“เธอมีงานทำหรือยัง ทำงานที่ไหน”
“ลูกป้าเรียนจบแล้วได้งานทำที่นี่เลย ได้เงินเดือนเท่านี้ แล้วเราล่ะ?”
คำถามเหล่านี้มักเป็นคำถามที่ได้ยินซ้ำ ๆ จากคนในครอบครัวหรือญาติผู้ใหญ่ โดยเฉพาะเวลากลับไปเจอคนที่บ้านแบบพร้อมหน้าพร้อมตาในเทศกาลใดเทศกาลหนึ่ง การเริ่มหางานหลังเรียนจบนั้นสร้างความท้าทายด้านสุขภาพจิตให้เด็กจบใหม่อยู่ไม่น้อย โดยหนึ่งในปัญหาที่ First-Josbbers ส่วนใหญ่ต้องเผชิญก็คงหนีไม่พ้นเรื่อง “การหางานให้ได้เร็วที่สุดหลังเรียนจบ” เพราะนี่เป็นสิ่งที่เด็กจบใหม่ถูกคาดหวังจากคนรอบข้าง บวกกับการกดดันตัวเองจนแปรเปลี่ยนเป็นความเครียด และเมื่อเด็กจบใหม่ไม่สามารถหางานได้ สิ่งที่ตามมาก็คืออาการที่เรียกว่า ‘Suffer’ ซึ่งความหมายของคำว่า Suffer ก็คือ ทนทุกข์ทรมาน ทุกข์ใจ, หนักใจ, ประสบความทุกข์
แล้วทำไมงานถึงหายาก ?
ข้อมูลจากบทความเรื่อง “Gen Z Graduates Face In The Job Market” ที่เขียนโดย Bryan Robinson ได้อธิบายเรื่องนี้เอาไว้ว่า การผันแปรทางเศรษฐกิจทำให้ภาวะเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นทุก ๆ ปีทำให้ค่าใช้จ่ายที่บริษัทต้องแบกรับมีราคาแพงขึ้น เมื่อของแพงและต้นทุนสูงแต่ผู้ผลิตไม่สามารถขึ้นราคาได้ก็ทำให้จำเป็นต้องหาวิธีอื่นอย่างการ Layoff พนักงานออกแทน ซึ่งปัญหาเชิงเศรษฐกิจไม่ใช่สิ่งที่เราควบคุมได้ ปัจจุบันหลายประเทศทั่วโลกก็กำลังเผชิญกับปัญหานี้เช่นกัน หลายธุรกิจชะลอการจ้างงาน มีคนตกงานจากการถูกเลิกจ้างเพิ่มมากขึ้น ไม่เว้นแม้แต่กับบริษัทยักษ์ใหญ่ที่มีสเกลธุรกิจระดับโลก ส่งผลให้ตลาดงานมีภาวะตึงตัว เป็นสถานการณ์ที่มีปริมาณเงินหมุนเวียนในท้องตลาดน้อยมาก ในขณะที่มีความต้องการเงินกู้ยืมสูง จนการแข่งขันระหว่างผู้สมัครก็สูงขึ้นตามไปด้วย
“อัตราการแข่งขันสูงทำให้งานหายาก”
เมื่อตลาดแรงงานที่มีคนว่างงานสูงขึ้น ส่งผลให้การสมัครงานแต่ละตำแหน่งก็มีการแข่งขันสูงมากขึ้น โดยข้อมูลจาก JobsDB ชี้ให้เห็นว่า แต่ละตำแหน่งที่เปิดรับจะมีผู้สมัครงานเฉลี่ย 100 คน ต่อ 1 ตำแหน่งงาน ดังนั้นแน่นอนว่าโอกาสที่เราจะได้งานน้อยลงไปแน่ ๆ แบบไม่ต้องสงสัย
นอกจากจะต้องแข่งขันกับผู้สมัครด้วยกันเองแล้ว ศัตรูที่เริ่มเข้ามามีบทบาทกับการทำงานของคนทำงานรุ่นใหม่ก็คือ Generative AI ที่ถูกโฆษณาว่ามีไว้เพื่อ “ช่วยเหลือ” ให้เราสามารถทำงานง่ายและมีประสิทธิภาพมากขึ้น ส่งผลให้บางบริษัทเลือกตัดบางตำแหน่งและใช้ Generative AI เข้ามาทำงานแทนในบางส่วน ถึงแม้ความสามารถอาจยังไม่ครอบคลุมแต่ก็พอช่วยแบ่งเบาภาระงานไปได้บ้าง ปัจจัยเหล่านี้ล้วนสร้างความ Suffer ให้กับ First-Josbbers ที่กำลังมองหางานอยู่ทั้งสิ้น
อย่างไรก็ตามความรู้สึก Suffer ของ First-Jobbers มีสาเหตุมาจากหลายปัจจัยจากที่กล่าวไปเบื้องต้น ทั้งเรื่องของการแข่งขันที่สูงขึ้น การพัฒนาของ Generative AI และการผันแปรทางเศรษฐกิจที่ทำให้ภาวะเงินเฟ้อจนทำให้บางบริษัทลดจำนวนพนักงานลง สิ่งเหล่านี้เป็นเพียงสภาวะภายนอก แต่ในบางครั้งสิ่งที่ทำให้เรา Suffer มากที่สุดกลับกลายเป็นตัวเราเองที่กำลังเอามาตรฐานของคนอื่นมาตัดสินชีวิตของเรา จนทำให้เกิดเป็นความกดดันในตัวเองมากเกินไป หรือเรากำลังตีกรอบให้ตัวเองว่าต้องประสบความสำเร็จตามบรรทัดฐานทางสังคม ทั้งที่จริงเราก็เป็นเพียงมนุษย์ตัวเล็ก ๆ ที่เพิ่งเริ่มใช้ชีวิต ยังไม่ต้องรีบ ค่อย ๆ ตั้งเป้าหมาย เรียนรู้ และอย่าปิดกั้นโอกาสตัวเอง เพราะไม่ใช่ทุกคนที่จะโชคดีกับการทำงานที่เริ่มต้นจากศูนย์ ขอเพียงแค่เรามีความพยายาม ไม่ยอมแพ้ต่ออนาคตที่จะเกิดขึ้น ให้อภัยตัวเองเสมอ ใจดีกับตัวเองเหมือนที่ใจดีกับคนอื่น ไม่กดดันตัวเองจนทำให้เกิดความเครียดและลุกลามจนกลายเป็นโรคที่จะมาหยุดความสำเร็จของเราได้
อ้างอิง
- https://www.forbes.com/sites/bryanrobinson/2024/06/06/6-obstacles-2024-gen-z-graduates-face-in-the-job-market/
- https://th.jobsdb.com/th/career-advice/article/jobsdbฉายภาพทิศทางไทย
- https://techsauce.co/tech-and-biz/layoff-trends-in-early-2024
CREATED BY
Graphic Designer