บอร์กโดซ์, Bordeaux, สโมสรบอร์กโดซ์

ในช่วงที่ผ่านมาวงการกีฬาฝรั่งเศส 🇫🇷 นอกจากมหกรรมกีฬาแห่งชาติอย่าง “โอลิมปิก ปารีส 2024” ที่กำลังดำเนินการแข่งขันกันอย่างเข้มข้นแล้ว อีกหนึ่งในข่าวสุดแสนจะช็อกในกีฬายอดนิยมของทางยุโรป อย่าง “ฟุตบอล ⚽” ที่ล่าสุดอดีตสโมสรดังของพวกเขา “บอร์กโดซ์” ประกาศยุบทีมลงอย่างเป็นทางการ

“ชิรงแดงส์ เดอ บอร์กโดซ์ ⚽” อดีตแชมป์ลีกสูงสุดฝรั่งเศส 6 สมัย สโมสรที่เคยประสบความสำเร็จในช่วงยุค 80’s – 90’s และยังเป็นสโมสรที่ปลุกปั้นตำนานทีมชาติฝรั่งเศสตลอดกาล อย่าง “ซิซู” ซีเนดีน ซีดาน จากอดีตยอดทีมของลีกเอิงฝรั่งเศส มาถึงช่วงตกต่ำที่นำมาสู่การยุบทีมของพวกเขา

มันอาจเป็นบทเรียนแบบอย่างสำคัญของสโมสรฟุตบอลในปัจจุบัน ที่นอกจากความเป็นสโมสรทางด้านฟุตบอลแล้ว มันยังเป็นหนึ่งในธุรกิจทางกีฬาที่ส่งผลกระทบควบคู่กันกับอนาคตของสโมสร ปัญหาการเงินที่พวกเขาต้องเผชิญนำไปสู่บทเรียนของทีมกีฬาชั้นนำที่น่าเรียนรู้ พวกเขาตกต่ำได้อย่างไร วันนี้เราไปรู้จักบอร์กโดซ์ และคลี่คลายความผิดพลาดที่เกิดขึ้นครั้งนี้กัน

ความรุ่งเรืองของ “บอร์กโดซ์”

ในลีกฟุตบอลสูงสุดของฝรั่งเศส “ลีกเอิง” ที่ปัจจุบันเรามักนึกถึงเจ้าบุญทุ่ม “PSG” ปารีส แซงต์ แชร์กแม็ง หรือแม้แต่ทีมระดับตำนานของลีก อย่าง โอลิมปิก มาร์กเซย ก็ยังไม่เทียบเคียงร้อนแรงได้เท่ากับบอร์กโดซ์ในช่วงต้น 80’s

“ชิรงแดงส์ เดอ บอร์กโดซ์ ” คือชื่อเต็มของทีมนี้ที่ก่อตั้งขึ้นในปี 1881 และได้สถานะเป็นสโมสรฟุตบอลอาชีพในปี 1937 เป็นหนึ่งในทีมสูงสุดของประเทศที่อยู่มาอย่างยาวนาน และเริ่มเข้าสู่ยุคทองของพวกเขาในช่วง 1980 

ในปีนั้นความยอดเยี่ยมของบอร์กโดซ์คือการสามารถคว้าแชมป์ 2 ปีติดในฤดูกาล 1983/84 และ 1984/85 แม้จะพลาดแชมป์ฤดูกาลถัดไป แต่ความยอดเยี่ยมของพวกเขาสามารถกลับมาได้อีกครั้งโดยการเป็นดับเบิ้ลแชมป์ของประเทศด้วยการคว้าแชมป์ลีกเอิงและแชมป์ถ้วยคุป ชาร์ล ซิมง หรือที่เรียกว่า “เฟรนช์คัพ” 

