“ความหวัง” สิ่งที่แฟนบอล “สิงโตคำราม” ทีมชาติอังกฤษ 🏴 มีเสมอมานับตั้งแต่พวกเขาเคยคว้าความสำเร็จในอดีตเมื่อปี 1966 ที่พวกเขาเคยเป็นเจ้าภาพฟุตบอลโลกในปีนั้น นั่นเป็นความสำเร็จเดียวของทัพสิงโตคำราม ที่จนถึงในตอนนี้พวกเขายังคงตามหาความสำเร็จจากทุกรายการที่ลงทำการแข่งขัน โดยยูโรปีนี้พวกเขาถูกจับตามอง หลังจากที่ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ได้ทำนายไว้ว่าพวกเขาคือ “เต็งหนึ่ง” ของการแข่งขันนี้
แต่ทว่า! อังกฤษมักจะพบเจอกับความผิดหวังจากอดีต แม้จะเป็นประเทศที่มีความนิยมทางฟุตบอลมากสุดของโลก แต่พวกเขาก็ยังไม่สามารถครองเป็นเจ้าของโลกหรือทวีปยุโรปได้ เหมือนกับทีมชาติอื่นๆอย่าง เยอรมัน 🇩🇪, สเปน 🇪🇦, อิตาลี 🇮🇹, และฝรั่งเศส 🇲🇫 ทำให้ความหวังต่อความสำเร็จในระดับชาติคือสิ่งหนึ่งที่พวกเขายังคงใฝ่ฝันถึงมัน
และนับเป็นโอกาสดีที่ทำให้แบรนด์กีฬาดังอย่าง “อดิดาส” ได้ออกภาพยนตร์โฆษณาก่อนฟุตบอลยูโร 2024 จะเริ่มต้น 2 วันในชื่อ “Hey Jude” ที่ได้พรีเซนเตอร์นักบอลหนุ่มชาวอังกฤษอย่าง “จู๊ด เบลลิ่งแฮม” ที่เล่าถึงความผิดหวังที่เกิดขึ้นตลอดมาของทีมชาติ สู่ความหวังอีกครั้งผ่าน “จู๊ด” ที่จะมากอบกู้ความหวังของสิงโตคำรามอีกครั้ง
กลายเป็นหนึ่งในโฆษณาดีๆที่ถูกพูดถึงเป็นอย่างมาก เพราะถ่ายทอดเรื่องราวและมุมมองต่างๆของแฟนบอลอังกฤษที่มีต่อทีมชาติของพวกเขา โดยให้เพลง “Hey Jude” เพลงชื่อดังของสี่เต่าทองในตำนาน “The Beatles” ได้ขับร้องและถ่ายทอดท่วงทำนองของสิ่งที่พวกเขายังคงหวังและอยากให้มันเป็นจริง 🏆
ที่มาเพลง “Hey Jude” : ถึงหลานรัก “จูลส์” มันต้องดีขึ้น ❤️
หนึ่งในเพลงดังของ The Beatles ในปี 1968 คงไม่มีเพลงไหนโดนใจไปมากกว่าเพลง Hey Jude โดยผู้ที่แต่งเพลงนี้ขึ้นคือ “เซอร์ พอล แม็กคาร์ตนีย์” หนึ่งในสมาชิกของวงที่ได้สร้างเพลงที่ขับร้องในเนื้อหาสุดน่ารัก แต่แฝงไปด้วยที่มาอันแสนเศร้า ที่เกี่ยวดองกับคู่ซี้ของเขาอย่าง “จอห์น เลนนอน”
โดยเซอร์ พอลได้เล่าถึงที่มาว่าเขาได้รับรู้เกี่ยวกับการอย่าร้างของจอห์นกับอดีตภรรยาของเขา “ซินเธีย” เพื่อไปคบกับศิลปินชาวญี่ปุ่น “โอโกะ โอโนะ” และยังทิ้งลูกชายไว้คนหนึ่ง “จูลส์ เลนนอน” ซึ่งเป็นหลานรักของลุงพอลในวัย 5 ขวบ และเป็นที่มาของเนื้อหาเพลงดังที่เกิดขึ้น
