“ในดนตรีก็มีวิทยาศาสตร์มาเกี่ยวข้องอยู่แล้ว เสียงเกิดจากการสั่นสะเทือนของวัตถุ หมายความว่าดนตรีที่เราเล่นก็เกิดจากการสั่นสะเทือนของบางอย่าง แล้วให้คลื่นความถี่ ซึ่งแต่ละคลื่นความที่ก็จะให้เสียงและความรู้สึกที่แตกต่างกันไป แค่นี้ก็เป็นวิทยาศาสตร์แล้ว”

ครั้งแรกที่ได้มีโอกาสคิดคำถามในการสัมภาษณ์ บิ๊ก อุกฤษ ดอนกาเบรียล หรือที่พวกเรารู้จักกันในนาม D-Gerrad ยอมรับว่าเป็นสิ่งที่ยากและท้าทายเป็นอย่างมาก ถึงแม้เราจะเคยได้ยินผลงานเพลงของเขาผ่านหูมาหลายปี ควบคู่ไปกับภาพยนตร์และซีรีส์อีกหลายเรื่อง แต่ก็ยังคงเป็นเรื่องยากในการทำความรู้จักตัวตนของเขา เราจึงเริ่มต้นด้วยคำถามง่าย ๆ ที่มาจากความสงสัยของเราเอง นั่นคือ ดวงดาวและเสียงเพลง มาบรรจบกันได้อย่างไร

บิ๊ก D - Gerrard / ขอใส่ใจ / Sum Up

บทเพลงและดวงดาว ศาสตร์และศิลป์ที่คู่กันมาตลอด

“ในดนตรีก็มีวิทยาศาสตร์มาเกี่ยวข้องอยู่แล้ว เสียงเกิดจากการสั่นสะเทือนของวัตถุ หมายความว่าดนตรีที่เราเล่นก็เกิดจากการสั่นสะเทือนของบางอย่าง แล้วให้คลื่นความถี่ ซึ่งแต่ละคลื่นความที่ก็จะให้เสียงและความรู้สึกที่แตกต่างกันไป แค่นี้ก็เป็นวิทยาศาสตร์แล้ว”

บิ๊กตอบคำถามด้วยน้ำเสียงราบเรียบก่อนอธิบายว่าหากมองให้ดีแล้ววิทยาศาสตร์วนเวียนอยู่กับเราทุกที่ แม้กระทั่งในตัวโน้ตและเสียงเพลง ศาสตร์และศิลป์เป็นสิ่งที่เคียงคู่กันมาตลอดเพียงแต่พวกเราไปแยกมันออกจากกันด้วยความแตกต่างเรื่อง ‘จินตนาการ’ และ ‘ตรรกะ’ ซึ่งเป็นสิ่งที่พวกเราเข้าใจไปเอง รวมถึงความคิดที่ว่าคนส่วนใหญ่ที่ชื่นชอบศิลปะมักต่อต้านความเป็นตรรกะ เช่น วิทยาศาสตร์หรือคณิตศาตร์ ก็ไม่เป็นความจริงเสมอไป 

บิ๊กเล่าว่าตอนเด็ก ๆ เขาอยากมีเพื่อนจึงหาวิธีดึงดูดความสนใจจากเพื่อนในวัยเดียวกัน ด้วยความเป็นเด็กเขาคิดว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดในการมาโรงเรียนคือมาหาความรู้ เขาจึงอยากเป็นคนที่มีความรู้ เพื่อที่เพื่อน ๆ จะได้เข้าหา นั่นจึงเป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้บิ๊กเป็นคนที่ชอบอ่านหนังสือ เพราะเขาคิดว่ายิ่งอ่านหนังสือยิ่งมีความรู้ ยิ่งมีความรู้ยิ่งดึงดูดคนให้หันมาสนใจ ทว่าเขาคิดผิดไปเสียหน่อย ในโลกความเป็นจริงความรู้ไม่ได้การันตีว่าจะได้รับความรักจากเพื่อน แต่สิ่งที่ได้กลับมาก็คือการถูกกลั่นแกล้งและถูกบูลลี่จากเพื่อนต่างหาก

