ขยะ เป็นสิ่งที่ใคร ๆ ก็ไม่ต้องการ เรามักจะนำเศษวัสดุหรือสิ่งของที่เราไปใช้ทิ้งลงในถังขยะ แล้วพอตกดึก ๆ รถเก็บขยะก็จะมารวบรวมก่อนที่นำเข้าสู่กระบวนการการจัดการขยะต่อไป ซึ่งเราน่าจะทราบกันเป็นอย่างดีว่าวิธีการจัดการขยะมีด้วยกันหลากหลายวิธีขึ้นอยู่กับชนิดและประเภทของขยะ ปัญหาขยะดูจะเป็นเรื่องที่ไม่ได้ซับซ้อนเหมือนกับการบริหารจัดการน้ำหรือการบำบัดน้ำเสีย แต่ทว่าในความจริงปัญหาขยะกลับเป็นเรื่องที่ใหญ่มาก ๆ สำหรับเมืองใหญ่อย่างกรุงเทพมหานคร ที่มีคนอยู่อาศัยกันอย่างหนาแน่น
เราทุกคนล้วนสร้างขยะโดยไม่รู้ตัว
ชีวิตประจำวันของเราแต่ละคนสร้างขยะหลายสิบชิ้นต่อวัน ยกตัวอย่าง ในตอนนี้ที่ท่านกำลังอ่านบทความอยู่ ท่านอาจกำลังกินชานมไข่มุกแสนหวานสักแก้วที่ประกอบไปด้วย แก้วพลาสติก, หลอดดูดน้ำ, หูหิ้วพลาสติก และซองพลาสติกห่อหลอดดูดน้ำ แค่ชานมเพียงหนึ่งแก้วก็สร้างขยะถึง 4 ชิ้นให้จัดการ นี่ยังไม่รวมขยะที่เกิดขึ้นระหว่างที่ท่านรับประทานอาหารอย่างกล่องโฟม กล่องพลาสติก ช้อนส้อม ถุงใส่ของ ถุงแกง หนังยางรัดแกง ขวดน้ำ และเศษอาหารเหลือทิ้ง นอกจากนี่ยังมีภาชนะหีบห่อของสินค้าอุปโภค เช่น สบู่ ยาสีฟัน ฯลฯ หรือแม้แต่ของใช้ที่ชำรุดเสียหาย เราทุกคนล้วนสร้างขยะนับสิบชิ้นต่อวันให้ต้องจัดการ ซึ่งขยะแต่ละชนิดมีวิธีการจัดการที่แตกต่างกัน บางชนิดนำกลับมาใช้ใหม่ได้เลย บางอย่างต้องผ่านกระบวนการบางอย่างก่อน หรือนำกลับมาใช้ใหม่ไม่ได้
จากรายงานทางสถิติขยะมูลฝอยชุมชนของประเทศไทยปี พ.ศ. 2566 พบว่าประเทศไทยมีขยะมูลฝอยประมาณ 26.95 ล้านตัน หรือประมาณ 73,840 ตัน/วัน เฉลี่ยเท่ากับ 1.12 กิโลกรัม/คน/วัน โดยเพิ่มขึ้นจากปี พ.ศ. 2565 จากเดิม 25.70 ล้านตันประมาณ 5% ภาคที่มีขยะมูลฝอยมากที่สุด คือภาคกลาง 31,339 ตัน/วัน โดยเป็นขยะจากกรุงเทพฯ ประมาณ 12,748 ตัน/วัน รองลงมาคือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีปริมาณขยะมูลฝอย 17,873 ตัน/วัน ภาคใต้ 9,705 ตัน/วัน ภาคตะวันออก 7,073 ตัน/วัน ภาคเหนือ 4,582 ตัน/วัน และภาคตะวันตก 3,268 ตัน/วัน ทั้งนี้ยังไม่นับขยะตกค้างในแต่ละปีอีกหมื่น ๆ ตันต่อปี

ขยะมีกี่ประเภท เรื่องง่าย ๆ อย่างการแยกขยะ
การแยกขยะเป็นวิธีง่าย ๆ ที่เราสามารถทำได้ ซึ่งนอกจากจะช่วยแบ่งหมวดหมู่และลดภาระงานให้กับพนักงานเก็บขยะแล้ว ยังเป็นการช่วยให้การจัดการขยะเป็นไปได้โดยง่ายยิ่งขึ้น โดยเราสามารถแยกประเภทของขยะได้เป็น 4 กลุ่ม ดังนี้
- ขยะย่อยสลายได้หรือขยะอินทรีย์ เช่น เศษอาหาร ซากพืชซากสัตว์
- ขยะรีไซเคิล หรือขยะที่สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้
- ขยะอันตราย คือขยะที่มีความเป็นอันตรายหรือมีส่วนประกอบเป็นสารที่มีอันตราย เช่น หลอดฟลูออเรสเซนต์, ถ่านไฟฉาย, โทรศัพท์เคลื่อนที่, กระป๋องสเปรย์บรรจุสารเคมี, ตลับหมึก, หลอดไฟ และน้ำยาล้างห้องน้ำ
