เมื่อวานนี้ (21 กรกฎาคม 2567) เวลาประมาณ 20.00 น. มีการจัดงานตักบาตรดอกไม้ ณ วัดบวรนิเวศวิหาร เนื่องในวันเข้าพรรษาประจำปี 2567 และวันอาสาฬหบูชา
‘ประเพณีตักบาตรดอกไม้’ เป็นประเพณีที่มีตำนานมาจากการที่พระเจ้าพิมพิสารเป็นกษัตริย์ที่ชื่นชอบในดอกมะลิมาก ในทุก ๆ วันท่านจะสั่งให้ ‘นายมาลา’ นำดอกลิมาถวายวันละ 8 กำมือ วันหนึ่งในขณะที่นายมาลากำลังเก็บดอกมะลิ และได้พบกับพระพุทธเจ้า นายมาลาจึงได้นำดอกมะลิที่เก็บมาได้ถวายแด่พระพุทธเจ้า พร้อมกับตั้งจิตอฐิษฐานว่า
“ข้าวของที่พระพิมพิสารมอบให้นั้นสำหรับยังชีพในภพนี้เท่านั้น แต่การที่ถวายดอกมะลิให้กับพระพุทธเจ้านั้นช่วยสร้างอานิสงค์ทั้งในภพนี้และภพหน้า และหากจะถูกพระเจ้าพิมพิสารประหารชีวิตเพราะไม่ยอมทำตามคำสั่งของพระองค์ตนก็ให้การยินยอม” แต่เมื่อพระเจ้าพิมพิสารรับรู้เรื่องนี้ก็รู้สึกพอใจ และมอบรางวัลต่าง ๆ ให้แก่นายมาลา
ประเพณีตักบาตรดอกไม้ เป็นประเพณีที่จะถูกจัดขึ้นในบางพื้นที่ อย่างเช่น วัดพระพุทธบาทราชวรมหาวิหาร อำเภอพระพุทธบาท จังหวัดสระบุรี ที่ทุก ๆ แรม 1 ค่ำเดือน 8 ในแต่ละปี พระสงฆ์จะรับบิณฑบาตรดอกไม้จากพุทธศาสนิกชนและนำไปสักการะรอยพระพุทธบาท ซึ่งการตักบาตรดอกไม้ของวัดบวรนิเวศวิหารจะเน้นที่ ‘ดอกบัว’ เป็นหลัก เพราะดอกบัวถือเป็นดอกไม้ที่มีบทบาทสำคัญต่อทางพุทธศาสนานั่นเอง
บรรยากาศโดยภาพรวมของประเพณีตักบาตรดอกไม้ ณ วัดบวรนิเวศวิหาร เต็มไปด้วยศาสนิกชนชาวพุทธที่เดินทางมาพร้อมกับดอกไม้หลากหลายชนิด และทยอยเดินทางเข้าไปตักบาตรดอกไม้ ณ อาคารร้อยปี และถึงแม้ว่าฝนจะตกลงมาอย่างหนัก ศาสนิกชนชาวพุทธก็ยังคงตากฝนรอตักบาตรกันอย่างล้นหลามด้วยความศรัทธา ซึ่งดอกไม้ในการตักบาตรจะถูกนำไปใช้พิธีในโบสถ์ต่อไป
อย่างไรก็ดี การจัดประเพณีตักบาตรดอกไม้ถูกจัดขึ้นในวันบวรนิเวศวิหาร ถูกจัดขึ้นต่อเนื่องยาวนานมามากกว่า 60 ปี นอกจากนี้ ในวัดอื่น ๆ ก็ได้มีการจัดประเพณีตักบาตรดอกไม้เช่นเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็น วัดราชประดิษฐสถิตมหาสีมาราม, วัดพระราม ๙ กาญจนาภิเษก เป็นต้น









