เชื่อว่าแม่บ้านหลายคนอาจจะประสบกับปัญหาในการทำความสะอาด ‘โถปัสสาวะชาย’ ที่ความไม่รอบคอบและความไม่แม่นยำมักจะทำให้ปัสสาวะกระเซ็นและเปรอะเปื้อนบริเวณโดยรอบ โดยเฉพาะหากเป็นห้องน้ำสาธารณะ ความไม่แม่นยำและความไม่รอบคอบนั้น ๆ ก็จะยิ่งเพิ่มขึ้นไป ปัญหาที่ว่านี้ทำให้นักออกแบบโถปัสสาวะและนักวิจัยได้พยายามสรรหาสารพัดวิธีมาเพื่อแก้ไขปัญหา และหนึ่งในวิธีที่ดูเหมือนจะเรียบง่ายและใช้ได้ผลมากที่สุดก็คือ ‘การใช้แมลงวันเป็นตัวช่วย’
การใช้แมลงวันเป็นตัวช่วยที่ว่านี้ คือ การใช้ภาพแมลงวันติดลงไปในโถปัสสาวะชาย ซึ่งเป็นการใช้จิตวิทยาเล็ก ๆ ในการทำให้ผู้ชายเล็งปัสสาวะไปในตำแหน่งที่ถูกที่ควร โดย Klaus Reichardt ผู้คิดค้นโถปัสสาวะไร้น้ำ ได้กล่าวว่า “ผู้ชายเป็นเพศที่เรียบง่ายและชอบเล่นกับปัสสาวะของตัวเอง คุณจะใส่รูปอะไรก็ได้ลงไปในโถปัสสาวะจะ เป็นรูปธงกอล์ฟ ผึ้ง ต้นไม้เล็ก ๆ แต่ที่สนามบิน Schiphol มันคือรูปแมลงวัน”
‘Aad Kieboom’ เป็นผู้ที่ได้รับเครดิตในการที่เสนอแนวคิดติดภาพแมลงวันในโถปัสสาวะในสนามบิน Schiphol ที่เนเธอร์แลนด์ ซึ่งเกิดขึ้นในช่วงทศวรรษที่ 1990 แต่ตัวเขาเองเล่าว่า นี่ไม่ใช่ความคิดของเขาเลย แต่เขาได้มาจากเพื่อนร่วมงานอีกคนหนึ่งที่ชื่อ Jos van Bedaf และเป็นผู้จัดการแผนกทำความสะอาด ซึ่งตอนนั้น Kieboom รับหน้าที่ในการขยายและปรับปรุงอาคารผู้โดยสาร ด้วยความที่แนวคิดดีมาก ๆ ฝ่ายบริหารก็เลยเห็นด้วย
“แมลงวัน คือ ภาพจำของสิ่งสกปรก และยิ่งช่วยกระตุ้นให้ปัสสาวะใส่มัน” ‘Mike Friedberger’ ผู้อำนวยการฝ่ายผลิตภัณฑ์เครื่องเคลือบของบริษัท American Standard และจัดหาโถปัสสาวะที่มีรูปแมลงวันให้กับสนามบิน JFK ซึ่งมีเจ้าของคือ Schiphol Group กล่าวว่า ถ้าคุณไม่ชอบอะไรโดยที่ไม่ได้ตั้งใจ คุณก็จะปัสสาวะใส่มัน ถ้าเอารูปผีเสื้อหรือแมลงเต่าทองสวย ๆ ไปวาง เขาก็อาจจะไม่ปัสสาวะใส่มัน แต่ถ้าจะให้ใช้รูปแมงมุมหรือแมลงสาปมันก็จะดูน่าเกลียดน่ากลัวไปอีก จนเขาอาจจะไม่ใช้งานโถปัสสาวะนั้น ดังนั้นรูปแมลงวันดูเหมือนจะเป็นทางสายกลางมากที่สุด เพราะมันทำให้เกิดความรู้สึกไม่ชอบได้แต่ก็ไม่ได้ถึงขั้นกลัวไปเลยเสียทีเดียว
การนำรูปแมลงวันมากระตุ้นในทางจิตวิทยาเพื่อปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเล็ก ๆ ของพฤติกรรมการปัสสาวะเป็นหนึ่งในเศรษฐศาสตร์พฤติกรรมที่เรียกว่า Nudge หรือ การสะกิด เพื่อลดต้นทุนอะไรบางอย่าง ในกรณีของสนามบิน Schiphol การมีอยู่ของรูปแมลงวันเพราะต้องการช่วยลดต้นทุนในการทำความสะอาด
โดยตัว Kieboom ได้ประเมินว่า การประหยัดต้นทุนในการทำความสะอาดน่าจะอยู่ราว ๆ 8% หากสามารถลดการกระเซ็นของปัสสาวะได้ 80% ดังที่คาดไว้ เพราะพื้นที่ทั้งหมดในห้องน้ำที่ต้องทำความสะอาดแบ่งออกเป็น 20% สำหรับพื้นที่ทั่วไป 40% สำหรับห้องน้ำชาย และอีก 40% ของพื้นที่ห้องน้ำหญิง โดยมีพื้นที่ประมาณ 25% ที่ถูกจัดไว้สำหรับโถปัสสาวะ เท่ากับว่าโถปัสสาวะจะเหลือพื้นที่ราว ๆ 10% ของพื้นที่ทั้งหมดในห้องน้ำสาธารณะ หากลดการกระเซ็นลง 80% ก็จะช่วยประหยัดงบได้ถึง 8% ของงบประมาณทั้งหมดในการทำความสะอาดห้องน้ำสาธารณะ
อย่างไรก็ดี จะเห็นได้ว่าเศรษฐศาสตร์พฤติกรรมที่เรียกว่า Nudge มีประโยชน์มาก ๆ ในการสะกิดให้ผู้คนปรับเปลี่ยนพฤติกรรมไปโดยที่ไม่รู้ตัว ซึ่งข้อดีของมันก็คือสามารถเข้ามาช่วยลดต้นทุนต่าง ๆ ได้ด้วยวิธีที่ไม่ยุ่งยากเท่าไหร่นัก
อ้างอิง
- https://schlaff.com/wp/how-a-small-fly-became-a-big-deal-in-bathroom-hygiene/
- https://worksthatwork.com/1/urinal-fly