลืนกัน และทำให้เทศกาลแห่งปีที่ทุกคนต่างรอคอย สนุกสนาน รื่นเริง และงดงามอยู่เสมอ
ระยะทางดังกล่าว ผู้เขียนวัดจาก Google Map
อ้างอิง :
- https://www.matichon.co.th/local/news_4524231#google_vignette
- https://www.silpa-mag.com/history/article_4581
- https://www.pptvhd36.com/news/สังคม/221564
- https://readthecloud.co/wat-phra-singh/
- https://www.facebook.com/cmmayor/posts/pfbid0xrQHdpAdk1fdg35eA6RRTBAjY6WJu9jYervC1z4Pj26snU3DdiAytjzFxewootDul
- https://www.thaipbs.or.th/news/content/334634
- https://chiangmai.prd.go.th/th/content/category/detail/id/9/iid/278608
- ภาพบุษบกพระพุทธสิหิงค์ จากเทศบาลนครเชียงใหม่
https://www.facebook.com/cmmayor/posts/pfbid0xrQHdpAdk1fdg35eA6RRTBAjY6WJu9jYervC1z4Pj26snU3DdiAytjzFxewootDul
AUTHOR
นักออกแบบกราฟิกจากเชียงใหม่ สนใจในเสียงดนตรี ภาพยนตร์ และความเป็นไปของโลกยุคโลกาภิวัฒน์ไปพร้อมกับศิลปวัฒนธรรมท้องถิ่น