“ผมเป็นห่วงอนาคตของเด็กที่พ่อแม่แยกทางอยู่เสมอ ทันทีที่รู้ว่าทั้งสอง (จอห์นและซินเธีย) เลิกกัน ผมห่วงจูเลี่ยน (จูลส์) มากกว่าสิ่งใด”
“ระหว่างขับรถไปหาจูลส์ ผมร้องว่า ‘Hey Jules – don’t make it bad, take a sad sond, and make it better…’ มันคือสิ่งที่ผมอยากบอก ‘เอาน่า! ไอ้หนู พ่อแม่แกเลิกกันแล้ว ลุงรู้ว่าแกไม่มีสุข แต่ท้ายสุดแกมันจะดีขึ้นมาเอง'”
นั่นจึงเป็นที่มาของเพลงนี้ ที่พอลอยากปลอบใจหลานรักตัวน้อยให้ผ่านช่วงเวลาที่รู้สึกแย่นี้ไปให้ได้ เพราะลุงพอลเป็นลุงที่แสนดี เมื่อเทียบกับผู้ให้กำเนิดอย่างจอห์นที่แสนทึ่มกับบุตรตนเอง
แต่มันก็กลายมาเป็น “Jude” แทนที่ของ “Jules” โดยพอลให้เหตุผลว่า “เพราะตัวละครในเพลง ‘Oklahoma’ ชื่อ ‘Jud’ และผมชอบชื่อนั้น เลยเปลี่ยนเป็น ‘Jude’ เพราะเข้ากับเพลงมากกว่า”
จึงกลายเป็นเนื้อเพลงหลักสุดคลาสิคของวงดนตรีในตำนานที่ว่า….
“Hey Jude, don’t make it bad
Take a sad song and make it better.
Remember to let her into your heart,
Then you can start to make it better.”
อิทธิพลของเพลง “Hey Jude” : เนื้อเพลงปลอบโยนหัวใจสู่ความนิยมระดับชาติ
หลังจากที่เพลงนี้ถูกปล่อยออกมาสู่แฟนเพลงทั่วทั้งโลก กระแสตอบรับเป็นในทิศทางที่ดีอย่างมาก โดยติดชาร์ตนิยมในอังกฤษยาวนานถึง 9 สัปดาห์ และขึ้นทะยานสู่อันดับหนึ่งเพลงยอดนิยมทั้งในอังกฤษและอเมริกา
ด้วยความนิยมที่ล้นหลามนี้ ส่งผลให้เพลงนี้ถูกนำไปใช้ในวงการต่างๆหนึ่งในนั้นคือวงการกีฬาที่ได้นำเพลงนี้มาใช้ในกิจกรรมต่างๆ โดยกีฬาที่นิยมมากสุดในอังกฤษอย่างฟุตบอลได้นำไปเปิดในสนามของทีม “เบรนท์ฟอร์ด” เพราะถูกใจโฆษกประจำทีมอย่าง “ปีเตอร์ กิลแฮม” ที่ชื่อจู๊ดไปใกล้เคียงชื่อแฟนเก่า และถูกใจแฟนบอลในสนามในเวลานั้นด้วยเช่นกัน
และในเนื้อเพลงของ Hey Jude ยังมีท่อนคอรัสที่สะดุดหูอย่างช่วงกลางถึงท้ายเพลงอย่าง “Nahh, na, na, nahh-na-na, nahhh’ nahh-na-na, nahhh’ Hey Jude…” เป็นท่อนที่ถูกนิยมนำไปใช้ร้องเป็นเพลงเชียร์ในสนามเช่นเดียวกัน
“Hey Jude” : ความหวังใหม่ของสิงโตคำรามที่ชื่อ “จู๊ด เบลลิ่งแฮม”
ในฤดูกาลล่าสุด 2023/24 หนึ่งในนักฟุตบอลที่ถูกน่าจับตามอง และเพิ่งประสบความสำเร็จกับผลงานที่สุดยอดกับยอดทีมมหาอำนาจลูกหนัง “เรอัล มาดริด” อย่าง “จู๊ด เบลลิ่งแฮม” กองกลางนักเตะดาวรุ่งทีมชาติอังกฤษ ที่ฤดูกาลแรกของเจ้าตัวก็พาทีมคว้าแชมป์ลีกของสเปน “ลาลีกา” และถ้วยใหญ่สุดของสโมสรยุโรปอย่าง “ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก” และยังเป็นผู้ที่ยิงประตูสำคัญในศึก “เอล กลาซิโก” ที่เพิ่งลงเล่นครั้งแรกก็สามารถสร้างผลงานที่ยอดเยี่ยมมาครองได้แล้ว
