Medals of Friendship

เพราะทุกการแข่งขันมีรางวัลเป็นเส้นชัย นักกีฬาทุกคนรู้ดีว่าการลงแรงเพื่อสิ่งนี้นั้นสำคัญแค่ไหน ยิ่งการแข่งขันที่มีจำนวนผู้เข้าร่วมชิงชัยเยอะมากเท่าไหร่ ความกดดัน ภาระอันหนักอึ้งยิ่งมากขึ้นเท่านั้น แต่สุดท้ายเมื่อเหลือผู้เข้าแข่งขันเพียง 3 คน ที่ได้ขึ้นแท่นรับเหรียญรางวัล พลังงานแห่งการแข่งขันอันยากลำบากทั้งหมดก็แปรเปลี่ยนเป็นพลังงานความสุขแห่งการเฉลิมฉลองได้แบบปลิดทิ้ง

เว้นเสียก็เรื่องหนึ่งที่เคยเกิดขึ้นในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูร้อนครั้งที่ 11 เมื่อปี ค.ศ.1936 ที่จัดขึ้น ณ กรุงเบอร์ลิน ไรช์เยอรมนี ซึ่งเป็นช่วงที่ประเทศเยอรมนีกำลังอยู่ภายใต้การปกครองของอดอล์ฟ ฮิตเลอร์ บนรายการแข่งขันกีฬากระโดนค้ำถ่อ ประเภทชาย ที่แข่งขันกันเมื่อวันที่ 5 สิงหาคม 1936 และได้ผู้ชนะที่มีคะแนนเท่ากัน 2 ตำแหน่ง จนต้องแบ่งเหรียญรางวัลออกคนละครึ่ง แล้วเชื่อมกับเหรียญของอีกฝ่าย และกลายเป็นหนึ่งในตำนานที่น่าจดจำของกีฬาโอลิมปิกอย่าง ‘Medals of Friendship’

(จากซ้ายไปขวา) ชูเฮอิ นิชิดะ, เอิร์ล เมโดว์ส และซูโอะ โอเอะ – ภาพจาก Olympics

ย้อนกลับไปในวันนั้น รายการแข่งขันกีฬากระโดนค้ำถ่อ ประเภทชายครั้งนั้นมีผู้เข้าร่วมแข่งขันทั้งสิ้น 30 คนจาก 21 ประเทศ โดยมีประเทศที่ส่งผู้เข้าแข่งขันในประเภทกีฬาเดียวกันนี้อย่างสหรัฐอเมริกา ที่ส่งผู้เข้าแข่งขันมา 3 คน, ญี่ปุ่น 3 คน, ฝรั่งเศส 2 คน, เดนมาร์ก 2 คน, ออสเตรีย 2 คน, ฮังการี 2 คน และสาธารณรัฐเช็ก 2 คน ประเทศอื่น ๆ ที่เหลือส่งนักกีฬาเข้าร่วมแข่งขันประเทศละ 1 คน

ภายในการแข่งขันรอบสุดท้ายที่เป็นไปอย่างดุเดือด ผู้คนกว่า 25,000 คนทั่วสนามต่างเฝ้ามองการแข่งขันในช่วงวินาทีสำคัญช่วงท้ายเกม ที่ ‘เอิร์ล เมโดว์ส’ นักกีฬาจากสหรัฐอเมริกาเอาชนะความสูง 4.35 เมตร และคว้าเหรียญทองไปได้ ซึ่งเป็นช่วงเวลาหลังจากที่นักกีฬา 3 คนกำลังชิงชัยในการเป็นอันดับที่ 2 ของกีฬาประเภทนี้ นั่นคือ ‘บิล เซฟตัน’ นักกีฬาหนุ่มจากจากสหรัฐอเมริกา, และ ‘ชูเฮอิ นิชิดะ’ กับ ‘ซูโอะ โอเอะ’ สองนักกีฬาหนุ่มจากประเทศเดียวกันอย่างญี่ปุ่น ผลการชิงชัยปรากฎว่าเซฟตันไม่สามารถเอาชนะความสูง 4.25 เมตรไปได้

