การตกหลุมรัก

มีหลายงานวิจัยทางจิตวิทยาที่พยายามหาคำตอบว่า มนุษย์ใช้เวลานานขนาดไหนในการตกหลุมรักใครสักคน เพราะบางครั้งมันก็เนิ่นนานหรือเร็วเกินไปจนเราแทบจะไม่รู้ตัว ซึ่งแน่นอนว่าวิทยาศาสตร์หาคำตอบให้เราได้เสมอ เพราะในทางธรรมชาติ ‘ความรัก’ เป็นเพียงแค่สารเคมีชนิดหนึ่งที่ทำให้มนุษย์สองคนมาอยู่รวมกันเพื่อแพร่พันธุ์

การสำรวจในปี 2013 ที่จัดทำโดยบริษัทวิจัยการตลาดอย่าง YouGov และเว็บไซต์หาคู่ eHarmony ระบุว่า ระยะเวลาที่ผู้หญิงและผู้ชายจะรักกันจริง ๆ ไม่ใช่วันที่ทั้งคู่สารภาพรักกันออกมาแล้วตกลงเป็นแฟนกัน แต่ความรู้สึกรักนั้นจะค่อย ๆ ชัดเจนขึ้นหลังจากที่คบกันไปสักระยะหนึ่ง ซึ่งระยะเวลาดังกล่าวก็ช้าเร็วต่างกัน แต่จากการสำรวจพบว่า ผู้ชายใช้เวลา 88 วัน ในการรักผู้หญิงสักคนหนึ่ง ขณะที่ผู้หญิงใช้เวลา 134 วัน ในการรู้สึกตกหลุมรักเช่นกัน ขณะที่นักบำบัดอย่าง Katie Ziskind กล่าวว่า อาจต้องใช้เวลา 2 สัปดาห์ ถึง 4 เดือน ในการที่ตกหลุมรักใครสักคนอย่างจริงจัง แต่นักวิทยาศาสตร์ก็ยังคงเชื่อว่าการตกหลุมรักตั้งแต่แรกเห็นนั้นสามารถเกิดขึ้นได้จริง เพราะสมองถูกลงโปรแกรมโดยธรรมชาติให้มนุษย์มุ่งเน้นไปที่การสืบพันธุ์เป็นอันดับแรกแม้ว่าคุณจะไม่ได้ตั้งใจก็ตาม

ถึงแม้การวิจัยในปี 2010 จะกล่าวว่าในทางสรีรวิทยา มนุษย์ใช้เวลาเพียงเสี้ยววินาทีในการตกหลุมรักใครสักคน และพร้อมที่จะปลดปล่อยสารเคมีแห่งความรักที่ทำให้คุณบ้าคลั่งออกมาในคราวเดียว แต่การสร้างความผูกพันธ์อันเหนียวแน่นก็ยังคงต้องใช้เวลาอยู่ดี

ในทางประสาทวิทยา ความรักที่เกิดจากความผูกพันธ์เป็นผลมาจากฮอร์โมนออกซิโตซินและวาโซเพรสซิน ซึ่งกระตุ้นให้สมองและร่างกายของเรารู้สึกมีความสุข หรือหากให้กล่าวในเชิงโรแมนติก เพียงแค่คุณมองหน้าคนที่รู้สึกรักก็ทำให้คุณรู้สึกดีและอิ่มเอมใจแล้ว แต่ความรู้สึกเหล่านี้ไม่ได้เกิดขึ้นกับคนที่เพิ่งรู้จักกัน แต่มักจะเกิดขึ้นกับคนที่รักกันมาสักระยะหนึ่งแล้ว

ทว่าในปัจจุบันการเข้ามาของอินเตอร์เน็ตและแอปพลิเคชันหาคู่ทำให้เรารู้จักกันง่ายขึ้น ซึ่งแน่นอนว่าปัจจัยเหล่านี้ส่งผลต่อระยะเวลาการตกหลุมรักตามธรรมชาติ ถึงแม้เราจะไม่ได้ทำความรู้จักกันต่อหน้า แต่การพูดคุยกันผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ก็ยังสามารถทำความรู้จักกันได้อยู่ดี ซึ่งสิ่งเหล่านี้ทำให้ผู้คนตกหลุมรักกันเร็วขึ้น ทว่ากลับล้มเหลวในความสัมพันธ์ระยะยาวมากกว่า

อย่างไรก็ตามไม่ว่าต้องใช้เวลานานขนาดไหนในการรักใครสักคน ก็คงไม่สำคัญเท่าเรารักกันมากขนาดไหน ใช้เวลาร่วมกัน เรียนรู้ด้วยกัน ก้าวผ่านอุปสรรคหลายอย่างไปด้วยกัน เพราะรักคือการเรียนรู้ตลอดเวลา ดังนั้นไม่สำคัญว่าเราจะรู้สึกรักตอนไหน แค่จดจำให้ได้ว่าวันแรกเรารู้สึกกับเขาอย่างไรก็พอ

ที่มา