12 ที่เที่ยวรอบโอซาก้า

หลังจากบทความที่แล้วเราได้พาทุกคนไปรู้จักกับนครโอซาก้า เมืองท่าสำคัญแห่งภูมิภาคคันไซ ประเทศญี่ปุ่น ผ่านเวทีระดับโลกอย่าง World Expo 2025 งานมหกรรมระดับโลกที่แสดงถึงความหวังในอนาคตผ่านการทำปัจจุบันให้ดี ซึ่งสะท้อนวิธีคิดของญี่ปุ่นทั้งทางด้านชีวิต นวัตกรรม และการออกแบบสังคมให้ก้าวหน้าไปอย่างมีความหมาย คราวนี้เราขอชวนคุณก้าวออกจากเกาะแห่งความฝัน นั่งรถไฟและข้ามสะพานมาเดินเล่นในเมือง ลัดเลาะไปตามย่าน ร้านรวง และสถานที่เล็กใหญ่กว่า 12 จุด ที่บอกเล่าเรื่องราวและตัวตนของโอซาก้าในอีกแง่มุม ตั้งแต่แหล่งกินเที่ยว ช้อปปิง มิวเซียม ห้องสมุด พื้นที่พักผ่อนหย่อนใจ หรือกระทั่งพื้นที่สำหรับแฟนคลับตัวจริง

ถ้าพร้อมแล้ว เราขอชวนออกเดินไปด้วยกันจากบรรทัดนี้เป็นต้นไป

“หากอยากรู้จักกับเมืองไหนในจังหวะที่ลึกกว่าการเดินผ่าน
อาจลองแวะเข้าไปในพิพิธภัณฑ์ของพวกเขา
และฟังสิ่งที่สถานที่หรือวัตถุเหล่านั้นกำลังบอกเล่า”

บางที… การจะรู้จักบ้านเมืองหนึ่งได้ดีที่สุด สิ่งที่มากกว่าแค่การเดินถนน อาจเป็นการหยุดอยู่ที่พิพิธภัณฑ์สักที่ และฟังสิ่งที่พวกเขาเหล่านั้นอยากเล่า

ประโยคข้างต้นคือสิ่งที่เราตกตะกอนได้หลังจากเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ 5 แห่ง ที่สำหรับเราแล้วนั้น พวกเขาบอกเล่าเรื่องราวของนครโอซาก้าในแต่ละแง่มุมที่แตกต่างกันไป แต่หากลองมาร้อยเรียงกันดูแล้ว ทุก ๆ สถานที่กลับเชื่อมโยงความเป็นโอซาก้าเข้าไว้ด้วยกันราวกับสำนวนที่ว่า connect the dot.

สถานที่ทั้ง 5 ได้แก่ พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์โอซาก้า (The Osaka Museum of History), พิพิธภัณฑ์บ้านและความเป็นอยู่โอซาก้า (The Osaka Museum of Housing and Living), พิพิธภัณฑ์เซรามิกตะวันออกเมืองโอซาก้า (The Museum of Oriental Ceramics), ห้องสมุดเด็กแห่งนากาโนะชิมะ (Nakanoshima Children’s Book Forest) และพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำไคยูคัง (Osaka Aquarium Kaiyukan)

สำหรับพิพิธภัณฑ์ทุกหนแห่ง ภาพจำของใครหลายคนอาจมองว่าสิ่งนี้คล้ายกับโกดังเก็บของเก่า แต่ถึงอย่างนั้นเราก็อยากชวนมองว่า ‘ในคนมีของ และในของก็มีคน’ เรื่องราวต่าง ๆ และประวัติศาสตร์หลากหลายแง่มุมถูกบรรจุเอาไว้ผ่านของเก่าที่ถูกจัดแสดงอยู่ในแต่ละสถานที่ และนั่นคือโอกาสที่ดีที่เราอาจได้เรียนรู้อดีตผ่านสิ่งของที่มีเรื่องราวที่อยากเล่าเต็มไปหมด

พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์โอซาก้า คือสถานที่แรกที่ผู้เขียนได้มีโอกาสเข้าไปเยี่ยมชมศึกษา ด้วยความที่ตั้งอยู่ใกล้กับสวนปราสาทโอซาก้า และอยู่ในตึกที่ติดกับสถานีโทรทัศน์ NHK อีกด้วย โดยประตูทางเข้าเป็นกระจกทรงกลมสไตล์โมเดิร์นคอยต้อนรับนักท่องเที่ยวที่แวะเวียนเปลี่ยนผ่านเข้ามา ซึ่งที่แห่งนี้ได้บันทึกประวัติศาสตร์ราว 1,400 ปีของโอซาก้า ตั้งแต่ยุคโบราณที่โอซาก้าเป็นเมืองหลวงแห่งแรกของญี่ปุ่น เป็นที่ตั้งของพระราชวังนานิวะ ต่อด้วยยุคกลางยุคสมัยใหม่ทั้งตอนต้นและปัจจุบันเอาไว้ที่นี่ ผ่านสื่อการเรียนรู้ที่หลากหลายทั้งของจริงและแบบจำลอง ทั้งสิ่งของเชิงกายภาพ ภาพถ่าย และภาพยนตร์ ทั้งหมดทั้งมวลทำให้เราได้ย้อนเห็นภาพโอซาก้าตั้งแต่การเป็นเมืองท่าในอดีตจนมาเป็นมหานครที่ยิ่งใหญ่เช่นดังปัจจุบัน

ในชั้นบนสุดนั้นมีจุดไฮไลต์คือสามารถมองเห็นวิวของปราสาทโอซาก้าและสวนซากปรักหักพังของพระราชวังนานิวะได้อย่างไม่มีอะไรบดบังทัศนวิสัย อีกทั้งลองมาที่ชั้น 8 ก็ยังมีเวิร์กช็อปขนาดย่อมให้เด็ก ๆ และบุคคลที่สนใจมาเป็นนักโบราณคดีฝึกหัดผ่านคำแนะนำของศูนย์โบราณคดีนานิวะ (Naniwa Archaeological Resource Centre) ได้อีกด้วย ซึ่งจะมีทั้งการให้ความรู้และการฝึกปฏิบัติเล็ก ๆ น้อย ๆ (ส่วนตัวผู้เขียนเห็นแล้วรู้สึกดีใจมากที่องค์ความรู้เชิงโบราณคดีถูกให้ความสนใจและถือว่าย่อยง่ายสำหรับบุคคลทั่วไป)

12 ที่เที่ยวรอบโอซาก้า
มุมจากพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์โอซาก้าชั้นบนสุด
12 ที่เที่ยวรอบโอซาก้า
ส่วนหนึ่งของศูนย์โบราณคดีนานิวะ

ถัดมากับ พิพิธภัณฑ์บ้านและความเป็นอยู่โอซาก้า ที่หากใครกำลังติดลมจากพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์โอซาก้า เราอยากเชิญชวนให้ไปกันต่อยังสถานที่แห่งนี้ เพราะว่าเป็นพิพิธภัณฑ์ที่บอกเล่าเรื่องราวการเปลี่ยนแปลงของบ้านเมืองและที่อยู่อาศัยในโอซาก้าตั้งแต่ยุคเอโดะ เมจิ ไทโช มาจนถึงโชวะได้อย่างดีที่สุด ด้วยการออกแบบ เชิง Interactive ที่จำลองบรรยากาศมาจิยะ (Michiya: อาคารที่เป็นได้ทั้งร้านรวงและที่อยู่อาศัย) สุดสมจริงราวกับเราได้เป็นป้าข้างบ้านที่หลุดเข้าไปในอดีตแล้วเคาะประตูถามไถ่ชีวิตของชาวบ้านในชุมชนเหล่านั้น ส่วนอีกความน่าสนใจคือจะมีชุดกิโมโนให้เช่าและสามารถถ่ายรูปตามจุดต่าง ๆ ได้อีกด้วย อีกทั้งการตกแต่งภายในก็จะแตกต่างกันไปตามฤดูกาล ภายในจะมีการจัดแสดงถึงประวัติศาสตร์ ความเป็นอยู่ และวัฒนธรรม ซึ่งถึงแม้ว่าจะมีเวลาอยู่ในนั้นเพียงราว 30-45 นาที แต่ก็ยังมีนิทรรศการที่จำลองบ้านเมืองและสถานที่สำคัญต่าง ๆ ในแต่ละยุคสมัยผ่านโมเดล ที่ผู้เขียนชอบเป็นพิเศษคือแบบจำลองของสวนสนุก Tsutenkaku and Luna Park สวนสนุกเก่าของโอซาก้าที่มีรูปแบบการสร้างจำลองมาจากหอไอเฟลและ Arc de Triomphe ในปารีส ถือว่ามาก่อนกาลที่ยูนิเวอร์แซลสตูดิโอและดิสนีย์แลนด์จะเข้ามานานโข