จุดสำคัญของนิชิดะและโอเอะในฐานะนักกีฬาที่กำลังแข่งขันกัน คือเขาทำทั้งสถิติสูงสุด และเวลาได้เท่ากันแบบเป๊ะ ๆ แต่ในฐานะนักกีฬาจากประเทศเดียวกัน เขาคือเพื่อนกัน และทางออกที่น่าจะเป็นเรื่องที่ดีคือการที่พวกเขาน่าจะได้รางวัลที่ 2 ร่วมกัน แต่กรรมการไม่คิดแบบนั้น เพราะพวกเขาต้องการให้นิชิดะและโอเอะแข่งขันกันเองอีกครั้งเพื่อหาผู้ชนะอันดับ 2 อย่างแท้จริง ส่วนผู้แพ้จะกลายเป็นอันดับ 3 ผลการแข่งขันจะได้รู้แพ้รู้ชนะไปเลย สุดท้ายพวกเขาไม่ยอมรับข้อเสนอนี้

ทำให้คณะกรรมการของการแข่งขันในครั้งนั้นหาเหตุผลรองรับในการที่ไม่ใครก็ใครจะได้เหรียญเงิน และเหรียญทองแดงไป บางข้อมูลก็ระบุว่านิชิดะจะเป็นผู้ได้รางวัลชนะเลิศอันดับ 2 นี้ไป จากการที่โอเอะกระโดดค้ำถ่อข้ามสิ่งกีดขวางที่ความสูงเดียวกันสำเร็จในครั้งที่ 2 ในขณะที่นิชิดะทำได้ตั้งแต่ครั้งแรก ซึ่งหากค้นข้อมูลรายงานผลการแข่งขันอย่างเป็นทางการในปีนั้นก็จะพบว่า ผู้รับรางวัลเหรียญเงินก็คือนิชิดะ และผู้ได้รับรางวัลเหรียญทองแดงคือโอเอะจริง ๆ

แต่มากกว่าการจะบอกว่าใครชนะ ใครแพ้ และใครเหนือกว่าใครกันแน่ สิ่งที่นิชิดะและโอเอะทำกับเหตุการณ์นี้ในฐานะนักกีฬาที่เป็นเพื่อนกัน ลงแข่งกีฬาเดียวกัน ทำสถิติทั้งเวลาและความสูงเท่ากัน แต่ได้รางวัลต่างกันแบบนี้นั้นไม่แฟร์สำหรับพวกเขา

หลังจากรับเหรียญกลับมายังบ้านเกิดที่ประเทศญี่ปุ่น เขาทั้งสองคนจึงเดินทางไปยังร้านขายเพชรพลอย เพื่อวานให้เขา ‘ตัด’ เหรียญเงินและเหรียญทองแดงของพวกเขาออกเป็นอย่างละครึ่ง และนำครึ่งเหรียญของทั้งสองคนสองฝั่งมาเชื่อมกันเพื่อให้กลายเป็นเหรียญใหม่ที่เหมือนกันทุกประการ จะต่างก็เพียงแค่สลับวัสดุฝั่งซ้ายและขวาของเหรียญก็เท่านั้น

เหรียญทั้งสองถูกเรียกขานในชื่อ ‘Medals of Friendship’ หรือ ‘เหรียญรางวัลแห่งมิตรภาพ’ ซึ่งสะท้อนมุมมองและวิธีคิดของพวกเขาทั้งสองคนได้เป็นอย่างดี และน่าจะทำให้เห็นว่าสุดท้ายแล้วปลายทางการแข่งขันของพวกเขาอาจไม่ใช่เหรียญรางวัล แต่เป็นมิตรภาพที่แข็งแรงขึ้นกว่าเดิม จากการเจอเหตุการณ์อันน่าลำบากใจในฐานะเพื่อนกัน และพวกเขาก็ดูจะแก้ปัญหานี้ในฐานะเพื่อนได้อย่างบ้าบอดีเหมือนกัน

ที่มา

CREATED BY

Content Creator

พนักงานมือใหม่ที่สนุกกับการหาเรื่องมาเล่า ไม่มีสิ่งที่ชอบตายตัว มีแต่สิ่งที่ชอบแล้ว และกำลังหาสิ่งใหม่ที่ชอบต่อไป