หลังจากจบ Wrestlemania ครั้งที่ 40 ที่มีโมเมนต์มากมาย แต่ที่เด่นที่สุดคือการปิดตำนานการถือแชมป์อย่างยาวนานของหัวหน้าเผ่าและการปิดเรื่องราวของ “The American Nightmare” Cody Rhodes ที่เรียกได้ว่ารวมพลัง Avengers ขนาดย่อม ๆ เพราะขนมาทั้ง John Cena, The Rock, Seth “Freakin” Rollins, The Undertaker โดยหลังจากเหตุการณ์เรื่องราวทั้งหมดนี้ แฟน ๆ หลายคนรวมไปถึงตัว Triple H เองถือว่า WWE กำลังจะเข้าสู่ยุค “Triple H Era” ทำให้หลาย ๆ คนที่มาตาม WWE ใหม่ ๆ ได้แต่นึกแล้วสงสัยว่าไอ้ “ยุค” ที่ว่าคืออะไร และเรื่องนี้ SUM UP มีคำตอบ
ยุคแรกของ WWE คือยุคทอง (Golden Era) (1980-1993) เป็นยุคที่ WWE ยังอยู่ในชื่อ WWF (ย่อมาจาก World Wrestling Foundation) เป็นยุคที่ Vince McMahon รับช่วงดูแลบริษัทต่อจาก โดยในตอนนั้นค่ายได้เซ็นสัญญากับดาวดังในตอนนั้นที่กลายมาเป็นตำนานในทุกวันนี้อย่าง Hulk Hogan, Rowdy Roddy Piper, André the Giant, The Iron Sheik เป็นต้น หลังจากดำเนินงานไปซักพัก ธุรกิจก็เริ่มขยายขึ้นไปอีก มีการขายเทปให้กับช่องทีวีต่าง ๆ ให้นำไปฉายซ้ำ, เซ็นสัญญากับดาวเด่นใหม่ ๆ , เดินสายปล้ำทั่วประเทศ, สร้างอีเวนต์ใหม่ที่ชื่อว่า “WrestleMania”, ดาราและนักกีฬาดัง ๆ ให้ความสนใจในวงการมวยปล้ำ, ก่อกำเนิดอีเวนต์อย่าง Summerslam, Royal Rumble และ Survivor Series จนกลายเป็นแมตช์สามัญประจำบ้าน
ต่อด้วยยุครุ่นใหม่ (New Generation Era) (1993-1997) ที่เปิดด้วยความขรุขระ เพราะเหล่านักมวยปล้ำของสมาคมถูกกล่าวหาว่าพวกเขาซื้อสเตียรอยด์จากแพทย์ของสมาคมที่โดนดำเนินคดีลักลอบค้ายาไปก่อนหน้านี้ และ Vince ก็โดนลากมาเอี่ยวด้วย สุดท้ายแล้วเขาก็พ้นทุกข้อกล่าวหา แต่แผลมันถูกเปิดไปแล้ว บริษัทกำลังเสียหายอย่างหนักจากคดีนี้ ทำให้พวกเขาต้องหยุดใช้นักมวยปล้ำเดิมและดันดาวเด่นดวงใหม่ที่กลายเป็นชื่อสามัญในปัจจุบันอย่าง Shawn Michaels, The Undertaker, Razor Ramon, Diesel, Yokozuna เป็นต้น
ในขณะที่นักมวยปล้ำเดิมที่มีส่วนกับคดีรอเวลาที่จะกลับมาเป็นหน้าเป็นตาให้กับสมาคม แต่ Hulk Hogan กลับรอไม่ไหว ตัดสินใจจบสัญญานี้ และไปเข้าร่วมกับสมาคม World Championship Wrestling (WCW) แทน และศึกแย่งชิงพื้นที่บนหน้าจอโทรทัศน์ก็เริ่มขึ้น WWF ปล่อยรายการใหม่อย่าง Monday Night Raw ทาง WCW ก็ไม่น้อยหน้า ปล่อย Monday Nitro มาแข่งกัน แต่แล้วความซวยมาเยือน WWF เพราะในช่วงปี 2539 WCW ประกาศกลุ่มมวยปล้ำใหม่อย่าง New World Order (nWo) ทำให้เรตติ้งเทไปหา WCW นักมวยปล้ำพากันย้ายค่ายมาที่ WCW เพียบ แต่ WWF ก็กลับมากู้หน้าได้จากศึก In Your House : Bad Blood ที่มี Hell in The Cell เป็นแมตช์รูปแบบใหม่ของสมาคม เป็นแมตช์ระหว่าง The Undertaker และ Shawn Michael ที่มีเหตุการณ์สำคัญอย่างการเปิดตัว Kane น้องชายที่หายไปของ The Undertaker ตามเส้นเรื่องเดิม