ความน่าสนใจอีกอย่างของที่นี่คือ เขาอนุญาตให้เราได้เข้าชมและสัมผัสข้าวของต่าง ๆ ได้ จึงนับเป็นสถานที่ที่น่าสนใจอีกหนึ่งแห่งสำหรับใครอยากรู้จักกับความเป็นโอซาก้าให้มากขึ้น

12 ที่เที่ยวรอบโอซาก้า
ส่วนหนึ่งจากพิพิธภัณฑ์บ้านและความเป็นอยู่โอซาก้า
12 ที่เที่ยวรอบโอซาก้า
แบบจำลองสวนสนุก Tsutenkaku and Luna Park

หากใครยังสนใจกับมิวเซียมเชิงประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม เราอยากชวนให้ไปกันต่อกับพิพิธภัณฑ์เซรามิกตะวันออกเมืองโอซาก้า ที่แห่งนี้เราจะขยับออกมาที่เกาะนากาโนะชิมะ (Nakanoshima) เกาะเล็ก ๆ ซึ่งมีพื้นที่ไม่มาก แต่ได้รับการขนานนามว่าเป็นจุดที่รวบรวมสถานที่เชิงครีเอทีฟของโอซาก้าเอาไว้มากมาย โดยสำหรับพิพิธภัณฑ์เซรามิกฯ ก่อตั้งโดยเทศบาลนครโอซาก้าเมื่อปี 1082 เพื่อเป็นที่เก็บรวมและจัดแสดงเครื่องปั้นดินเผาอันทรงคุณค่าของภูมิภาคเอเชียและของโลกเอาไว้มากมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งคอลเล็กชันจากจีน ญี่ปุ่น หรือกระทั่งเกาหลี มีหลากหลายคอลเล็กชันและมีจำนวนมากถึง 6,000 ชิ้น หนึ่งในนั้นมีอยู่ 2 ชิ้นที่เป็นสมบัติประจำชาติ ได้แก่ ชามข้าวเท็นโมกุ และ แจกันดอกไม้ศิลาดลบิน รวมถึงยังมีทรัพย์สินทางวัฒนธรรมอีกจำนวนมาก ความเก๋อีกอย่างหนึ่งคือผู้ชมสามารถชมเครื่องเซรามิกที่สวยงามอาบแสดงแดดอ่อน ๆ โดยที่มีคำอธิบายรายละเอียดเอาไวข้างใต้ในทุก ๆ คอลเล็กชันที่มีการจัดแสดง

12 ที่เที่ยวรอบโอซาก้า
ตัวอย่างของที่จัดแสดงในพิพิธภัณฑ์เซรามิกฯ ซึ่งใช้แสงจากธรรมชาติในการจัดแสดงสิ่งของ

