หากทุกคนลองหลับตาและนึกถึง ‘เมืองพัทยา’ แน่นอนว่าภาพมายาคติเดิม ๆ คงจะเป็นแห่งเมืองท่องเที่ยวที่เต็มไปด้วยฝรั่งตาน้ำข้าวถอดเสื้อวิ่งอยู่ริมทะเลในช่วงเช้า และเมาเละเทะตาเหลวในช่วงเย็น แต่ล่าสุดที่เราไปเที่ยวพัทยามา สิ่งที่ทำให้เมืองพัทยาดูเปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัดคือ การรุกคืบเข้ามาลงทุนทำธุรกิจของทั้งจากจีนและอินเดีย

“มันไม่ใช่เมืองฝรั่งแล้วลูก มันเป็นเมืองของคนจีนกับคนอินเดีย” ป้าขายส้มตำริมชายหาดพัทยา พูดพร้อมหัวเราะร่วน

เรากลับมาพร้อมสมมติฐานในหัวว่า พัทยากลายเป็นเมืองของคนจีนและอินเดียไปแล้วจริง ๆ หรือ? และจากข้อมูลก็ดูเหมือนจะเป็นไปในทิศทางเดียวกัน เพราะในปี 2566 มีข้อมูลที่ชี้ว่าคนอินเดียแห่มาลงทุนในพัทยาทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นสถานบันเทิง, โรงแรม, ร้านอาหาร, โดยมีมูลค่าลงทุนกว่า 10 – 100 ล้านบาท ซึ่งทุนจีนก็ไม่แพ้กันเพราะมีการซื้อพื้นที่แถบพัทยาใต้มูลค่า 1,000 กว่าไร่ การลงทุนจากทั้งฝั่งจีนเริ่มขึ้นในช่วงที่โควิด-19 ระบาด ส่วนการลงทุนจากทางฝั่งอินเดียเริ่มขึ้นก่อนโควิด-19 ระบาด และกลับมาอีกครั้งหลังจากที่โควิด-19 หายไป ซึ่งการลงทุนของคนอินเดียมีทั้งกลุ่มนักลงทุนใหม่และนักลงทุนเก่า

การลงทุนของชาวต่างชาติในลักษณะนี้ไม่ได้มีแค่ใน ‘พัทยา’ เท่านั้น เพราะหากมองกลับมาในเขตกรุงเทพฯ ก็มีหลาย ๆ เขตที่เต็มไปด้วยการลงทุนจากจีน ไม่ว่าจะเป็นห้วยขวาง, บรรทัดทอง การรุกคืบเข้ามาลงทุนจากชาวต่างชาติอาจจะเป็นเพราะนโยบายที่เปิดให้ชาวต่างชาติเข้ามาในประเทศไทย

อย่างไรก็ดี หากใครได้ไปเที่ยวพัทยาในช่วงนี้คงจะเห็นร้านค้า, กิจการ, สถานบันเทิงต่าง ๆ ที่มีเจ้าของเป็นชาวอินเดียและชาวจีน นอกจากนี้ยังมีนักท่องเที่ยวจากจีนและอินเดียเดินเต็มเมืองพัทยาเต็มไปหมด จนอาจจะลบภาพจำว่าพัทยาเป็นเมืองของฝรั่งตาน้ำข้าวเท่านั้น

อ้างอิง