ณ วันที่ 30 เมษายน 2518 คือวันแรกที่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเปิดทำการซื้อขาย จากจำนวนบริษัทในตลาดหลักทรัพย์เพียง 8 บริษัทซึ่งในวันนี้เราจะมาเล่าถึง 3 ใน 8 บริษัทกลุ่มแรก ที่ยังคงอยู่ในตลาดหลักทรัพย์ได้อย่างมั่นคง และยั่งยืน

แท้จริงแล้วถึงแม้ว่าบริษัทในกลุ่มแรกที่ถูกซื้อขายในวันเปิดทำการวันแรกของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยจะมีถึง 8 บริษัท ในจำนวนนี้มีถึง 5 บริษัทที่ยังมีการซื้อขายและยังคงอยู่ในตลาดหลักทรัพย์มาจนถึงปัจจุบัน แต่มีเพียง 3 บริษัทที่เริ่มจดทะเบียนก่อนเป็นกลุ่มแรกในวันที่ 25 เมษายน 2518 ซึ่ง 3 บริษัทนั้นคือ บมจ. ปูนซีเมนต์ไทย (SCC), บมจ. เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ (BJC) และ ธนาคารกรุงเทพ (BBL)

บริษัทปูนร้อยปี ที่พร้อมเติบโตในศตวรรษต่อไป

SCC (หรือที่หลายคนมักจะเรียกว่า SCG ตามชื่อเรียกกลุ่มบริษัทในปัจจุบัน) จากจุดเริ่มต้นในปี 2456 ในธุรกิจปูนซีเมนต์ จนถึงปัจจุบัน ที่อยู่ในช่วงเติบโตขั้นสุดอีกครั้งหนึ่ง โดยการ Spin-Off 3 ธุรกิจที่เป็นหัวใจสำคัญอย่างธุรกิจตกแต่งพื้นผิวและสุขภัณฑ์ (SCGD), ธุรกิจเคมิคอลส์ (SCGC) และธุรกิจแพคเกจจิ้ง (SCGP) แปรสภาพเป็นบริษัทมหาชนจำกัดเพื่อนำเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์ และพร้อมที่จะเติบโตยิ่งขึ้นอีกก้าวต่อไป

หากรวมเพียงแค่รายได้จากการขาย ณ ปี 2565 แล้ว SCG นั้นมีรายได้จากการขายถึง 5.69 แสนล้านบาท! และมีกำไรสำหรับปีรวม 2.1 หมื่นล้านบาท และจากราคาซื้อขายวันแรกที่ 1.13 บาท จนมาถึงปัจจุบัน (ข้อมูลวันที่ 26 เมษายน 2567) SCC มีราคาซื้อขายที่ 249 บาท

สบู่นกแก้วที่โบยบินจนเป็นที่หนึ่งในตลาด

BJC บริษัทต่างชาติที่เก่าแก่ที่สุดในบรรดาบริษัทผู้ผลิตและจัดจำหน่ายสินค้าในไทย (นับตั้งแต่ปี 2425) โดยในปัจจุบันมีเจ้าของเป็นคนไทย สิ่งที่หลายคนคุ้นชิน และรู้จักกับ BJC คือการที่หลาย ๆ คนรู้จักในฐานะบริษัทเจ้าของแบรนด์ “สบู่นกแก้ว” ซึ่งในปีที่แล้ว ในแบบแสดงรายการข้อมูลประจำปี 2566 ของ BJC ได้ระบุว่าสบู่นกแก้วยังคงเป็นสบู่ที่มียอดขายอันดับ 1 ในประเทศไทย และมีส่วนแบ่งรายได้สูงสุดเป็นประวัติการณ์ในปีที่แล้วเช่นกัน แต่หากนับในด้านของรายได้รวมทั้งบริษัท ณ ปี 2566 BJC นั้นมีรายได้รวมถึง 1.68 แสนล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 4.7 พันล้านบาท

สำหรับ BJC จากข้อมูลในพิพิธภัณฑ์ออนไลน์ การที่ BJC เป็น 1 ใน 8 บริษัทแรก นั่นถือเป็นการสร้างปรากฏการณ์ให้กับวงการบริษัทจัดจำหน่ายสินค้าในไทย จากราคาซื้อขายวันแรกที่ 0.17 บาท จนมาถึงปัจจุบัน (ข้อมูลวันที่ 26 เมษายน 2567) BJC มีราคาซื้อขายที่ 24.80 บาท

.

เพื่อนคู่คิด ที่มั่นคงเพื่อเป็น “มิตรคู่บ้าน”

BBL ธนาคารไทยที่ก่อตั้งในปี 2487 ที่ยึดหลักตามสโลแกน “เพื่อนคู่คิด มิตรคู่บ้าน” ซึ่งเป็นธนาคารที่หลายคนคุ้นเคยกันไม่มากก็น้อย ในปัจจุบัน BBL เป็นธนาคารที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 6 ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และใหญ่ที่สุดในประเทศไทย โดย ณ ไตรมาส 1 ปี 2567 BBL มีสินทรัพย์รวมกว่า 4.55 ล้านล้านบาท และมีกำไรเบ็ดเสร็จรวม 2.6 หมื่นล้านบาท และมีส่วนแบ่งการตลาด ณ ครึ่งปีแรกของปี 2565 ถึงร้อยละ 17.2 มากกว่าธนาคารกสิกรไทย (KBANK) เพียงร้อยละ 0.1 จากราคาซื้อขายวันแรกที่ 15.75 บาท จนมาถึงปัจจุบัน (ข้อมูลวันที่ 26 เมษายน 2567) BBL มีราคาซื้อขายที่ 136 บาท

อ้างอิง

AUTHOR

นักเขียนเล่นผู้สนใจเรื่องของการตลาด การกิน คอสเพลย์ เกมโชว์ และสื่อ ชื่นชอบการออกไปทำงานนอกบ้าน และรักคุณนักเก็ตเป็นที่สุด