เด็กหนุ่มจากเมืองสเตาร์บริดต์ ผลผลิตที่ถูกปั้นจากสโมสร “เบอร์มิงแฮม ซิตี้” ที่ถูกจำตามองว่าจะเข้ามาเป็นอนาคตของทีมชาติอังกฤษ จนมาถึงตอนนี้ที่เขาเข้ามาเติบโตยิ่งใหญ่กับทัพราชันชุดขาวแห่งสเปน ยิ่งทำให้เขากลายเป็นความหวังใหม่ และอาจเป็นผู้ที่พาอังกฤษเข้าใกล้สู่แชมป์ทั้งระดับทวีปและระดับโลก
“Hey Jude” : แคมเปญสำหรับเต็งหนึ่งจากอดิดาส
ด้วยผลงานและชื่อเสียงของจู๊ดที่กำลังเติบโตอย่างก้าวกระโดด จึงเป็นโอกาสสำคัญของอดิดาสที่เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงที่กำลังจะเกิดขึ้น เมื่อดาวเตะดังของค่ายอย่าง “ลิโอเนล เมสซี่” มีแนวโน้มจะอำลาวงการในช่วงเร็วนี้ได้ จึงตัดสินใจในการคว้าจู๊ดเป็นส่วนหนึ่งของพรีเซนเตอร์ของแบรนด์
เมื่อเข้าสู่ช่วงของฟุตบอลยูโรนี้ หลังจากที่อังกฤษถูกมองจากการทำนายว่าเป็นชุดที่มีโอกาสจะเป็นเต็งหนึ่งของรายการนี้ ส่งผลให้อดิดาสตัดสินใจทำแคมเปญที่มอบความหวังให้กับกองเชียร์สิงโตคำรามอีกครั้ง ภายใต้การเล่าเรื่องผ่านทางพรีเซอร์เตอร์คนล่าสุดอย่างจู๊ด และเรื่องราวต่างๆของทัพสิงโตคำรวมผนวกกับอดีตพรีเซนเตอร์เก่าๆทั้ง แฟรงค์ แลมพาร์ต, เดวิด เบ็คแฮม, และ เอียน ไรซ์ เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของคนที่ส่งต่อเจตนารมทั้งหมดสู่รุ่นน้องอย่างจู๊ดที่เป็นตัวแทนของคนในชาติ
โดยเนื้อหาของโฆษณา ได้ซื้อลิขสิทธิ์เพลงดังอย่าง Hey Jude ที่ประกอบกับตัวละครหลักอย่างจู๊ด ในช่วงฤดูกาลที่ผ่านมาเพลงนี้เองก็ถูกแฟนบอลของจู๊ดนำไปร้องท่อนดังเพื่อเป็นตัวแทนของการส่งแรงเชียร์ให้กับจู๊ด เรียกได้ว่านี่เป็นความลงตัวอย่างถึงที่สุดของหนึ่งในโฆษณาภาพยนตร์กีฬาที่ดีอันดับต้นๆอันนึงของโลกเลยก็ว่าได้
เรื่องราวที่เล่าถึงแฟนบอลสิงโตคำรามที่เฝ้ามองขุมกำลังของชาติกำลังทำผลงานในสนาม แต่ก็พบเจอกับความผิดหวัง ทั้งการตกรอบด้วยเหตุการณ์ต่างๆ หนึ่งในความทรงจำที่ปวดร้าวคือลูกยิงของแลมพาร์ตที่ถูกข้ามเส้นประตูไปแล้ว แต่ไม่ถูกนับเป็นประตูในฟุตบอลโลกปี 2010 ที่เจอกับเยอรมัน ส่งผลให้พวกเขาต้องตกรอบด้วยเหตุการณ์สุดช้ำนี้