- ขยะทั่วไป คือขยะอื่นนอกเหนือจาก 3 ประเภทที่กล่าวมา ซึ่งย่อยสลายยาก
ถึงแม้การแยกขยะจะเป็นสิ่งที่สำคัญ ซึ่งเป็นขั้นตอนแรกในการจัดการขยะในขั้นตอนต่อ ๆ ไปแต่คนไทยส่วนใหญ่มักไม่แยกขยะ เนื่องจากขยะบางชนิดมีราคาที่ค่อนข้างต่ำ หรือร้านค้าไม่รับซื้อขยะประเภทนี้ ทำให้คนไทยเลือกที่จะทิ้งรวมกันมากกว่า โดยจะแยกขยะเฉพาะในกลุ่มที่เป็นกระดาษ, ขวดพลาสติก หรือฝากระป๋องเท่านั้น วิธีที่จะแก้ปัญหานี้ได้ รัฐจำเป็นต้องสนับสนุนเครื่องมือและกลไกที่จะให้ผู้ประกอบการรับผิดชอบสินค้าและผลิตภัณฑ์ของตนเอง รวมทั้งการออกกฎหมายเพื่อบังคับใช้ให้ประชาชนแยกขยะ
การกำจัดและจัดการขยะ
ขยะเป็นสิ่งที่ใคร ๆ ก็ไม่ต้องการ แต่การจะปล่อยให้ย่อยสลายเองตามธรรมชาติก็ต้องใช้เวลานาน ซึ่งไม่ทันต่อปริมาณการสร้างขยะของมนุษย์ในแต่ละวัน นอกจากนี้ขยะบางประเภทย่อยสลายไม่ได้ หรือย่อยสลายแล้วจะส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม โดยขยะแต่ละชนิดมีระยะเวลาในการย่อยสลายแตกต่างกันดังนี้
- 🛢กระป๋องเหล็ก 100 ปี
- 🥫กระป๋องอลูมิเนียม 80-100 ปี
- 🍼ขวดพลาสติก 450 ปี (ปล่อยไมโครพลาสติกที่เป็นอันตรายต่อสิ่งแวดล้อม)
- 🩲ผ้าอ้อม 500 ปี
- 🥡กล่องโฟม และ 🍾ขวดแก้ว ไม่ย่อยสลายชั่วกัลปวสาน

ดังนั้นเราจึงควรแยกขยะ ซึ่งเป็นต้นทางของการกำจัดและจัดการขยะมูลฝอยก่อนจะเข้าสู่กระบวนการขั้นถัดไป โดยสำนักงานอนามัยสิ่งแวดล้อม กรมอนามัยได้ทำแบบแผนการกำจัดขยะเอาไว้ดังนี้
ขยะอินทรีย์ที่ย่อยสลายได้เอง ทิ้งใน “ถังสีเขียว”จะมาเก็บรวบรวมในทุกวันเพื่อไปยังแหล่งกำจัดขยะ เช่น การนำไปเป็นอาหารเลี้ยงสัตว์ นำไปหมักเป็นปุ๋ยชีวภาพ ดังนั้นเราไม่ควรทิ้งเศษเเก้ว เศษพลาสติกหรือโลหะปะปนในกองขยะอาหาร
ขยะรีไซเคิลได้ ทิ้งใน “ถังสีเหลือง” จะเก็บรวบรวมในทุกวัน….ของสัปดาห์ตามที่ตกลงไว้ของชุมชน นอกจากนี้ยังสามารถเก็บรวบรวมจากหน่วยรับซื้อขยะรีไซเคิล เช่น ร้านรับซื้อของเก่า ธนาคารรีไซเคิล ผ้าป่ารีไซเคิล ฯลฯ ก่อนที่จะเข้าสู่โรงงานรีไซเคิล
ขยะอันตราย ทิ้งใน “ถังสีส้ม” จะเก็บในจุด Drop off และรวบรวมในวันที่ท้องถิ่นตกลง ก่อนจะเข้าสู่กระบวนการฝังกลบแบบปลอดภัย (secure landfill) และบางส่วนที่สามารถรีไซเคิลได้จะเข้าสู่โรงงานรีไซเคิล
ขยะทั่วไป ทิ้งใน “ถังสีน้ำเงิน” เก็บรวบรวมในวันที่ชุมชนตกลง และเข้าสู่การฝังกลบในสถานที่ฝังกลบขยะมูลฝอย