เรายังอยู่กันที่เกาะนากาโนะชิมะ แน่นอนว่ามุมเล็ก ๆ แต่ไม่ลับจนเกินไปที่ไม่อยากให้พลาดคือ ห้องสมุดเด็กแห่งนากาโนะชิมะ หลายคนอาจสงสัยว่าเพราะเหตุใดเราถึงอยากชวนให้ไปเที่ยวห้องสมุดเด็กที่เต็มไปด้วยหนังสือนิทานหรือหนังสือภาพมากมาย เราอาจเลยวัยเยาว์ที่จะตื่นเต้นกับโลกกว้างและการเติบโตไปเสียแล้ว แต่ช้าก่อน เราเชื่อว่าหากคุณได้ใช้เวลายามบ่ายของสักวันมายังสถานที่แห่งนี้ เชื่อว่าคุณอาจเปลี่ยนมุมมองที่มีต่อเด็ก ๆ และการเติบโตไปตลอดกาล

ที่นี่เปิดตัวมาตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2020 โดย ทาดะโอะ อันโดะ (Tadao Ando) สถาปนิกชื่อดังเป็นผู้เนรมิตพื้นที่ที่ไม่เล็กไม่ใหญ่ให้เป็นป่าห้องสมุดซึ่งเต็มไปด้วยหนังสือภาพสีสันสดใสกว่า 20,000 เล่ม ถึงแม้ว่าในตอนนี้จะยังไม่เปิดให้บริการยืม-คืนหนังสือ แต่ก็อนุญาตให้ใช้เสียงได้และสามารถเข้าได้ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย อีกทั้งถึงใครที่ไม่เคยเรียนภาษาญี่ปุ่นมา หรือมีความรู้เกี่ยวกับภาษาญี่ปุ่นเพียงน้อยนิดเช่นดังผู้เขียนก็สามารถเอ็นจอยกับหนังสือทั้งหมดได้ เพราะว่ามีการแบ่งหมวดหมู่เอาไว้อย่างหลากหลาย ตั้งแต่เรื่องของรอบตัว ชีวิตประจำวัน คนรอบข้าง การเติบโต เมืองโอซาก้า ไปจนกระทั่งถึงวาระสุดท้ายปลายทางของชีวิต

จุดประสงค์หลักของอันโดะในการสร้างสถานที่นี้ เขามองว่าเด็ก ๆ คือกำลังสำคัญที่จะโตขึ้นมาเป็นผู้นำในอนาคต ดังนั้นเขาจึงให้ความสำคัญกับการปลูกฝังนิสัยรักการอ่านให้ เพราะนอกจากหนังสือจะพาเด็ก ๆ ท่องไปยังโลกกว้างแล้ว ก็ยังเปิดโลกแห่งจินตนาการออกไปได้อย่างไม่รู้จบ

“ถึงเด็ก ๆ ที่รัก – หยิบหนังสือเล่มที่สะกิดหัวใจคุณเบา ๆ แล้วปล่อยให้เรื่องราวพาคุณล่องลอยไปยังดินแดนที่มีแค่คุณเท่านั้นที่ไปถึง” คือส่วนหนึ่งของข้อความในแผ่นพับประชาสัมพันธ์ของป่าหนังสือแห่งนี้

12 ที่เที่ยวรอบโอซาก้า
12 ที่เที่ยวรอบโอซาก้า

สุดท้ายปลายทางกับพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำเลื่องชื่ออย่าง พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำไคยูคัง อควาเรียมขนาดใหญ่ที่มีสัตว์มากกว่า 620 สายพันธุ์ และมีจำนวนมากถึง 30,000 ตัวซึ่งมีที่มาจากทั้งท้องทะเลของญี่ปุ่นและมหาสมุทรแปซิฟิก โดยผู้สร้างได้เนรมิตพื้นที่แห่งนี้ราวกับว่าได้ท่องไปในมหาสมุทรที่มีสัตว์น้อยใหญ่มากมาย ทั้งปลาชนิดต่าง ๆ กระเบนราหู สัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำ สัตว์ปีก สัตว์เลื้อยคลาน และไฮไลต์อย่างฉลามวาฬและกาแล็กซีแมงกะพรุน เมื่อไปถึงโซนสุดท้ายก็จะพบกับโซนขั้วโลกเหนือที่มีแมวน้ำวงแหวนอาศัยอยู่ อีกทั้งที่นี่ยังมี audio book เป็นภาษาไทยเพื่อรองรับนักท่องเที่ยวอย่างเรา ๆ อีกด้วย ดังนั้นใครที่เป็นสายอควาเรียมไม่อยากให้พลาด

