หากพูดถึง ‘ยาบ้า’ ทุกคนคงพอรู้คำจำกัดความกันดีว่าเป็นสารเสพติดที่สังเคราะห์ประกอบด้วยเมทแอมฟีตะผสมกับกาเฟอีน และในบ้านเราแต่ละรัฐบาลก็ได้มีนโยบายที่พยายามกำจัดยาเสพติดให้หมดไป โดยในรัฐบาลนี้ นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้เสนอให้มีเส้นแบ่งระหว่างผู้ค้ากับผู้เสพยาเสพติดอยู่ที่ 10 เม็ด และความคืบหน้าล่าสุดเมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2567 ได้มีประกาศกระทรวงกำหนดปริมาณยาเสพติดให้โทษวัตถุออกฤทธิ์ที่ให้สันนิษฐานว่ามีไว้ในครอบครองเพื่อเสพ พ.ศ. 2567 โดยมีสาระสำคัญว่า หากถือครองยาบ้าไม่เกิน 5 เม็ด ให้ถือว่าเป็นผู้เสพและเข้ารับการบำบัดได้ แต่ถ้าถือครองเกิน 5 เม็ดให้ถือว่าเป็นผู้ค้า โดยทั้งนี้ต้องดูพฤติการณ์โดยรวมประกอบด้วย ซึ่งวิธีคิดนี้เป็นวิธีคิดแบบ ‘ผู้เสพ คือ ผู้ป่วย’ และแนวคิดนี้เคยถูกใช้มาแล้วในยุคของรัฐบาลทักษิณ ชินวัตร และรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร

ในรัฐบาลยุคทักษิณ ได้มีการประกาศสงครามกับยาเสพติด และใช้หลักคิด “ภายใต้แสงอาทิตย์ไม่มีอะไรที่ตำรวจไทยทำไม่ได้” โดยทั้งนี้ได้กำหนดให้ผู้ค้าถือครองยาเสพติดมากกว่า 15 เม็ดขึ้นไป และผู้เสพถือครองยาเสพติดไม่เกิน 15 เม็ด โดยหากเทียบสถิติคดียาเสพติดระหว่างปี 2545-2547 ก็จะพบว่าจำนวนคดียาเสพติดลดลงสูงถึงประมาณ 150,000 คดี ส่วนในยุครัฐบาลยิ่งลักษณ์ ก็ได้มีการประกาศนโยบายแก้ไขปัญหายาเสพติดให้เป็นวาระแห่งชาติ และใช้หลักคิดเหมือนกับรัฐบาลนี้คือ “ผู้เสพคือผู้ป่วย” เพื่อบำบัดผู้ติดยาเสพติดอย่างเป็นขั้นเป็นตอน และหากเทียบสถิติคดียาเสพติดปี 2555-2556 ก็จะพบว่าตัวเลขของคดียาเสพติดลดลง 38,000 กว่าคดี และในยุคของรัฐบาลประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้เคยมีความพยายามจะกำหนดให้ผู้ถือครองยาบ้ามากกว่า 15 เม็ดคือ ผู้ค้า แต่ไม่ได้ถูกประกาศออกมาเป็นกฏกระทรวง และหากเปิดสถิติคดียาเสพติด 2559-2561 จะพบว่าสูงขึ้นประมาณ 56,000 กว่าคดี แต่หลังจากนั้นก็มีสถิติลดลงมาบ้าง

นอกจากนี้ยังมีอีกหนึ่งข้อมูลที่น่าสนใจคือ นายอนุทิน ชาญวีรกูล (ปัจจุบันดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย) เคยออกมาเสนอแก้ไขร่างกระทรวงเกี่ยวกับการถือครองยาบ้าว่าถ้าครอบครองเกิน 2 เม็ดขึ้นไปก็เป็นผู้ค้าไปเลย แต่ไม่ได้ผ่านเข้าไปสู่กระบวนการเห็นชอบโดยคณะรัฐมนตรี จนมาถึงข้อมูลจากรัฐบาลชุดล่าสุดที่ได้ออกมาประกาศให้การถือครองยาบ้าไม่ถึง 5 เม็ดคือผู้เสพ และหากถือครองเกิน 5 เม็ดคือผู้ค้า จากข้อมูลที่ยกมาพอจะเห็นภาพอย่างหนึ่งว่าจำนวนในการถือครองยาบ้าสำคัญอย่างไร?

จำนวนการถือครอง เชื่อมโยงกับเรื่อง ‘นโยบายการเปลี่ยนผู้เสพเป็นผู้ป่วย’ ซึ่งเป็นแนวคิดที่เคยใช้ในต่างประเทศซึ่งก็อย่าง ‘โปรตุเกส’ ที่มองว่าจะให้สถิติการติดยาเสพติดเหลือเพียงแค่ 0 คงเป็นไปไม่ได้ จึงได้มีการตรากฏหมาย 30/2000 โดยได้ตั้งคณะกรรมการเพื่อพิจารณาผู้ต้องหาคดียาเสพติดโดยเฉพาะแบบเป็นรายบุคคล และได้มีการลดโทษทางอาญาของคดียาเสพติด และหากครอบครองไม่ถึง 10 วันไม่ว่าจะเป็นยาเสพติดประเภทใด ๆ ก็ตามจะส่งให้คณะกรรมการเป็นคนพิจารณา แต่ถ้าหากเสพเกิน 10 วันก็จะส่งต่อให้ศาลพิจารณาทางอาญาต่อไป แต่การเกิดขึ้นของกฏหมายนี้พยายามจะส่งให้ผู้ติดยาเสพติดเข้าสู่กระบวนการบำบัด รวมถึงพยายามลดความน่ากลัวของโทษทางอาญาลง

อย่างไรก็ดี นโยบายที่เพื่อไทยกำลังพยายามจะจัดทำก็คือ นโยบายเปลี่ยนผู้เสพเป็นผู้ป่วยใต้ความคาดหวังว่าจะลดจำนวนผู้ติดยาเสพติดในประเทศให้น้อยลงไปได้ รวมถึงจะขับเคลื่อนสถานฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติด โดยจะจัดตั้งมินิธัญญารักษ์เพื่อดูแลผู้ป่วยครอบคลุมแทบทุกจังหวัด รวมถึงจะมีกลุ่มงานด้านจิตเวชและหอดูแลผู้ป่วยในทุกอำเภอ

ยาบ้า

อ้างอิง