แต่ด้วยการอ่านหนังสือนี่แหละที่เปิดโลกกว้างให้เขาได้พบกับเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และดนตรี ซึ่งสิ่งเหล่านี้ก็วางรากฐานให้บิ๊กเติบโตมาด้วยแนวคิดที่มีทั้งศาสตร์และศิลป์ อย่างเช่นช่วงหนึ่งของบทสนทนาเขาเล่าว่าอยากทำงานออกมาให้เหมือนกับดาร์วินชี ที่เป็นทั้งนักวิทยาศาสตร์และศิลปินในคราวเดียวกัน และด้วยความสมดุลทางความคิดนี้มันทำให้ผลงานของเขาแตกต่างจากคนอื่น และเป็นตำนานมาจนถึงทุกวันนี้ พอบิ๊กยกตัวอย่างการทำงานของดาร์วินชี ก็ทำให้เราพอเข้าใจรูปแบบความคิดที่เขาได้อธิบายมาตอนต้น ว่าวิทยาศาสตร์และศิลปะเป็นสิ่งที่ดำรงอยู่เคียงคู่กันมาตลอด สิ่งเหล่านี้จึงสะท้อนผ่านบทเพลงส่วนใหญ่ของเขาที่เลือกบอกเล่าความรักและดวงดาวไปพร้อมกัน เพราะความกว้างใหญ่และงดงามของจักรวาลสามารถถ่ายทอดเป็นเสียงเพลงได้ 

บิ๊ก D - Gerrard / กฤตนัน ดิษฐบรรจง / ขอใส่ใจ / Sum Up

ศาสนาและความศรัทธาในสายตาของ D-Gerrad

เมื่อพูดเรื่องวิทยาศาสตร์และดาราศาสตร์ อีกสิ่งหนึ่งที่เป็นคู่ตรงข้ามกันคือ ‘ศาสนาและความเชื่อ’ การกำเนิดโลกในทางวิทยาศาสตร์ไม่เหมือนกับในพระคัมภีร์ และจักรวาลก็ไม่ได้มีหน้าตาเหมือนกับภาพวาดในไตรภูมิพระร่วง แล้วในสายตาของบิ๊กมองศาสนาและความเชื่ออย่างไรในฐานะที่อ่านหนังสือเชิงฟิสิกส์ควอนตัมและการกำเนิดเอกภพในเชิงวิทยาศาสตร์มาพอสมควร

บิ๊กพูดคุยแลกเปลี่ยนเรื่องศาสนาในมุมมองของคนที่ ‘ไม่เชื่อ’ แล้วกลับมา ‘เชื่อ’ ในภายหลัง เขาเล่าว่าก่อนหน้านี้ถูกพ่อบังคับให้เข้าโบสถ์ทุกวันอาทิตย์ เขาปล่อยให้เสียงร้องเพลงสรรเสริญและการภาวนาเป็นเพียงถ้อยคำที่พัดผ่านไป เพราะในตอนนั้นเขาไม่เข้าใจว่าทำสิ่งนี้ไปเพื่ออะไร แล้วจะได้อะไรกลับคืนมา พอเติบโตขึ้นเป็นวัยรุ่นความต่อต้านก็ยิ่งพุ่งทยานสูงขึ้น เขากลายเป็นคนไม่มีศาสนา ทุบทำลายศาลเจ้าและไม่ศรัทธาต่อสิ่งใด 

กระทั่งการจากไปของพ่อทำให้เขาหันกลับมารักตัวเองและพึ่งพาศาสนามากขึ้น มีหลายเหตุการณ์ที่ย้ำชัดว่าสิ่งที่เกิดขึ้นหลายอย่างในชีวิตเขาไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่มันเกิดจากการกำหนดของใครบางคน เขาเริ่มพบความน่าประหลาดใจหลายอย่างผ่านความพิเศษของตัวตนที่เขาเรียกว่า ‘พระเจ้า’ อาจเพราะครึ่งหนึ่งที่เชื่อในวิทยาศาสตร์ทำให้เขาเข้าใจศาสนาในเชิงสสารที่จำเป็นต้องใช้จิตใจของมนุษย์ บิ๊กเติบโตขึ้นพร้อม ๆ กับเปิดใจเชื่อในศาสนามากขึ้น ซึ่งสำหรับเขาสิ่งเหล่านี้ช่วยเยียวยามากกว่าทำร้าย

นอกจากนี้บิ๊กยังเสริมในประเด็นนี้อีกว่า ความจริงศาสนามีประโยชน์และจำเป็นกับเรามากโดยเฉพาะในด้านจิตใจ เพียงแต่ในวันนี้ยุคสมัยหรืออะไรก็ตามมันทำให้เรารู้สึกว่าศาสนาคือสิ่งที่ไร้สาระ เพราะมีคนบางจำพวกที่เรียกว่า ‘มารศาสนา’ คอยกัดกินและทำลาย กระทั่งความเข้าใจเกี่ยวกับศาสนาที่แท้จริงนั้นบิดเบี้ยว ผู้คนโฟกัสกับวัตถุมากกว่าใจความสำคัญ จนหลงลืมหลักธรรมและปรัชญาที่แฝงไว้ในคำสอน มันเหมือนกับปลาเน่าตัวเดียวบดบังความงดงามของอัญมณี 