นอกจากความสำเร็จของทีมแล้ว พวกเขายังสร้างบุคลากรทางฟุตบอลชื่อดังอีกมากมาย อาทิ กุนซือในช่วง 3 แชมป์ยุค 80’s อย่าง “เอเม ฌักเกต์” หลังจากสร้างชื่อเสียงในการพาบอร์กโดซ์เป็นแชมป์แล้ว เขายังเป็นผู้ที่พาทีมชาติฝรั่งเศสเป็นแชมป์โลกปี 1998 ที่ฝรั่งเศสเป็นเจ้าภาพ

และยังมีสุดยอดตำนานนักฟุตบอลฝรั่งเศส อย่าง ซีดาน ที่เติบโตจากการถูกโม่แข้งที่ยอดทีมอย่างบอร์กโดซ์ ก่อนจะเริ่มไปเจิดจรัสกับ “ม้าลาย” ยูเวนตุส และเป็นตำนาน “กาลาติกอส” ของราชันชุดขาว เรอัล มาดริด อย่างที่แฟนบอลทุกคนรู้จักกัน

ต้นตอปัญหาที่เกิดขึ้นของ “บอร์กโดซ์”

ในช่วงวิกฤตการณ์ที่ใหญ่ระดับโลกอย่าง “โควิด-19” ส่งผลกระทบต่อปัญหาต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะปัญหาทางเศรษฐกิจที่ลามมาถึงปัจจุบัน อย่าง ปัญหาทางการเงิน และในวงการกีฬาเองก็โดนผลกระทบอย่างหนักจากสิ่งที่เกิดขึ้น

ปัญหาลากยาวจนมาถึงปี 2021 หลายสโมสรเริ่มพบเจอที่มาจากการสูญเสียรายได้ผ่านการถ่ายทอดสด และโครงสร้างทางการเงินจากส่วนนี้เริ่มก่อเป็นภัยร้ายให้กับหลายสโมสรที่ต้องรักษาสภาพให้อยู่รอด ด้วยเหตุนี้ทางเจ้าทีมชาวอเมริกัน “คิงสตรีท” หยุดให้การสนับสนุนทางการเงินกับสโมสร ยิ่งทำให้การบริหารของบอร์กโดซ์เริ่มต้นสู่วิกฤติที่กำลังจะขยายตามมา

แม้จะเป็นวิกฤติที่อาจพลิกเป็นโอกาส เมื่อ “เคราร์ด โลเปซ” นักธุรกิจลูกครึ่งลักเซมเบิร์ก 🇱🇺 -สเปน 🇪🇸 เข้ามาเพื่อกอบกู้สถานการณ์ แต่ทว่า! มันกลับไม่เป็นเช่นนั้น จากผลงานของโลเปซสเถียรภาพทางการเงินของสโมสรแห่งนี้ไม่ได้เป็นไปตามที่ผู้สังเกตการณ์ด้านการเงินของประเทศคาดเอาไว้ มิหนำซ้ำในฤดูกาล 2021/22 ผลพวงจากวิกฤติลามมาถึงผลงานของทีม ทำให้พวกเขาต้องตกชั้น และสูญเสียรายได้จากสถานะในลีกสูงสุดจากรายได้ต่าง ๆ ยิ่งทำให้สถานการณ์ของบอร์กโดซ์มันเลวร้ายมากขึ้นกว่าเดิม

เกือบเป็นส่วนหนึ่งกับ “หงส์แดง 🔴” แต่ไม่สำเร็จด้วยตนเอง

แม้บอร์กโดซ์จะพบกับช่วงยากลำบากที่เกิดขึ้น แต่ฟ้าก็มอบโอกาสอีกครั้งให้กับพวกเขา เมื่อ เฟนเวย์ สปอร์ต กรุ๊ป หรือ “FSG” ที่แฟนบอลรู้จักกันดีว่านี่คือเจ้าของสโมสรดังอย่าง “ลิเวอร์พูล” สนใจที่จะลงทุนกับสโมสรแห่งนี้ ด้วยโครงการของพวกเขาที่อยากสร้างอาณาจักรทางฟุตบอลแบบที่ ซิตี้ ฟุตบอล กรุ๊ป และ เรด บลู ได้ทำขึ้นมาในยุคนี้

