เอเรน เยเกอร์ Attack on Titan

วันนี้ผู้เขียนเองได้มีโอกาสนั่งมาย้อนดูหนึ่งในการ์ตูนญี่ปุ่นยอดฮิตที่ขึ้นชื่อในเรื่องของ ‘ความสิ้นหวัง’ จากผู้เขียน อาจารย์ฮาจิเมะ อิซายามะ กับเรื่อง ‘Attack on Titan’ หรือชื่อไทย ‘ผ่าพิภพไททัน’ เป็นเรื่องราวชีวิตของเด็ก 3 คน เอเรน เยเกอร์, มิคาสะ แอคเคอร์แมน และ อาร์มิน อาร์เลิร์ต ตัวแทนของ ผู้ทะเยอทะยาน ผู้ภักดี และ ผู้แก้ปัญหา ที่ต้องเผชิญกับโศกนาฏกรรมการบุกโจมตีของ ‘ไททัน’

ไททัน เป็น ‘มนุษย์กลายพันธุ์’ ร่างใหญ่ยักษ์ตัวแทน ‘ความสิ้นหวังของมนุษยชาติ’ นำไปสู่เรื่องราวการเผชิญหน้ากับโลกความจริงจนทำให้เรารับรู้กันว่าเรื่องราวทั้งหมด แท้จริงแล้วมันคือ ‘ชะตา’ ที่ถูกลิขิตเอาไว้ให้สิ้นหวังตามความตั้งใจของผู้เขียน โดยฝากไว้ให้กับตัวละครหลักอย่าง เอเรน ที่ได้มอบคำตอบสำคัญในช่วงเรื่องราวบทสุดท้ายของเรื่องนี้

หลายคนที่เข้ามาอ่านคงทราบกันแล้วว่าจุดจบของเรื่องราวทั้งหมดนี้เป็นอย่างไร แต่สิ่งที่น่าสนใจสำหรับการนำเสนอเรื่องนี้คือ ‘ความผิดหวัง’ จาก ‘ชะตาที่เลี่ยงไม่ได้’ ทำให้ตัวเอกอย่าง เอเรน เยเกอร์ต้องเจอกับโจทย์ที่ยากที่สุด นั่นคือ ‘สิ่งที่เจ้าตัวได้ก่อไว้’

นับตั้งแต่เอเรนได้จูบมือของ ‘ฮิสทอเรีย เรสส์’ หลังจากขับไล่ต้นต่อของความสูญเสียในวัยเด็กของเขา ฮิสทอเรียเป็นผู้ที่มีสายเลือดของผู้สืบทอดพลัง ‘ราชาไททัน’ ได้ไปปลุกพลังแฝงในตัวเขา ทำให้เริ่มเห็นลิขิตที่ขีดเขียนไว้แล้ว จนเกิดเป็นมีมหน้าจิตหลุดของเอเรนที่แฟนคลับการ์ตูนเรื่องนี้น่าจะจดจำกันได้ ทำให้เขาเริ่มรู้ความจริงต่าง ๆ และรับรู้ว่าตัวเขามีพลัง ‘ราชา’ แอบซ่อนไว้อยู่ เขารับรู้ที่มาของการได้พลัง สิ่งที่จะเกิดขึ้นตามมา เปรียบเหมือนคนที่นั่งดูหนังชะตากรรมทั้งหมดของตัวเอง ส่งผลให้เขาเริ่มค่อย ๆ หาทางแก้ปัญหานี้ไปอย่างเงียบ ๆ

จากเรื่องราวของเด็กหนุ่มที่สูญเสียแม่ตั้งแต่เด็กจากการรุกรานของไททัน เติบโตขึ้นเพื่อเผชิญหน้ากับไททัน ชำระแค้นในอดีตที่เคยเกิดขึ้น ทว่า!! ความจริงกลับตบหน้าเอเรนเข้าอย่างจัง เมื่อพลังไททันที่เอเรนมีคือ ‘ไททันจู่โจม’ สามารถรับรู้ความทรงจำในอนาคตของผู้ใช้ได้ ทำให้เอเรนในปัจจุบันพบว่าเรื่องราวทั้งหมดนี้ คนที่ทำให้ทุกอย่างมันดำเนินการต่อไปมันก็คือตัวเขาเองจากในอนาคต สิ่งเปรียบเหมือนพลังจากอนาคตที่ต้องการแก้ไขบางสิ่งในอดีต จึงต้องย้อนความคิดกลับไปแก้ไขมัน แลดูเป็นพลังที่ดีมากเลยใช่ไหม?

