ようこそ! ขอยินดีต้อนรับทุกท่านสู่โอซาก้า เมืองท่าแห่งเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวยอดนิยมอันดับแรก ๆ ของญี่ปุ่น ในฐานะนักท่องเที่ยว เรารู้กันดีว่า ‘โอซาก้า’ คือเมืองใหญ่อารมณ์ดีแห่งภูมิภาคคันไซ ซึ่งสำหรับใครหลายคนแล้วโอซาก้าหาใช่แค่เพียงเมืองผ่าน แต่เป็นจุดหมายปลายทางสำคัญสำหรับใครหลายคนที่อยากมาเยือนแดนปลาดิบสักครั้ง

โดยเฉพาะอย่างยิ่งใหญ่ในปีนี้เอง ถือเป็นหมุดหมายสำคัญที่ ‘World Expo 2025’ โอซาก้าได้เวียนกลับมาเป็นเจ้าภาพอีกครั้ง ซึ่งเทศกาลนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมของนานาประเทศ และเป็นไปเพื่อนำเสนอภาพลักษณ์ของตัวเองในระดับสากล ไฮไลต์ของการจัดงานแต่ละครั้งคือ ‘พาวิเลียน’ จากหลากหลายประเทศทั่วโลกที่เข้าร่วม ที่แต่ละประเทศก็จะคัดสรรสิ่งที่น่าสนใจในวัฒนธรรมด้านต่าง ๆ ของตนเองมานำเสนอ

งานนี้ได้เปิดฉากภูมิภาคคันไซอย่างอลังการไปในวันที่ 13 เมษายน 2025 และจะจัดต่อเนื่องไปจนถึงวันที่ 13 ตุลาคม 2025 ซึ่งผู้เขียนเองได้มีโอกาสไปสำรวจบรรยากาศช่วงก่อนเริ่มงานอย่างเป็นทางการ แม้ฝนจะโปรยปรายมาจนลมหนาวจับผิว แต่การเตรียมงานตรงหน้าและภาพของงานที่ออกมาให้เห็นนั้นกลับอบอวลไปด้วยพลังงานบางอย่างที่ทำให้หัวใจมีความรู้สึกตื่นตา

บทความนี้จึงอยากชวนทุกท่านเก็บกระเป๋า พับแผนที่ขึ้นเครื่อง ก่อนที่จะจอดลงที่โอซาก้าไปด้วยกัน เพราะเราจะพาท่านไปเดินชมไฮไลต์ของงาน Wold Expo ให้มากขึ้น รวมถึงยังอยากพาไปรู้จักกับ ‘เกาะแห่งความฝัน’ (Yumeshima) ที่กำลังถูกสร้างขึ้นด้วยความประณีตและจินตนาการของผู้คนจากทั่วโลก ซึ่งแน่นอนว่ายังรวมไปถึงข้อมูลจำเป็นสำหรับใครที่อยากไปเป็นส่วนหนึ่งของมหกรรมสุดยิ่งใหญ่นี้ด้วยตนเอง

Word Expo 2025, SUM UP Osaka Series
โปสเตอร์ประชาสัมพันธ์งาน World Expo 2025
Word Expo 2025, SUM UP Osaka Series
บริเวณประตูหน้าทางเข้าเมื่อขึ้นจากสถานีรถไฟ Yumeshima

ทำความรู้จักกับ ‘World Expo’ และธีมของปีนี้อย่าง ‘ใช้ชีวิตอยู่กับปัจจุบันและมองทุกวันให้เป็นอนาคต’

นอกเหนือจากข้อมูลที่กล่าวไปข้างต้น อันที่จริงแล้วญี่ปุ่นเคยเป็นเจ้าภาพจัด World Expo มาแล้วถึง 2 ครั้ง โดยจัดเป็นครั้งแรกเมื่อปี 1970 ที่เมืองโอซาก้า ซึ่งถือเป็นครั้งแรกของทั้งประเทศญี่ปุ่นและภูมิภาคเอเชีย ต่อมาครั้งที่สองเมื่อปี 2005 ที่เมืองไอจิ และปีล่าสุดนี้เองที่นับว่าเป็นครั้งที่สามที่จัดที่ญี่ปุ่น และนับเป็นครั้งที่สองของนครโอซาก้า