ยุคต่อมาคือยุคที่คิดว่าผู้อ่าน Gen X น่าจะคุ้นที่สุด อย่างยุค Attitude Era (1997-2002) เพราะเป็นยุคที่ดังกระฉูดของสมาคม นักมวยปล้ำออกรายการอื่นแบบหยุดไม่อยู่ มีเกมมวยปล้ำปล่อยออกมาให้เล่น ค่ายถึงต้องมีคำเตือนให้ผู้ปกครองดูแลบุตรหลานระหว่างดูเพราะนี่คือยุคที่ดิบเถื่อนที่สุดของสมาคม มาครบทั้งเลือด เก้าอี้ ลวดหนาม ตะปู โต๊ะ เก้าอี้เหล็ก และโลงศพ โดยมีดาวเด่นดัง ๆ ถูกปั้นออกมาไม่หยุดไม่ว่าจะเป็น “Stone Cold” Steve Austin, กลุ่ม D-Generation X ที่มีนักมวยปล้ำหญิงคนแรก ๆ ที่สามารถยืนเทียบเคียงนักมวยปล้ำชายได้ อย่าง Chyna, The Rock, Mick Foley, Kurt Angle รวมไปถึงสามคู่แท็กทีมที่เดือดที่สุดของยุคอย่าง The Hardy Boyz, Edge และ Christian และ The Dudley Boyz
และเป็นยุคที่ค่ายเดินเกมครั้งใหญ่อย่างการนำบริษัทเข้าตลาดหุ้น, ออกรายการมาตีกับ Thunder ของ WCW อย่าง SmackDown!, ความพยายามที่จะลงเล่นในวงการอเมริกันฟุตบอล และเป็นการเปิดตัวโลโก้ที่ดูหมือนใช้การขีดที่เราคุ้นหน้าคุ้นตากันในปัจจุบัน และเป็นการปิดยุคการแข่งกันระหว่าง WCW และ WWF เพราะ WWF ได้ทำการเข้าซื้อ WCW โดยช่วงเวลาระหว่างท้ายยุคนี้ก็เกิดเหตุการณ์ที่นักมวยปล้ำ WCW บุกเข้ามาใน WWF จนเกิดศึก WCW vs WWF ขึ้นมา โดยจุดสิ้นสุดของยุคนี้คือการที่ “Stone Cold” Steve Austin จับมือ Vince McMahon และหักหลัง The Rock ใน WrestleMania ครั้งที่ 17
ยุคต่อมาถือว่าเป็นการเริ่มยุคที่เด่นที่สุดเพราะเกิดจากการที่ Kurt Angle ออกมาพูดท้าว่าในห้องเก็บตัว มีใครกล้าขึ้นมารึเปล่า จากนั้นก็มีชายคนหนึ่งเดินออกมาบอกว่าเขาคือ John Cena และบอกว่าที่เขากล้ามายืนประจันหน้ากับ Kurt Angle ได้เพราะเขามีสิ่งที่เรียกว่า “Ruthless Agression” และตบเข้าไปที่หน้า Kurt เต็มจนกลายเป็นจุดเริ่มต้นของยุคนี้ (2002-2008) ในยุคนี้เกิดเรื่องราวมากมาย ไม่ว่าจะเป็นค่ายต้องเปลี่ยนชื่อเป็น WWE เพราะแพ้คดีเนื่องจากตัวย่อไปซ้ำกับ World Wildlife Fund, เปิดค่ายหนังของตัวเอง, ปั้นนักมวยปล้ำใหม่ ๆ อย่าง John Cena. Randy Orton. Brock Lesnar, Eddie Guerrero, Ray Mysterio, Chris Benoit เป็นต้น รวมไปถึงนักมวยปล้ำที่ย้ายมาจาก WCW อีกด้วย ทั้งคอนเซปต์การปล้ำมากมายก็เกิดในยุคนี้ ไม่ว่าจะเป็น Elimination Chamber, Money In The Bank แล้วยังมีการเปิดค่ายเก่าขึ้นมาใหม่อีกครั้ง อย่าง Extreme Championship Wrestling (ECW) อีกด้วย และยุคนี้ก็เกิดการแบ่งนักม่วยปล้ำออกเป็นสองกลุ่มย่อย (Raw และ Smackdown) ซึ่งแต่ละกลุ่มก็มีเข็มขัดแชมป์เป็นของตัวเอง