แต่ยิ่งกลับไปแก้มากเท่าไหร่ ความเลวร้ายในชีวิตก็ยิ่งกลับมาจู่โจมเข้าใส่ตัวเขาเหมือนชื่อพลัง ‘จู่โจม’ และหนึ่งในความสามารถของไททัน มันสามารถที่จะกินพลังของอีกคนเพื่อรับพลังนั้นเข้ามาได้ นั่นจึงทำให้เอเรนจากอนาคตบงการอดีตให้ทำเรื่องเลวร้ายเพื่อนำมาใช้แก้ปัญหาในอนาคต ส่งผลกระทบให้ ‘ลูป’ หรือวงเวียนชีวิตของเอเรนมันวนอยู่กับปัญหาที่พยายามแก้แต่แก้มันออกไม่ได้ พร้อมกับพลังไททันที่ติดตัวเขาเหมือนเป็น ‘กรรม’ ที่เจ้าตัวก่อไว้ ซึ่งเราถึงจะมารู้ความจริงทั้งหมดในช่วงท้ายของเรื่องราวที่เกิดขึ้น

อีกความน่าสนใจที่เหมือนว่าจะไม่ถูกใจสำหรับบางคนที่ติดตามมาอย่างยาวนาน หากเดินทางไปพร้อมกับเรื่องราวของเอเรน จะทำให้สัมผัสได้ถึง ‘อุดมการณ์’ ที่ยิ่งใหญ่ของเขาเมื่อทราบต้นตอของปัญหาไททันว่ามาจากคนนอกที่ใช้พลังรุกราน

แต่เมื่อหนึ่งในเหตุผลที่เป็นคำตอบอันแสนเศร้า ในตอนที่เขาได้บอกบางสิ่งกับเพื่อนสนิทอย่าง อาร์มิน นั่นคือ “อยากอยู่กับมิคาสะตลอดไป” หลายคนทราบกันดีว่ามิคาสะคือคนที่คอยสนับสนุนและอยู่เคียงข้างเอเรน แต่เหมือนว่าเขาจะไม่ค่อยสนใจในสิ่งที่มิคาสะมอบความรักดี ๆให้กับเขา จนความจริงจากปากเอเรนทำให้เราเข้าใจได้ว่าบางครั้งชีวิตที่เลือกไม่ได้ เราอาจกำลังทะเลาะกับตัวเองที่มีความปรารถนาบางอย่างในชีวิต

ลองมองดูชีวิตของตัวเราสิ คนบางคนอยากเป็นสิ่งที่อยากเป็น แต่ก็ไม่ใช่ทุกคนที่จะได้เป็นจริง ๆ บางคนได้ในสิ่งที่ปรารถนาแล้วก็จริง แต่อาจไม่ได้เติมเต็มบางสิ่งภายในใจและขวนขวายที่จะได้บางอย่างมาอย่างไม่หยุดสิ้น นี่แหละสะท้อนถึง ‘ความต้องการและความอยาก’ ในตัวตนของมนุษย์

ย้อนกลับมาที่เอเรน เพียงแค่มีความต้องการอยากจะอยู่กับคนที่รัก แต่ต้องกลับมาแบกรับชะตากรรมจากสิ่งที่ตัวเองก่อไว้ จนไม่สามารถที่จะหลุดพ้นมันไปได้ ต้องพยายามเพื่อบางสิ่ง มันเป็นเรื่องที่ดี แต่เมื่อไหร่ที่เชือกได้มัดปมให้ขยายใหญ่ขึ้น ความซับซ้อนในการแก้ปมเหล่านั้น ก็จะจัดการมันได้ยากอย่างที่เอเรนได้เจอ

จนท้ายที่สุดเขาเลือกจะให้คนรักและเพื่อนพ้องได้ทำการ ‘ปลิดชีพ’ ตัวของเขา ส่วนหนึ่งเพื่อกำจัดปัญหาของเรื่องอย่างพลังไททันให้หายสาบสูญ แม้ว่าปัญหาของความโลภในผลประโยชน์มนุษย์จะไม่สามารถแก้ได้เลย แต่การยอมสละชีพเพื่อกรรมที่ก่อจะได้ไม่เกิดความสูญเสียที่อาจทำให้เรื่องราวนี้มีจุดจบที่หดหู่ยิ่งกว่าเดิม

ทั้งหมดนี้ SUM UP อยากนำเรื่องราวที่เล่ามาตีความและสรุปให้กับทุกท่านได้อ่าน ทำให้เราได้มาทบทวนบางสิ่งในชีวิต และได้เข้าใจเจตนารมณ์ของผู้เขียนที่ได้ถ่ายทอดผ่านตัวละครสมมติ ให้คนอ่านได้รับอรรถรสของการเล่าเรื่อง และการทบทวนความคิดจากประสบการณ์ชีวิตที่ได้พบเจอมา หวังว่าทุกท่านจะได้อะไรจากการอ่านเรื่องนี้กันนะ

อ้างอิง