สำหรับ World Expo 2025 ในคราวแรก มีผู้ท้าชิงใหญ่คือฝรั่งเศส (ก่อนที่จะถอนตัวไปเมื่อได้จัดมหกรรมกีฬาโอลิมปิก ปารีสเกมส์ 2024) ซึ่งธีมที่ทางโอซาก้าเคาะมาคือ ‘สร้างสรรค์สังคมแห่งอนาคต เพื่อชีวิตที่ดีกว่าของพวกเรา’ (Designing Future Society for Our Life) โดยจุดแข็งของธีมนี้สอดรับกับโลกาภิวัฒน์ ประกอบกับโลกที่กำลังผันผวนและเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร้รอยต่อ

จนในท้ายที่สุดแล้วปี 2020 ก็ได้ออกมาเป็นมาสเตอร์แพลนที่ทั้งทรงพลังและสื่อถึงการอยู่ร่วมกันอย่างกลมกลืนท่ามกลางความหลากหลายอย่าง ‘Unity in Diversity’ และวางโจทย์ย่อยออกเป็น 8 พาวิเลียนใหญ่ที่ครอบคลุมบริบทจากทั้งทั่วโลก ท้องถิ่น และภาคเอกชน โดยทำงานผ่านประเด็นสำคัญ อย่าง อนาคตของโลกและความหลากหลายทางชีวภาพ, สุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี, ความสงบและสิทธิมนุษยชน, อนาคตของอาหารและความเป็นอยู่, การเรียนและการเล่น, การสร้างนิเวศเชิงวัฒนธรรมร่วมกันเพื่อสร้างสรรค์อนาคต, การสื่อสารและเคลื่อนย้าย และความยั่งยืน ทั้งหมดทั้งมวลในความสำคัญก็คือการทำ ‘Co-Design Challenge’ ที่เป้นทั้งความสนุกสนานและความท้าทายในการออกแบบร่วมกันของนานาประเทศ พวกเขามองว่าการจะออกแบบอนาคตได้นั้นจะต้องเข้าใจสภาวการณ์และปัญหาของปัจจุบันให้ดีก่อน ซึ่งจะใช้ ‘ความสร้างสรรค์’ เป็นปัจจัยสำคัญของการทำงาน

อีกสิ่งที่น่าสนใจคือ ‘สถานที่’ ที่เลือกมาใช้เป็นที่จัดงาน เดี๋ยวจะเล่าให้ได้อ่านกันในส่วนถัดไป

‘เกาะแห่งความฝัน’ (Yumeshima) ที่ถูกเนรมิตขึ้นใหม่ด้วยจินตนาการและความหวังอันกว้างไกล

สถานที่จัดงานอย่าง ‘เกาะยูเมะชิมะ’ แปลไทยได้ว่า ‘เกาะแห่งความฝัน’ เป็นเกาะเทียมที่เกิดจากการถมพื้นที่บริเวณปากแม่น้ำโยโดะ เขตโคโนฮานะ เมืองโอซาก้า ประเทศญี่ปุ่น เริ่มสร้างมาตั้งแต่ปี 1977 ความพิเศษคือการวางรากฐานให้พื้นที่แห่งนี้เป็นพื้นที่สำคัญทางธุรกิจการค้า กาสิโน โรงแรม ศูนย์การประชุม สถานบันเทิง และการจัดงานมหกรรมขนาดใหญ่ในอนาคต อีกทั้งยังเป็นที่ตั้งของท่าเทียบเรือตู้สินค้าที่ใหญ่ที่สุดอีกแห่งหนึ่งของญี่ปุ่น ซึ่งมีการวางเส้นทางเชื่อมต่อทั้งกับท่าเรือหลัก ๆ ทั่วโลก และขนส่งสาธารณะที่ทันสมัยทั่วทั้งประเทศ

เกาะยูเมะชิมะ, Word Expo 2025, SUM UP Osaka Series
ภาพจาก World Expo 2025
เกาะยูเมะชิมะ, Word Expo 2025, SUM UP Osaka Series
ภาพจาก World Expo 2025

เกาะแห่งนี้คือดินแดนแห่งความฝันสมที่กับชื่อเสียงเรียงนาม แรกเริ่มเดิมทีพื้นที่นี้ถูกวางไว้ให้เป็นศูนย์กลางทางด้านโลจิสติกส์และอุตสาหกรรม แต่ด้วยความที่โครงการได้ดำเนินการมาหลายทศวรรษ ทำให้วัตถุประสงค์หลักของการใช้งานย่อมมีเปลี่ยนไปบ้าง ต่อมาก็ได้มีการเปลี่ยนวัตถุประสงค์ของพื้นที่นี้มาใช้สำหรับการจัดกิจกรรมใหญ่ ๆ ที่ส่งเสริมเรื่องธุรกิจและการระหว่างประเทศอย่างที่ได้บอกไป ด้วยทำเลที่ตั้งที่เป็นทั้งอ่าวในเมืองท่าขนาดใหญ่ และเป็นเมืองที่เนรมิตขึ้นมาใหม่ จึงไม่น่าแปลกใจเลยว่าเพราะเหตุใดที่แห่งนี้จึงถูกวางไว้ให้ดึงดูดผู้คนมารวมตัวกันในมหกรรมระดับโลกอย่าง World Expo 2025 