12 ที่เที่ยวรอบโอซาก้า
12 ที่เที่ยวรอบโอซาก้า

“ถ้ายังไม่ได้มาที่เหล่านี้ ก็เหมือนยังมาไม่ถึงโอซาก้า!”

เราได้มัดรวมไฮไลต์ที่สำคัญของโอซาก้าอีก 3 ที่ เพื่อมาเชิญชวนทุกคนให้แวะเช็กอินไปด้วยกัน เริ่มกันที่แรกด้วย ปราสาทโอซาก้า (Osaka Castle) สถานที่ที่มีความสำคัญทั้งเชิงประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม เพราะเคยเป็นสนามรบในการแย่งชิงอำนาจทางการเมืองในโอซาก้า สร้างโดย ฮิเดโยชิ โทโยโตชิ (Hideyoshi Toyotomi) หรือที่รู้จักกันในฉายา ‘นโปเลียนแห่งญี่ปุ่น’ ซึ่งด้วยสภาวการณ์ที่กล่าวไปข้างต้นทำให้ปราสาทโอซาก้าถูกทำลายและได้รับการบูรณะใหม่อยู่หลายครั้งหลายครา ในปัจจุบัน ตัวหอคอยของปราสาทได้เปลี่ยนเป็นพิพิธภัณฑ์ให้คนทั่วไปได้เข้าเยี่ยมชม ชั้นบนสุดเป็นจุดชมวิวเมืองโอซาก้าแบบ 360 องศา มีระดับความสูงมากถึง 50 เมตร อีกทั้งข้างนอกโดยรอบปราสาทโอซาก้าก็ยังมีสวนสาธารณะขนาดใหญ่ที่สามารถเข้าชมได้ฟรี และชาวญี่ปุ่นก็มักมาเดินเล่นหรือออกกำลังกายกันในสวนแห่งนี้

12 ที่เที่ยวรอบโอซาก้า

เขยิบออกมาที่ย่านอุเมดะ (Umeda) ย่านดังที่ถือเป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจภูมิภาคคันไซ ซึ่งมีห้างสรรพสินค้าถึง 6 แห่ง สามารถช้อปปิงทุกอย่างได้อย่างครบเครื่องเรื่องแฟชั่น โดยในย่านนี้ยังมีจุดท่องเที่ยวที่ชวนให้เข้าไปเช็กอินอีกมากมาย สถานที่ที่เราเลือกเข้ามาเที่ยวชมในครั้งนี้คือ ตึกอุเมดะสกาย (Umeda Sky Building) อีกหนึ่งแลนด์มาร์กสำคัญของโอซาก้าที่ชวนให้เราได้ขึ้นไปชมเมืองโอซาก้าในมุมมองวิวพาโนรามาราวกับเราได้โบยบินอยู่บนฟากฟ้า เป็นอาคารที่มีรูปแบบสถาปัตยกรรมทันสมัย มีความสูงถึง 173 เมตร สำหรับใครที่กลัวความสูงขอบอกไว้ก่อนเลยว่าที่นี่เขามีระบบรักษาความปลอดภัยที่คุ้มกันนักท่องเที่ยวอย่างเรา ๆ เป็นอย่างดี และอีกสถานที่หนึ่งที่แวะเวียนเข้าไปเยี่ยมชมได้ก็คือ โรงละครอุเมดะ (Umeda Theater) ที่ตั้งอยู่ภายในตึกเดียวกันกับตึกอุเมดะสกาย อันที่จริงก็อาจไม่ต่างจากโรงภาพยนตร์ทั่วไปเท่าไรนัก แต่หากใครเป็นคอภาพยนตร์ก็อาจจะลองไปสอดส่องดูว่ามีภาพยนตร์เรื่องโปรดของเรากำลังฉายอยู่หรือเปล่า เพราะการได้เห็นภาพยนตร์เรื่องต่าง ๆ ในชื่อและโปสเตอร์ฉบับภาษาญี่ปุ่นก็เป็นอะไรที่น่าตื่นเต้นอยู่ไม่น้อย