ใน ปี พ.ศ. 2566 มีสถานที่กำจัดขยะมูลฝอยที่เปิดดำเนินงานทั้งสิ้น 2,079 แห่ง และสถานีขนถ่ายขยะมูลฝอย 36 แห่ง ซึ่งในส่วนสถานที่กำจัดขยะมูลฝอย แบ่งเป็นสถานที่กำจัดขยะมูลฝอยซึ่งดำเนินการได้อย่างถูกต้อง จำนวน 114 แห่ง เช่น การฝังกลบอย่างถูกหลักวิชาการ หรือการฝังกลบแบบกึ่งใช้อากาศ และอีก 1,965 แห่งเป็นสถานที่กำจัดขยะมูลฝอยซึ่งดำเนินการไม่ถูกต้องประกอบด้วย การเทกองที่มีการควบคุม การเทกอง การเผากลางแจ้ง การกำจัดโดยการเผาไม่มีระบบบำบัดมลพิษอากาศ และการกำจัดที่มีการเทกองหรือเทกองที่มีการควบคุมภายใน สถานที่กำจัดขยะมูลฝอย
นอกจากการกำจัดขยะด้วยการฝังกลบ, เป็นปุ๋ย และรีไซเคิลแล้วยังมีการกำจัดโดยการเผาเพื่อผลิตพลังงาน, การกำจัดโดยการเผาที่มีระบบบำบัดมลพิษอากาศ, ระบบหมักเพื่อผลิตก๊าซชีวภาพ, ระบบผลิตเชื้อเพลิงขยะ และระบบผสมผสานอีกด้วย
กรุงเทพ ฯ ไม่มีปัญหาขยะตกค้าง เพราะมีข้อบังคับในสัมปทานว่า “ห้ามมีขยะตกค้างในพื้นที่” ดังนั่นหน่วยงานต่าง ๆ จึงเลือกที่จะฝังกลบโดยไม่มีคัดแยกขยะ ดังนั้นการคัดแยกขยะจากต้นทางจะช่วยลดภาระของหน่วยงานและลดผลกระทบของการจัดการขยะอย่างไม่ถูกวิธี
ผลกระทบของการจัดการขยะอย่างไม่ถูกต้อง
การกำจัดขยะอย่างไม่ถูกวิธีนั้นนอกจากส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมแล้ว ยังนำมาซึ่งปัญหาสุขภาพ และปัญหาเศรษฐกิจ โดยเฉพาะการเผาขยะที่ไม่ถูกวิธีจะทำให้เกิดสารไดออกซิน สร้างมลพิษในดิน อากาศ ทั้งในรูปแบบฝุ่นละออง ก๊าซพิษ และกลิ่นไม่พึงประสงค์ ทำให้เป็นอันตรายต่อผู้คนทั่วไปที่สูดดมหรือสัมผัส
นอกจากนี้สำนักอนามัย กรุงเทพมหานคร ระบุว่าพนักงานเก็บขยะที่ต้องอยู่กับแหล่งสะสมเชื้อโรคเป็นเวลานานกว่า 8 ชั่วโมงต่อวัน ป่วยบ่อยกว่าคนทั่วไป 10 – 15% ทั้งยังต้องเสี่ยงจากอันตรายหลาย ๆ อย่าง อาทิ ถูกของมีคมบาดจนอาจเกิดแผลติดเชื้อและบาดทะยัก การปนเปื้อนเชื้อก่อโรคในขยะต่าง ๆ
การแก้ไขปัญหาขยะในไต้หวัน
ไทเปและประเทศไต้หวัน เป็นพื้นที่ที่มีคนอยู่อาศัยกันอย่างเนืองแน่น ขณะเดียวกันปัญหาขยะล้นเมืองจึงเกิดขึ้นเป็นเงาตามตัว แต่ทว่าไทเปและประเทศไต้หวันมีการจัดการขยะที่มีประสิทธิภาพและกลายเป็นเมืองต้นแบบในการจัดการขยะ ผ่านการอำนวยความสะดวกในการแยกขยะควบคู่ไปกับการบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด โดยประชาชนต้องซื้อถุงขยะจากเทศบาลเพื่อเป็นการเก็บเงินค่าจัดการขยะ และเปลี่ยนการเก็บขยะจากการนำขยะไปทิ้งที่ถัง เป็นการนำขยะมาทิ้งที่รถขนขยะแต่ละสีตามประเภทของขยะด้วยตัวเองในเวลาที่กำหนด ซึ่งวิธีนี้นอกจากจะช่วยให้ประชาชนแยกขยะเป็นนิสัยแล้ว ยังช่วยให้หน่วยงานจัดเก็บขยะมีงบประมาณเพียงพอ และยังคงเป็นปัญหาหนึ่งในระบบจัดการขยะของไทยที่ไม่มีงบประมาณเพียงพอต่อภาระการจัดการขยะจำนวนมหาศาลต่อวัน
นอกจากนี้ประเทศไต้หวันประกาศห้ามร้านค้าทั่วประเทศให้ถุงพลาสติกและหลอดพลาสติกแก่ลูกค้า ด้วยการบังคับใช้ทั้งหมดนี้ไต้หวันสามารถลดจำนวนขยะต่อคนลง 3 เท่า และนำขยะที่สามารถนำกลับใช้งานใหม่ได้เพิ่มขึ้น 55%