บิ๊ก D - Gerrard / ขอใส่ใจ / Sum Up

ช่วงชีวิตที่กล่อมเกลาออกมาเป็นเสียงเพลง

บิ๊กร่ำเรียนดนตรีมาตั้งแต่สมัยมัธยมจนถึงมหาวิทยาลัย เขาเรียนร้องเพลงสากลไปพร้อม ๆ กับศึกษาดนตรีแจ๊ส ประกอบกับแนวความคิดผสมผสาน ยิ่งทำให้ผลงานดนตรีของเขาปะปนไปด้วยเทคนิคและแนวดนตรีหลายแบบ โดยบิ๊กเล่าว่าสิ่งสำคัญในการทำเพลงคือการอธิบายความรู้สึกของเราลงไปในเพลง ใส่ลูกเล่นและความบันเทิงลงไปบ้าง เช่น การใช้เทคนิคการวอร์มเสียงของนักร้องเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในบทเพลง ‘รถไฟบนฟ้า’ หรือจะเป็นการเล่าความแฟนตาซีเหนือจริงในเพลง ‘เวทย์มนต์’ และแน่นอนว่าการสอดแทรกเรื่องดวงดาวและดาราศาสตร์ในเพลง ‘กาแล็กซี’ ที่เคยโด่งดังและได้รับความนิยมอย่างล้นหลามในช่วงที่ผ่านมามีความน่าสนใจอยู่ไม่น้อย

บิ๊กพยายามใส่ความเป็นตัวเองเข้าไปในงานผ่านการใช้เทคนิคทางดนตรีที่เคยร่ำเรียนมา โดยบิ๊กเล่าว่าดนตรีก็เป็นสิ่งที่สำคัญไม่แพ้กับเนื้อหา เพลงต้องดึงดูดคนฟังตั้งแต่เมโลดี้แรก ถ้าหากว่าดนตรีไม่เพราะมากพอที่จะดึงคนฟังให้อยู่กับเพลง พวกเขาอาจกดปิดก่อนที่นักร้องจะเอื้อนเอ่ยเนื้อเพลงท่อนแรกออกมาด้วยซ้ำ บิ๊กจึงพยายามให้เพลงของตนเองมีท่อนที่เพลงค่อย ๆ นำพาคนฟังไปส่งที่ท่อนฮุคอย่างปราณีต มีการใส่ลูกเล่น ใส่จังหวะให้น่าสนใจอยู่ตลอด เมื่อนำมาประกอบกับเนื้อร้องก็จะสร้างสมดุลให้เพลง ทำให้เพลงมีความน่าสนใจน่าค้นหา ราวกับเดินทางบนอวกาศตามคอนเซปต์ที่บิ๊กชื่นชอบตั้งแต่แรก

จากการพูดคุยกันในครั้งนี้ทำให้เรารู้สึกว่าบิ๊กเป็นอีกหนึ่งคนที่มีมิติที่น่าสนใจ ในตอนแรกเขาดูซับซ้อนเหมือนกับหนังสือที่เขาชอบอ่าน แต่เมื่อพูดคุยกันไปสักพักเรากลับเข้าใจเขาได้ง่ายเหมือนกับบทเพลงที่เขาเขียน ยังไม่รวมถึงมุมมองในการมองโลกและบางสิ่งบางอย่างของเขาที่ต้องบอกเลยว่าเจ๋งมาก ๆ ซึ่งในการสนทนาครั้งนี้เราใช้เวลาไปทั้งหมด 1 ชั่วโมง 35 นาที จากตอนแรกที่คาดการณ์ไว้ว่าอาจจะคุยกันแค่ 30 นาทีเท่านั้น แต่ด้วยบทสนทนาที่มันรุ่มรวยไปด้วยความน่าสนใจจึงทำให้เวลาล่วงเลยมา แต่ก็ถือว่าเป็นสิ่งที่คุ้มค่าในการได้เรียนรู้ชีวิตและแนวคิดของคน ๆ หนึ่ง

บิ๊ก D - Gerrard / ขอใส่ใจ / Sum Up

สามารถรับชมขอใส่ใจตอนนี้ได้ทาง