12 ที่เที่ยวรอบโอซาก้า
จุดชมวิวตึกอุเมะดะสกายที่มองจากด้านล่าง
12 ที่เที่ยวรอบโอซาก้า
วิวพาโนรามาบนยอดตึกอุเมดะสกายที่ทำให้เราได้มองเห็นโอซาก้าสุดลูกหูลูกตา
12 ที่เที่ยวรอบโอซาก้า
บริเวณด้านหน้า Theatre Umeda

แน่นอนว่ามาท่องเที่ยวทั้งทีก็ต้องไม่พลาดกับศูนย์ความบันเทิง (Entertainment) ต่าง ๆ ซึ่งจุดที่ไม่มาไม่ได้สำหรับคนชอบความตื่นเต้นอย่างเรา ๆ ก็ต้องมี Universal Studios Japan อยู่แล้ว! เชื่อเหลือเกินว่า ที่นี่จะเป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่อยู่ในแพลนทริปของใครหลายคนที่มาเที่ยวโอซาก้าและคันไซ ด้วยดีกรีของความเป็นสวนสนุกระดับโลกอันเป็นที่โปรดปรานของทั้งเด็กและผู้ใหญ่ โดยที่นี่มีทั้งหมดถึง 9 โซนที่จำลองมาจากภาพยนตร์เรื่องต่าง ๆ ความน่าสนใจคือเป็นสวนสนุกของค่ายยูนิเวอร์แซล สตูดิโอแห่งแรกที่สร้างขึ้นในเอเชีย อีกทั้งด้วยความที่ญี่ปุ่นเป็นประเทศต้นตำรับของมังงะ อนิเมะ และเกมชื่อดังต่าง ๆ มากมาย จึงมีคาแรกเตอร์และการคอลแลบกับตัวการ์ชื่อดังของญี่ปุ่นอยู่เสมอ ไฮไลต์ในนี้แน่นอนว่ามีแทบจะทุกโซนชื่อดัง ที่ถูกใจผู้เขียนเป็นพิเศษก็คือโซน แฮร์รี่ พอตเตอร์ (The Wizarding World of Harry Potter), มาริโอ้และนินเทนโด้ (Super Nintendo World) และมินเนี่ยน (Minion Park) ที่เนรมิตโซนได้ราวกับเราเข้าไปอยู่ในโลกของพวกเขาแบบเต็ม ๆ 

สำหรับในทริปนี้มีภาพปราสาทฮอกวอตส์งาม ๆ มาฝากทุกคน หากใครเป็นแฟนคลับหรือชื่นชอบแฮร์รี่ พอตเตอร์ก็อยากลองชวนให้ได้เข้าไปในโลกเสมือนจริงนี้สักครั้ง ทั้งร้านรวงต่าง ๆ ในฮอกส์มี้ด รถไฟที่ชานชาลาเก้าเศษสามส่วนสี่ มาสคอตบั๊กบี๊ก และอื่น ๆ อีกมากมาย ซึ่งหากใครฝันจะเป็นพ่อมดแม่มดควรลองมาที่นี่สักครั้งในชีวิต

12 ที่เที่ยวรอบโอซาก้า
โซนแฮร์รี่ พอตเตอร์ (The Wizarding World of Harry Potter) ใน USJ (วันไหนฟ้าโปร่งจะถ่ายรูปสวยมาก)
12 ที่เที่ยวรอบโอซาก้า
โซน Super Nintendo World ใน USJ