แต่นั่นก็เป็นแค่เพียง ‘ก้าวแรก’ ของยูเมะชิมะเท่านั้น หลายโปรเจ็กต์กำลังอยู่ในขั้นตอนของการพิจารณา ดังนั้นจึงเป็นที่น่าจับตาว่าหลังจากเสร็จสิ้นงาน World Expo 2025 แล้ว เกาะแห่งความฝันนี้จะมีอะไรชวนให้เราตื่นเต้นกันได้ต่อ

Word Expo 2025, SUM UP Osaka Series
แพลนการขยายเส้นทางรถไฟเมโทรที่จะมาเกาะยูเมะชิมะ จะเกิดขึ้นภายในปี 2035

สำหรับ World Expo 2025 ตลอด 6 เดือนนี้ ยูเมะชิมะจะถูกแบ่งออกเป็นโซนและพาวิเลียนชั่วคราวต่าง ๆ ราวกับได้เดินทางท่องไปทั่วโลก ผ่านการยกนวัตกรรมและวัฒนธรรมทั่วทุกมุมโลกมาไว้ที่เกาะแห่งความฝันที่เมืองใหญ่แห่งภูมิภาคคันไซ และด้วยธีมของปีนี้อย่าง “ใช้ชีวิตอยู่กับปัจจุบันและมองทุกวันให้เป็นอนาคต” นั้นช่วยให้เราได้เห็นความสำคัญของการทำโลกให้ดีขึ้นในปัจจุบันขณะ เพื่อการเปลี่ยนแปลงในอนาคตที่ดีอย่างยั่งยืน ซึ่งเป็นตัวกระตุ้นชั้นดีในการชวนไปสำรวจว่า เราจะรับมือกับความท้าทายในโลกอันผันผวนได้อย่างไร ผ่านนวัตกรรม สถาปัตยกรรม เทคโนโลยี และวัฒนธรรมของนานาประเทศที่จะได้สัมผัส

‘Myaku Myaku’ มาสคอตเซลล์ผสมน้ำลึกลับที่มีความหมายลึกซึ้ง

จะเป็นไปได้อย่างไร หากจะมีมหกรรมครั้งใหญ่โดยไร้มาสคอตประจำงาน สำหรับใน World Expo 2025 คันไซเขาก็มีลูกเล่น โดยได้ส่งน้อง ‘เมียะคุ-เมียะคุ’ (Myaku Myaku: ミャクミャク) สิ่งมีชีวิตลึกลับที่เกิดจากการรวมตัวกันของเซลล์และน้ำบริสุทธิ์มาเป็นมาสคอตประจำงานในปีนี้

จุดกำเนิดของน้องเรียกได้ว่าลึกซึ้งมาก ๆ เพราะน้องมาจากคำว่า 脈々 ที่มีความหมายคือ “สืบเชื้อสายต่อ ๆ กันมาไม่ขาด” แปลใจความทั้งหมดได้ว่า การส่งต่อเพื่อเชื่อมสัมพันธ์ระหว่างชีวิต วัฒนธรรม และนวัตกรรมจากอดีตจนถึงปัจจุบัน เพื่อสร้างสังคมร่วมกันอย่างไร้รอยต่อ (และในอีกแง่หนึ่งผู้เขียนก็เดาว่าอาจจะหมายถึง World Expo ครั้งนี้ที่ถูกจัดขึ้นเป็นครั้งสองที่จัดที่โอซาก้าด้วย จึงอาจเป็นการส่งต่อในส่วนนี้เช่นกัน)

อย่างที่เรารู้กันดีว่าญี่ปุ่นเป็นชาติที่หลงใหลในมาสคอตคาแรกเตอร์มาก ๆ ในหลายจังหวัดหรือสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญก็จะมีน้อง ๆ คอยทักทายอยู่เต็มไปหมด น้องเมียะคุ-เมียะคุอาจจะมีรูปร่างที่แปลกตา มีสีสันที่โดนใจ แตกต่างจากมาสคอตทั่วไป แต่ในอีกแง่หนึ่งก็เป็นคาแรกเตอร์ที่มีความสนุกสนาน ด้วยความที่มีน้ำเป็นส่วนผสมก็ยังหมายความถึงการปรับเปลี่ยนร่างกายได้หลากหลาย และนั่นอาจแสดงให้เห็นถึงการปรับตัวเพื่อให้เข้ากับบริบทโลกที่มีความผันผวนและการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลาเช่นเดียวกัน