หรือการนำเบ็คแฮมมาร่วมที่สื่อถึงเหตุการณ์ที่เขาโดนใบแดงไล่ออกในฟุตบอลโลก 1998 และกลายเป็นแพะรับบาปของคนในชาติ ส่งผลให้เขามีช่วงเวลาที่เลวร้ายในนามทีมชาติ และหนึ่งในความผิดหวังครั้งหนึ่งที่เคยเกิดขึ้นกับทีมชาติอังกฤษ
แต่เรื่องราวที่ถูกดำเนินไปพร้อมกับบทเพลงดังของสี่เต่าทอง ก็เริ่มเปิดตัวเด็กหนุ่มจู๊ดตั้งแต่สมัยที่ยังอยู่เบอร์มิงแฮม จนเติบโตสู่การลงเล่นให้ที่ดีที่สุดในโลกอย่างมาดริด และก้าวขึ้นสู่ความหวังใหม่ของชาติผ่านตัวตนของเขา นั่นเป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นภายใน 2 นาที ที่เล่าเหตุการณ์สุดแสนประทับใจทั้งหมดสู่แฟนบอลที่ยังคงหวังต่อความสำเร็จที่อาจจะเกิดขึ้นได้ในยูโรครั้งนี้
หลังจากจบรอบแบ่งกลุ่มมาแล้ว ทีมชาติอังกฤษอยู่ในกลุ่มซีเป็นแชมป์กลุ่มโดยมีแต้มทั้งหมด 5 คะแนน แม้จะมองว่าเป็นเต็งหนึ่งแต่ผลงานของพวกเขากับเล่นได้อย่างน่าผิดหวัง ถึงไม่ได้แพ้แต่ถึงกับว่าแฟนบอลในสนามสามารถที่จะหลับจากการแข่งขันได้ เรียกว่าทัพสิงโตคำรามมีวิธีการเล่นที่น่าเบื่อ และอาจเสี่ยงต่อการจะเสียประตูได้มากกว่าการจะชนะได้
แต่ในหนึ่งเกมที่พวกเขาชนะได้ในเกมแรก ก็เป็นจู๊ดที่สามารถยิงประตูแรกให้กับพวกเขาได้ ส่วนใน 2 เกมที่เหลือแม้จะจบเสมอ แต่ฟอร์มการเล่นของจู๊ดกลับไปโดดเด่นเมื่อเทียบกับเกมแรกหรือในฤดูกาลที่ผ่านมา เรียกได้ว่าในช่วงการแข่งขันที่เหลือ จู๊ดและอังกฤษหากยังคงหวังถึงความสำเร็จที่ตัวเองตามหามาโดยตลอด บางครั้งแคมเปญนี้อาจเป็นการส่งต่อถึงสิ่งที่พวกเขาควรต้องตระหนักรู้ และมันอาจเป็นการปลอบใจทางอ้อม เหมือนที่เซอร์ พอลได้แต่งเพลงนี้ขึ้นมา เพื่อให้กำลังใจเจ้าจูลส์ตัวน้อย ว่าจงยอมรับและก้าวเดินต่อไปอย่างมีหวังให้ได้ Hey Jude!
ที่มา
- https://youtu.be/ugPrwWqPX8g?si=EZizb-yt4EXX8zj4
- https://mainstand.co.th/th/news/1/article/17965#google_vignette
- https://www.facebook.com/MainStandTH/posts/pfbid02S4xzTkWkzdzQTrKt7ugThGzwMyjNKxcGosUnqft5Hf3ZmWHPcpMxekLK7g5fN8aJl
- https://www.facebook.com/share/p/RGaWXFAuemDyttX5/?mibextid=qi2Omg
- https://thestandard.co/worldcup2022-22112022-5/
- https://en.wikipedia.org/wiki/1966_FIFA_World_Cup
- https://mainstand.co.th/th/news/1/article/17707
- https://www.thepeople.co/read/31691