ไปกันต่อกับโค้งสุดท้ายในย่านของ ‘แฟนคลับตัวจริง’ (หรือในภาษาเรา ๆ ก็คือไปติ่งนั่นเอง) สถานที่สำหรับแฟนคลับนั้นมีอยู่ในโอซาก้ามากมาย แต่สถานที่ที่ขอคัดสรรมาเล่าให้ฟังในวันนี้คือ ทาวเวอร์เรคคอร์ดส์ (Tower Record) และโรงละคร NMB48 Theater

เริ่มกันด้วย ทาวเวอร์เรคคอร์ดส์ เชื่อว่าสำหรับแฟน ๆ วงการเจป๊อปอาจจะพอคุ้นหูกับชื่อนี้มาบ้าง เพราะว่าที่นี่คือร้านขายซีดีเจ้าใหญ่ระดับตำนานที่จัดจำหน่ายซีดีและอัลบั้มมากมายทั้งศิลปินญี่ปุ่นและต่างชาติ ซึ่งจะมีอยู่ตามหัวเมืองใหญ่ต่าง ๆ ในญี่ปุ่น ทั้งโตเกียว โอซาก้า นาโกย่า และซัปโปโร โดยในส่วนสาขาของโอซาก้าเองก็อยู่ในย่านอุเมดะเช่นกัน มีทั้งหมด 2 โซนใหญ่ ๆ คือชั้นที่ขายไวนิล และชั้นที่ขายซีดี นิตยสาร และสินค้าอื่น ๆ พอเข้าไปแล้วถึงแม้ว่าส่วนตัวอาจจะยังไม่รู้จักวงการเจป๊อปมากนัก แต่เมื่อเดินเข้าไป เราพูดได้เลยว่าที่นี่คืออาณาจักรสำหรับคนรักซีดีและแผ่นเสียงชัด ๆ ป้าย “No Music, No life!” ที่ตั้งอยู่นี้คือคำอธิบายถึงสถานที่แห่งนี้ได้ดีที่สุด ว่าแล้วก็ยังอดทึ่งไม่ได้ว่าในโลกที่มีสตรีมมิงเข้ามา สวนทางกับซีดีที่ได้รับความนิยมในแง่วัตถุน้อยลง แต่ชาวญี่ปุ่นก็ยังคงเสพและซื้อแผ่นซีดีกันอย่างเหนียวแน่น ส่วนตัวผู้เขียนมองว่ายังเป็นประสบการณ์ที่น่าสนใจ

12 ที่เที่ยวรอบโอซาก้า

ถัดมากับ NMB48 Theater (ออกตัวก่อนว่าผู้เขียนเป็นแฟนคลับ 48GTH ที่มีความสนใจในวัฒนธรรมญี่ปุ่น และรักวงในเครือ 48 มาก ๆ) สำหรับธรรมเนียมของไอดอล 48 แล้วนั้นจะมีหนึ่งกิจกรรมที่เรียกว่าการแสดงในโรงละครที่จะเป็นการแสดงแบบปิด ใช้เพลงที่ไม่ใช่เพลงหลัก บางเพลงก็ไม่มีลงในสตรีมมิงเสียด้วยซ้ำ และในโรงละครขนาดกะทัดรัดเหล่านั้นยังไม่อนุญาตให้ใช้โทรศัพท์มือถือสำหรับภาพและวิดีโอ ดังนั้นการแสดงในโรงละครแห่งนี้จึงเป็นการแสดงที่หาดูได้ยากและต้องอาศัยดวงสำหรับการสุ่มบัตรเข้าไปรับชม แต่สำหรับวง NMB48 ซึ่งเป็นวงที่ประจำการที่ย่านนัมบะ โอซาก้านั้นมีระบบการรับชมที่เอื้อต่อแฟนคลับชาวต่างชาติมาก ๆ เพราะว่าแฟน ๆ ต่างชาติสามารถกดจองตั๋วและชำระเงินผ่านเว็บไซต์ได้เลยโดยที่จะการันตีที่นั่งโดยไม่ต้องรอสุ่ม พอเมื่อได้เข้าชมการแสดงแล้วถึงแม้จะไม่ใช่วงที่ติดตามอย่างใกล้ชิด แต่การได้รับชมการแสดงสด ๆ แบบไอดอลรุจ๋า ๆ มันก็เติมเต็มหัวใจในฐานะแฟนคลับได้อย่างมาก