หลังจากจบแมตซ์การป้องกันแชมป์ระหว่าง Triple H กับ Edge ค่ายก็ลดความดิบเถื่อนลง คำหยาบคายลดลงอย่างเห็นได้ชัด เพราะพวกเขาตัดสินใจเปลี่ยนเรตติ้งของตัวเองให้เป็น PG ที่ดูเป็นมิตรต่อสังคมมากขึ้น และนั่นก็กลายมาเป็นยุคใหม่ของสมาคม (2008-2014) โดยที่ยุคนี้ก็มีนักมวยปล้ำดาวเด่น อย่าง Sheamus, Cody Rhodes, กลุ่ม The Shield, Daniel Bryan เป็นต้น ซึ่งในยุคนี้มีเหตุการณ์เด่น ๆ อย่าง การเปิดตัว NXT ค่ายมวยปล้ำในเครือที่จะปั้นนักมวยปล้ำให้พร้อมต่อเวทีใหญ่และการที่ CM Punk ปล่อย “Pipe Bomb” ด้วยความไม่พอใจและเดินหันหลังให้สมาคม
ในยุค Reality (2014-2016) ก็เป็นการมาถึงของ WWE Network ที่สมาคมหันมาสนใจในออนไลน์, WWE Performance Center ที่เป็นศูนย์ฝึกนักมวยปล้ำอย่างเป็นทางการของสมาคม, Triple H เปลี่ยนตัวเองจากนักมวยปล้ำเบื้องหน้าสู่นักบริหารเบื้องหลังพร้อมกับการมาของเส้นเรื่องของกลุ่ม The Authority, Sting เปิดตัวในค่าย WWE หลังจากที่ไม่เคยมาปล้ำในสมาคม WWE เลย และเป็นจุดกำเนิดการถือครองแชมป์อันยาวนานของหัวหน้าเผ่า Roman Reigns อีกด้วยและเข้าสู่ยุคใหม่ (New Era) (2016-2024) ที่ WWE ให้ความสนใจกับนักมวยปล้ำหญิงมากขึ้น The Shield มีบทบาทมากขึ้น แต่ค่ายก็ได้รับผลกระทบของ COVID-19 ในยุคนี้ด้วยเช่นกัน
จนมีการเปลี่ยนมือจากพ่อสู่ลูกสาว อย่าง Stephanie McMahon และตัดสินใจขายบริษัทให้กับ Endeavor รวมถึงเปลี่ยนชื่อบริษัทเป็น TKO เข้าสู่ยุคที่ Triple H คุมบังเหียนอย่างเต็มระบบ (2024 เป็นต้นไป) อย่างชัดเจน โดยในยุคนี้ถือว่าเป็นบทบาทของกลุ่ม Bloodline ที่เป็นกลุ่มนักมวยปล้ำรุ่นใหม่ที่มาจากกลุ่มนักมวยปล้ำเชื้อสายซาโมนที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับมวยปล้ำมานานโข, The Judgement Day, Logan Paul ที่มีบทบาทชัดเจนมากขึ้นจากช่วงท้าย ๆ ยุค New Era และสิ่งที่ขาดไม่ได้คือการ “Finish The Story” ของ Cody Rhodes หลังจากที่ไปเก็บประสบการณ์ในค่ายคู่แข่งน้องใหม่ อย่าง All Elite Wrestling มาพักใหญ่. CM Punk กลับมา WWE อีกครั้ง, ก่อตั้งกลุ่ม Latino World Order
ในปัจจุบันนี้เราคงต้องตามต่อว่าเส้นเรื่องจะเป็นอย่างไร Cody Rhodes จะทำอย่างไรต่อเพราะ Solo Sikoa เริ่มมีบทบาทขึ้นเรื่อย ๆ ในกลุ่ม Bloodline, หัวหน้ากลุ่ม lWo จะเอาอย่างไรต่อกับกลุ่ม The Judgement Day, ปัญหาของ Drew McIntyre กับ CM Punk จะดำเนินไปอย่างไร และบริษัทจะเอาชนะค่ายใหม่อย่าง AEW ได้หรือไม่
AUTHOR
สิ่งมีชีวิตที่หยิบเรื่องรอบตัวมาเขียนมาเล่าให้คนอื่นอ่านและฟัง ส่วนตัวคนเขียนนั้นการอ่านอันดับสอง การนอนอันดับหนึ่ง