ด้วยเอกลักษณ์เช่นนี้ ส่งผลให้เมียะคุ-เมียะคุเป็นที่พูดถึงในโลกออนไลน์อย่างมาก และโด่งดังมาตั้งแต่ก่อนจะเข้าช่วงใกล้เปิดมหกรรมระดับโลกนี้เสียด้วยซ้ำ ซึ่งหากคุณมีโอกาสได้มาเที่ยวที่งาน World Expo 2025 หรือมาเที่ยวที่โอซาก้าและเมืองใกล้เคียง อาจจะลองมองหา ทักทาย หรือถ่ายรูปกับน้อง ๆ ได้นะ รับรองว่าน่ารักเป็นกันเองแน่นอน

MYAKU-MYAKU, Word Expo 2025, SUM UP Osaka Series
ภาพจาก World Expo 2025

เอาล่ะ มาเริ่มออกเดินทางกันเลยดีกว่า!

หากจะเดินทางมาที่ World Expo 2025 เรียกว่าเป็นอะไรที่สะดวกแบบสุด ๆ เพราะว่าในเกาะยูเมะชิมะเองก็มีสถานีรถไฟในชื่อเดียวกัน (Yumeshima Station) ที่เพิ่งเปิดให้บริการเมื่อเดือนมกราคม 2025 ที่ผ่านมา โดยหากมาจากตัวเมืองโอซาก้าเองก็สามารถขึ้นรถได้ทั้งจากสายชูโอ (Chuo Line), สายนันไค (Nankai Line), สายซากุระจิมะ (Sakurajima Line) และสายเคย์ฮัน นากาโนะชิมะ (Keihan Nakanoshima Line) รวมถึงยังมีรสบัสรับ-ส่งตามสถานีต่าง ๆ ในโอซาก้าอีกด้วย

การเดินทางในญี่ปุ่นถึงไม่มีรถยนต์ส่วนตัวก็ไม่ได้เดินทางยากจนเกินไปนัก เพราะรถสาธารณะของเขาโดยเฉพาะรถไฟถือว่าครอบคลุมสุด ๆ มีหลายสาย หลายประเภท และหลายราคา ซึ่งสามารถดูได้จากแอปพลิเคชันแผนที่ได้เลย ว่าหากจะเริ่มต้นเดินทางจากจุดที่อยู่ไปยังจุดหมายปลายทางจะไปด้วยวิธีใดได้บ้าง ใช้เวลาเท่าไร และมีราคาอย่างไร พอมาถึงสถานียูเมะชิมะก็อาจจะรู้สึกได้เลยว่านี่คือเมืองแห่งอนาคต และเหมาะสมกับเป็นที่ตั้งของงานมหกรรมระดับโลกจริง ๆ

Word Expo 2025, SUM UP Osaka Series
สถานียูเมะชิมะ
สถานียูเมะชิมะ, Word Expo 2025, SUM UP Osaka Series
ทางขึ้นสถานียูเมะชิมะ (ใหญ่มากกกก)

ก่อนจะลาจากกันตรงนี้ บทความนี้เป็นเพียงจังหวะเริ่มต้นของบทสนทนาระหว่างเราและเมืองโอซาก้า เพราะเรายังคงมีอีก 2 เรื่องราวที่รอให้คุณเดินทางไปด้วยกัน และในครั้งหน้า เราจะชวนคุณเปิดแผนที่ เดินลัดเลาะไปยังไฮไลต์และมุมลับที่หลายคนอาจมองข้าม ตั้งแต่ย่าน ร้านรวงเล็ก ๆ ไปจนถึงห้องสมุด มิวเซียม และพื้นที่ติ่ง ๆ ของแฟนคลับตัวยง

หากคุณยังอยากรู้จักโอซาก้าให้มากกว่านี้ พบกันต่อที่ SUM UP เร็ว ๆ นี้ แล้วเราจะได้ออกเดินทางไปด้วยกันอีกครั้ง

อ้างอิง

AUTHOR

หนังสือ ไพ่ทาโรต์ กาแฟส้ม แมวสามสี และลิเวอร์พูล