12 ที่เที่ยวรอบโอซาก้า

ปิดท้ายกันด้วยการหาของอร่อย ๆ รับประทานหลังจากเที่ยวมาทั้งวัน ส่วนใหญ่แล้วนักท่องเที่ยวชาวไทยเรามักจะเลือกพักกันที่ย่านนัมบะ-ชินไซบาชิ-อุเมดะ หรือย่านที่มีบริเวณใกล้เคียงกันกับที่กล่าวมาข้างต้น เพราะว่าที่เหล่านี้คือสวรรค์ของทั้งนักกิน ดื่ม เที่ยว และช้อปปิ้ง อีกทั้งการเดินทางยังสะดวกสบายด้วยรถไฟ โดยเฉพาะในย่านของนัมบะและชินไซบาชิเต็มไปด้วยของกินอร่อย ๆ มากมายทั้งคาวหวานและแนวสตรีทฟู้ด บริเวณนี้มีชื่อเรียกว่า ‘ย่านมินามิ’ (Minami) เต็มไปด้วยร้านรวงมากมายที่ตอบโจทย์อันหลากหลายของนักท่องเที่ยว ซึ่งหากไม่ซีเรียสเรื่องร้านดังมาก จะบอกว่าร้านโลคอลหลาย ๆ ร้านสามารถสุ่มทานได้เลย ทั้งราคาและผลลัพธ์คือเกินที่คาดอย่างแน่นอน อีกทั้งบริเวณนี้ยังเป็นที่ใกล้กันกับ ‘ป้ายกูลิโกะ’ อันเป็นสัญลักษณ์สำคัญอีกอย่างหนึ่งของย่านโอซาก้า เหมาะมากสำหรับการถ่ายรูปเก็บไว้เป็นที่ระลึก

12 ที่เที่ยวรอบโอซาก้า
Shinsaibashi เดินตรงยาวไป Namba
12 ที่เที่ยวรอบโอซาก้า
ป้าย Glico Sign

แม้ว่าเราจะลัดเลาะมาแล้วถึง 12 พิกัดรอบเมือง แต่ทริปโอซาก้าคราวนี้ยังไม่จบลงแต่เพียงเท่านี้ เพราะในบทความถัดไป เราอยากชวนคุณไปต่อกันอีกสักหนึ่งบท สู่ ‘มุมลับ’ ของเมือง ที่อาจไม่ใช่จุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวทั่วไป และอาจไม่มีรีวิวมากนักในโลกออนไลน์ บางท่านอาจไม่คิดว่าเรื่องราวแบบนี้จะเกี่ยวกับโอซาก้า แต่อีกด้านของคันไซก็ยังมีมุมที่เงียบ ลึก และซื่อตรงกว่า ที่จะช่วยให้เราได้มองเห็นภาพรวมของเมืองได้ครบครันยิ่งขึ้น

ในครั้งหน้าจะเป็นบทความสุดท้ายของมินิซีรีส์ชุดนี้ เราจึงอยากชวนทุกคนมาร่วมผ่าน ร่วมมอง และร่วมเดินทางไปด้วยกันอีกสักหนึ่งบท ติดตามได้เร็ว ๆ นี้ทางเพจ SUM UP แล้วพบกันในตอนจบของ SUM UP OSAKA SERIES

AUTHOR

หนังสือ ไพ่ทาโรต์ กาแฟส้ม แมวสามสี และลิเวอร์พูล