เมื่อบ่ายวันนี้ (7 มีนาคม 2567) สื่อมวลชนต่างเผยแพร่ข่าว “เครือซีพี ติดอันดับบริษัทที่มีจริยธรรมมากที่สุดในโลก ปี 2567 เป็นปีที่ 4” และมีคนตั้งข้อสังเกตเป็นจำนวนมากถึงเกณฑ์ที่วัด ตลอดไปจนถึงบริษัทต่างๆ ว่านอกจากซีพีแล้วยังมีบริษัทไหนอีกบ้าง? แล้วใครเป็นคนจัดลำดับ อะไรที่เป็นสิ่งสำคัญในการได้มาซึ่ง “บริษัทที่มีจริยธรรมมากที่สุดในโลก” กันแน่? วันนี้ SUM UP ขอมาทำความเข้าใจสั้นๆ พร้อมเปิดเผยบริษัทที่ทำธุรกิจในไทยว่ามีใครบ้างที่ติดอันดับ
Ethisphere Institute คือใคร?
Ethisphere Institute คือองค์กรแสวงหาผลกำไรที่มีหน้าที่กำหนดและวัดมาตรฐานจริยธรรมขององค์กร ซึ่งมีการเก็บค่าธรรมเนียม ทั้งนี้เพื่อยกย่องบริษัทที่มีจริยธรรม โดยบริษัทตั้งอยู่ในเมืองสกอตส์เดล รัฐแอริโซนา สหรัฐอเมริกา ซึ่งดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2007 จนถึงปัจจุบัน และได้ตั้งรางวัล World’s Most Ethical Companies award เพื่อยกย่องบริษัทที่มีจริยธรรม โดยจะประกาศในช่วงไตรมาสแรกของทุกปี
อะไรที่ทำให้คน “กังขา”
Slate Magazine นิตยสารข่าวของสหรัฐอเมริกา ได้เผยแพร่บทความหนึ่งในชื่อ “It’s All Good – Beware of corporate consulting firms offering awards for corporate ethics.” โดยมีเนื้อหาบางส่วนพูดถึงประเด็นนี้ว่า “บริษัทวัดจริยธรรมอาจจะมีปัญหาด้านจริยธรรมเสียเอง” ซึ่งเปิดเผยว่า Ethisphere เป็นนิติบุคคลที่จัดตั้งแยก มีสถานะเป็นองค์กรแสวงหาผลกำไร และองค์กรที่วัดจริยธรรมจำเป็นต้องสมัครเป็นสมาชิกและเสียค่าธรรมเนียม ตัวอย่างบริษัทที่เคยได้ คือ McDonald’s ที่ได้รับการจัดอันดับให้เป็นบริษัทที่มีจริยธรรม จากการดูแลสัตว์ให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีพอ (ก่อนที่จะกลายเป็นอาหารแสนอร่อย) และทำกิจกรรมเพื่อสังคม
ปัญหาไม่ได้มีแค่จ่ายตังค์ แต่ไม่โปร่งใส
Ethisphere Institute ยังโดนข้อครหาจากนิตยสารข่าวเจ้านี้ รวมไปถึงจาก Wall Street Journal. สำนักข่าวระดับโลกด้วยว่า ตัวบริษัทเองมีช่องโหว่ที่ไม่สามารถตรวจสอบจริยธรรมได้จริงๆ คือการวิเคราะห์จากสื่อมวลชนภายนอกและเอกสารภายในบริษัทที่มีโอกาส “ไม่โปร่งใส” เป็นอย่างมาก เพราะบริษัทเหล่านั้นมีสิทธิ์ที่จะ “โกหก” ได้ และยังให้บริษัทอื่นๆ ร่วมเป็นสมาชิก เพื่อที่จะได้รับ “คำแนะนำ” และ “ที่ปรึกษา” เพื่อพัฒนาให้องค์กรมีจริยธรรมตามที่องค์กรว่าไว้อีกด้วย
แล้วเขาวัด “จริยธรรม” จากไหนบ้าง?
Ethisphere Institute กล่าวว่า ตนเองวัดจริยธรรมจากสิ่งต่างๆ ประกอบไปด้วย การทำงานกับภาครัฐและการจัดการความเสี่ยง, การเป็นองค์กรชั้นนำ ผ่านการคงมาตรฐานที่ตรวจสอบย้อนกลับได้, การสร้างมนตรฐานทางจริยธรรม ผ่านการพัฒนาโปรแกรมที่มีจริยธรรม, การสร้างวัฒนธรรมทางจริยธรรม และการทำงานกับสังคมและสิ่งแวดล้อม ผ่านการวัดจากเอกสารภายในและการลงข่าวของสื่อมวลชนย้อนหลัง 5 ปี นับจากปีที่จัดอันดับ และเทียบเคียงกับธุรกิจในอุตสาหกรรมเดียวกัน
บริษัทที่ทำธุรกิจในไทยบริษัทไหนได้รางวัลบ้าง?
นอกจากเครือ ซี.พี. ที่ได้รางวัลเป็นปีที่ 4 แล้ว ยังมีบริษัทที่ทำธุรกิจในไทยซึ่งเป็นบริษัทต่างชาติติดอันดับอีกด้วย เช่น Colgate-Palmolive ที่ติดอันดับมา 14 ปีแล้ว หรือ Kao Corporation ที่ติดอันดับมาเป็นปีที่ 18 แล้ว อย่างไรก็ดีจากการเรียมา 25 อันดับนั้น เป็นบริษัทในสหรัฐอเมริกาไปแล้ว 18 บริษัท และมีบริษัทญี่ปุ่นเพียง 2 บริษัท คือ Kao และ Sony เท่านั้น
อย่างไรก็ดี ท่ามกลางเสียงชื่นชมและเสียงที่ตั้งข้อสงสัยเกี่ยวกับประเด็นการจัดอันดับด้านจริยธรรมนั้น ประเด็นจริยธรรมนั้นเป็นประเด็นที่ต้องใช้มาตรฐาน เหตุและผล รวมไปถึงการวัดในหลากหลายมิติเพื่อให้ได้ผลที่แม่นยำที่สุด เนื่องจากคำว่า “จริยธรรม” นั้น เป็นนามธรรมมากๆ และมาตรฐานทางจริยธรรม เป็นสิ่งที่ไม่คงที่ เพราะแต่ละคนก็จะวัดจริยธรรมไม่เหมือนกัน ฉะนั้นองค์กรที่วัดจริยธรรม จำเป็นที่จะต้องสร้างการตรวจสอบที่ตรวจกลับได้อย่างแท้จริง รวมถึงบริษัทที่มีจริยธรรมและได้รับการยกย่อง ก็จำเป็นจะต้องทำงานให้มีจริยธรรมที่ประชาชนจับต้องได้อย่างแท้จริงด้วยเช่นกัน

อ้างอิง
- https://www.wearecp.com/ethisphere-22022021/
- https://slate.com/business/2010/03/beware-of-corporate-consulting-firms-offering-awards-for-corporate-ethics.html
- https://www.wsj.com/articles/what-matters-more-following-rules-or-creating-ethical-culture-1458068349
- https://ethisphere.com/