เวลาอกหักคุณอาจรู้สึกเหมือนโลกกำลังพังทลายลงมาทับถมหัวใจของคุณ ค่อย ๆ บาดลึกลงไปที่เนื้อเยื้อ ทิ่มแทงทีละเล็กละน้อยลงไปในแต่ละเซลล์ โศกเศร้า ทุกข์ทรมาน ไม่ต่างจากการประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ แต่ทำไมล่ะ ความรักเป็นเรื่องของความรู้สึกไม่ใช่หรือ เหตุใดผลกระทบทางใจถึงส่งผลต่อร่างกายจนสร้างความเจ็บปวดได้ขนาดนี้

ทำความเข้าใจกันก่อนว่า ความรักไม่ใช่แค่เรื่องของความรู้สึก แต่รวมไปถึงเรื่องของระบบประสาทและฮอร์โมน ซึ่งเชื่อมโยงกับระบบต่อมไร้ท่อในร่างกาย จึงไม่น่าแปลกที่เวลาเราได้รับผลกระทบทางจิตใจแล้วจะส่งผลต่อร่างกายด้วย เมื่อเราถูกบอกเลิก ฮอร์โมนคอร์ติซอลหรือความเครียดจะเพิ่มสูงขึ้น ขณะที่ฮอร์โมนแห่งความสุขอย่างอะดรีนาลีนจะลดลงอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้ความดันโลหิตสูง น้ำหนักเพิ่ม และเกิดภาวะวิตกกังวล

เมื่อสแกนสมองด้วยคลื่นสนามแม่เหล็ก (MRI) พบว่า จะเกิดปฏิกิริยากระตุ้นสมองบริเวณที่เกี่ยวข้องกับต่อมรับรู้ความเจ็บปวด ซึ่งสูงเทียบเท่าการบาดเจ็บทางร่างกายโดยทั่วไป ประกอบกับระบบประสาทในส่วนซิมพาเทติกและพาราซิมพาเทติกจะทำงานไปพร้อม ๆ กัน โดยปกติระบบประสาททั้งสองจะทำงานสลับกัน แต่เมื่อมันทำงานไปพร้อม ๆ กันอาจทำให้ร่างกายรู้สึกสับสน และกระแสไฟฟ้าหัวใจถูกรบกวน ส่งผลให้อัตราการเต้นของหัวใจลดลง และมีความเสี่ยงต่อการเสียชีวิตถึง 41% ในระยะเวลา 6 เดือนหลังจากสูญเสียคนรัก

นอกจากนี้ผลพวงจากการที่หัวใจเต้นช้าลงและระดับฮอร์โมนความเครียดเพิ่มสูงขึ้นจะทำให้ร่างกายเหนื่อยล้า วิตกกังวล นอนไม่หลับ และซึมเศร้า ซึ่งเป็นอาการของคนอกหักที่เราพบได้บ่อย แต่ในบางรายอาจรุนแรงถึงขั้นเกี่ยวพันกับโรคหัวใจ และเกิดภาวะ Broken Heart Syndrome หรือภาวะหัวใจสลาย ซึ่งส่งผลอันตรายต่อสุขภาพอย่างรุนแรง

อย่างไรก็ตามไม่ว่าคุณจะโศกเศร้าและทุกข์ทรมานแค่ไหน อย่าลืมรักตัวเอง เพราะไม่มีใครรักและเข้าใจคุณได้มากกว่าตัวของคุณเอง ร่างกายของคุณกำลังเดือดร้อนจากการขาดความรัก ดังนั้นคนเดียวที่รักคุณได้อย่างเต็มที่คือตัวของคุณเอง อย่าปล่อยให้ใครมาทำร้ายคุณ

CREATED BY

ไม่ชอบคนข้างล่าง