เทคนิคการตั้งราคา

ประเภทธุรกิจที่เริ่มต้นได้ไม่ยากและได้ผลตอบรับกลับมาค่อนข้างดีคงจะหนีไม่พ้นการ “ค้าขาย” แต่การจะทำให้ยอดขายออกมาดีจนกระทั่งถึงมีกำไร อาจต้องใช้เทคนิคหรือกลยุทธ์เข้ามาช่วย หนึ่งในเทคนิคสำคัญที่เจ้าของธุรกิจส่วนใหญ่เลือกทำคือ “เทคนิคการตั้งราคา” เป็นเรื่องที่พื้นฐานมาก ๆ แต่หลายคนละเลยจนพลาดโอกาสในการสร้างยอดขาย และวันนี้เราจะมาแบ่งปันเทคนิคการตั้งราคาพื่อดึงดูดลูกค้ากัน

1. แบ่งราคาเป็น 3 ระดับ

ถ้าเราลองสังเกต Chain Food ขนาดใหญ่ทั้งหลาย จะมีการตั้งราคาโดยแบ่งเป็น 3 ระดับ ถ้าเป็นร้านกาแฟหรือเครื่องดื่ม ก็จะเป็นแก้ว ไซส์ S ไซส์ M ไซส์ L โดยที่ราคาของไซส์ M กับ L จะมีความใกล้เคียงกันมาก เพื่อโน้มน้าวทำให้ลูกค้ารู้สึกว่าซื้อไซส์ใหญ่สุดจะคุ้มค่ากว่า กลยุทธ์นี้เป็นการตั้งราคาเพื่อให้มีการเพิ่มเงินอีกนิดหน่อยของลูกค้าเป็นการตัดสินใจที่คุ้มค่า

2. เหมารวมถูกกว่าซื้อเดี่ยว

เป็นวิธีสุดคลาสสิคที่ใช้กันมาอย่างยาวนาน และวิธีการก็ไม่สลับซับซ้อนอะไร โดยเป็นการตั้งราคาที่เมื่อคำนวณราคาต่อชิ้นออกมาแล้วถูกกว่าการซื้อแบบเดี่ยว ๆ ชิ้นเดียว ตัวอย่างเช่น อาหารแมวถ้าซื้อแบบเหมายกลัง 24 ชิ้น ในราคา 299 บาท เมื่อหารออกมาจะได้ราคาต่อชิ้น 12.45 บาท แต่ถ้าซื้อแบบปลีกชิ้นเดียวจะได้ในราคา 14 บาท

3. ราคาลงท้ายด้วยเลข 9

วิธีนี้ก็นับเป็นอีกวิธีที่คลาสสิคเช่นกัน โดยการตั้งราคาที่ลงท้ายด้วยเลข 9 เช่น 199 , 299 หรือ 599 ซึ่งวิธีนี้เป็นการอาศัยหลักของจิตวิทยาเข้ามาช่วย เพราะคนส่วนใหญ่มักจะดูตัวเลขหลักหน้าก่อนเสมอ ซึ่งทำให้คนรู้สึกว่า 199 บาท ไม่ถึง 200 ทำให้เกิดการอุปทานว่าราคาคุ้มค่ากว่า

4. ไม่รวมราคาขนส่งในราคาสินค้า

วิธีนี้ก็เป็นวิธีที่เล่นกับจิตวิทยาไม่ต่างกับการตั้งราคาด้วยเลข 9 โดยการใช้จิตวิทยาช่วยโน้มน้าวทำให้ลูกค้ารู้สึกว่าคุ้มค่าและไม่แพง ซึ่งนิยมใช้กับการซื้อขายออนไลน์ที่ต้องมีค่าส่ง โดยคนส่วนใหญ่มักไม่ได้สนใจราคาส่ง แต่สนใจกับราคาสินค้ามากกว่า

5. จัดวางตำแหน่งของป้ายราคาให้เหมาะสมและมองเห็นได้ง่าย

เพราะสิ่งแรกที่ลูกค้าใช้ในการตัดสินใจเลือกซื้อสินค้า คือ เรื่องของราคา ดังนั้นจะต้องมีการบอกรายละเอียดอย่างชัดเจน ว่าราคาเท่าไรและตำแหน่งการจัดวางของป้ายราคาสินค้าก็ควรอยู่เหนือระดับสายตาเล็กน้อย เพื่อให้ลูกค้าสามารถมองเห็นได้เป็นสิ่งแรกและมองเห็นได้ง่าย

เคล็ดลับเหล่านี้ก็คือเทคนิคในการตั้งราคา ที่จะดึงดูดให้ลูกค้าหันมาสนใจสินค้าของคุณ และเป็นการเพิ่มโอกาสในการปิดการขายอีกด้วย เพราะสินค้าทุกอย่างบนโลกสามารถขายได้ เพียงแต่ต้องทำการตลาดให้ถูกจุดและเหมาะสม

อ้างอิง