ด้วยชื่อเสียงและความสำเร็จที่บอร์กโดซ์เคยมี ทำให้ความสนใจจากเฟนเวย์จึงมีความจริงจังในเรื่องนี้ โดยพวกเขาเดินทางเพื่อเจรจาต่อรองกับทางโลเปซด้วยข้อตกลงเสนอเงิน 45 ล้านเหรียญสหรัฐ เพื่อครอบคลุมงบการดำเนินงานในฤดูกาลถัดไปหากพวกเขาดีลมันได้สำเร็จ 

เม็ดเงินก้อนใหญ่นี้อาจช่วยให้สโมสรสามารถบรรลุเกณฑ์ทางการเงินของหน่วยงานกำกับดูแลทางการเงินของวงการฟุตบอลฝรั่งเศส “DNCG” และอาจรอดพ้นปัญหาที่ฉุดรั้งพวกเขาจากลีกสูงสุดไปได้

แต่แล้วทุกอย่างก็ไม่เป็นดั่งหวัง เพราะการเข้ามานี้เคยเกิดขึ้นมาแล้วเมื่อ “บลูโค” ของ ท็อดด์ โบห์ลี ที่ปัจจุบันเป็นเจ้าของทีมดัง “เชลซี” เคยเสนอข้อตกลงแนวนี้มาแล้ว แต่พวกเขากังวลว่าบอร์กโดซ์จะกลายเป็นสโมสรลูกให้ทีมหงส์แดงได้ กลายเป็นความลังเลระหว่างเงินลงทุนที่กู้วิกฤติหรือจะรักษาภาพลักษณ์ของสโมสรให้ยังคงไว้

เมื่อทุกสิ่งต่างมีระยะเวลาของมัน จากการเจรจาเพื่อเข้ามากอบกู้กลับกลายเป็น FSG ตัดสินใจถอนตัวจากการเจรจาอย่างไม่ทันคาดคิด และผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นส่งผลให้สโมสรจำใจต้องตกชั้นไปสู่ลีก “แชมเปี้ยนนาต นาซิอองนาล” ซึ่งเป็นลีกดิวิชัน 3 ของฝรั่งเศส ยิ่งตกต่ำลงกว่าเดิม

ปัญหาระดับลีก แผ่ขยายเป็นวิกฤตการณ์ในวงกว้าง

หลายคนอาจสงสัยว่า FSG ถอนตัวเพราะความลังเลของโลเปซที่เกิดขึ้นหรือไม่ ส่วนหนึ่งอาจจะเกี่ยวข้องเพียงเล็กน้อย แต่ปัญหาที่ใหญ่กว้างแท้จริงแล้วคือความไม่แน่นอนทางการเงินของวงการฟุตบอลฝรั่งเศสที่ทำให้พวกเขาตัดสินใจที่จะถอนตัวอย่างชัดเจน

ปัญหาหลักอันใหญ่โตนี้มาจากข้อตกลงถ่ายทอดสดกับทางสื่อดังอย่าง “มีเดียโปร” ในปี 2020 ในมูลค่าเริ่มต้นที่ 780 ล้านยูโรต่อปี ส่งผลกับหลายสโมสรในฝรั่งเศสที่ต้องเผชิญกับการขาดดุลงบประมาณอย่างรุนแรง เป็นการแสดงให้เห็นถึงการพึ่งพารายได้จากการออกอากาศที่มากเกินไปของทุกทีมในลีกเอิง และหนึ่งในนั้นคือบอร์กโดซ์ที่เป็นเหยื่อในกรณีนี้ด้วย

แม้ว่าการพยายามสุดความสามารถในการได้สัญญาถ่ายทอดสดที่มีกำไรสูงส่งผลให้เห็นถึงความไม่แน่นอนของกระแสรายได้ในลีกเอง ต่อให้จะได้ข้อตกลงใหม่กับทาง “อเมซอน” ที่ได้ความมั่นคงระดับหนึ่ง แต่ยังต่ำกว่าตัวเลขของมีเดียโปรเป็นเท่าตัว ทำให้ทุกสโมสรถูกบังคับให้ปรับความคาดหวังทางการเงิน และต้องทำการดำเนินงานใหม่จากผลกระทบนี้

นี่เลยเป็นเหตุผลในการติดตามของ FSG ที่นอกจากปัญหาดังกล่าวยังมีต้นทุนในการบำรุงรักษาสนาม “แมทมุท แอตแลนติก” หรือ “นูโว สตาด เดอ บอร์กโดซ์” ของบอร์กโดซ์ เป็นความเสี่ยงสูงต่อนักลงทุนอเมริกันที่มองว่าต้องปรับปรุงสนามที่บรรจุได้ 42,000 คน ยังมียอดคนดูลดน้อยลงจากการตกชั้น ทำให้มันเป็นปัญหาที่แสดงถึงความเสี่ยงมากจากหลายปัจจัยที่เกิดขึ้น

ผลกระทบที่เกิดขึ้นจาก “บอร์กโดซ์”

จากสภาวะที่เกิดขึ้นเกินเยียวยาต่อสโมสรแห่งนี้จะแบกรับไว้ไหว เมื่อไม่สามารถเคลียร์ปัญหาทางการเงินที่เกิดขึ้นได้ พวกเขาแจ้งกับทางสหพันธ์ฟุตบอลฝรั่งเศส (FFF) ขอคืนสถานะการเป็นสโมสรฟุตบอลระดับอาชีพ และกลายเป็นสโมสรสมัครเล่น

นักเตะทั้งหมดของทีมชุดใหญ่จะถูกยกเลิกสัญญา สนามทั้งหมดของพวกเขาจะถูกปิดการใช้งานลง เพื่อลดส่วนจ่ายของสโมสร เป็นการยุติตัวของสโมสรนับตั้งแต่ได้รับมาในปี 1937 

หนึ่งในความกังวลของวงการฟุตบอลฝรั่งเศสคือการที่สโมสรแห่งนี้เปรียบดังศูนย์พัฒนานักฟุตบอลระดับเยาวชน อย่างเช่น ซีดาน รวมไปถึงนักเตะดังในปัจจุบัน อย่าง โอเลเรียง ชูอาเมนี ผู้เล่นกลางตัวรับของทีมชาติก็เคยเป็นส่วนหนึ่งของที่แห่งนี้ แต่มันต้องปิดลงอย่างที่ไม่สามารถรับรู้ได้ว่าพวกเขาจะกลับมาได้อีกหรือไม่

เพราะการมีสถานที่สร้างนักเตะฝีเท้าระดับโลกมันนำไปสู่ความสำเร็จที่ตามมา อย่างในประเทศสเปน 🇪🇸 หรือประเทศเยอรมนี 🇩🇪 ที่มีสโมสรชั้นนำของพวกเขามีศูนย์ฝึกเพื่ออนาคตของชาติ แม้ว่าในฝรั่งเศสจะมีอีกหลายทีมที่โดนไม่หนักหนาเท่ากับบอร์กโดซ์ แต่หนึ่งในอดีตสถานเพาะเลี้ยงอันมีชื่อเสียงบัดนี้มันจบลง

และมันยังเป็นอีกหนึ่งสัญญานเตือนให้กับหลายสโมสรของลีกเอิงฝรั่งเศส ที่ผลกระทบอาจจะยังไม่เกิดเท่ากับที่บอร์กโดซ์ได้รับ แต่เมื่อใดที่การบริหารต่าง ๆ ของทีมเกิดปัญหาระดับใหญ่ที่ตามมา มันพร้อมนำไปสู่การล้มสลายที่เกิดขึ้นได้อย่างที่ “ชิรงแดงส์ เดอ บอร์กโดซ์” ได้ปิดตัวลงในเวลานี้

อ้างอิง