หลังจากความเงียบเหงาของบรรยากาศการฟังผลการเลือกตั้งที่มหาวิทยาลัยฮาวเวิร์ด ในวอชิงตัน ดี.ซี. ของผู้สนับสนุน ‘กมลา แฮร์ริส’ จากพรรคเดโมแครต ในช่วงค่ำของวันอังคารที่ 5 พฤศจิกายน ตามเวลาในสหรัฐอเมริกา
สู่ภาพของรอยยิ้มบนใบหน้าของแฮร์ริส ระหว่างการเดินเปิดตัวออกมาจากตัวอาคารของมหาวิทยาลัยฮาวเวิร์ด สถานที่นัดหมายเดิมกับเมื่อวานนี้ ในช่วงเวลาราว 16:00 น. ของวันที่ 6 พฤศจิกายน ตามเวลาในสหรัฐอเมริกา หรือเวลา 05:00 น. ของวันที่ 7 พฤศจิกายน ตามเวลาในประเทศไทย เพื่อแถลงยอมรับผลการเลือกตั้งในระยะเวลาสั้น ๆ เพียง 12 นาที ซึ่งได้รับเสียงให้กำลังใจอย่างล้นหลามจากผู้สนับสนุนที่มารอต้อนรับ
แฮร์ริสเรียกร้องให้ผู้สนับสนุนเธอทุกคนไม่หมดหวังกับการพ่ายแพ้ของเธอในครั้งนี้ กับการได้ประธานาธิบดีคนใหม่ของสหรัฐอเมริกาเป็น ‘โดนัลด์ ทรัมป์’ และเธอยังกล่าวในสุนทรพจน์ครั้งนี้ว่า “แม้ผลลัพธ์ของการเลือกตั้งครั้งนี้ไม่ใช่สิ่งที่เราต้องการ ไม่ใช่สิ่งที่เรากำลังต่อสู้ ไม่ใช่สิ่งที่เราลงคะแนนให้ แต่จงฟังฉัน ฉันอยากบอกว่าแสงสว่างแห่งความหวังของอเมริกาจะส่องประกายอยู่เสมอ ตราบใดที่เราไม่มีวันยอมแพ้ และตราบใดที่เรายังคงต่อสู้ต่อไป บางครั้งการต่อสู้ต้องใช้เวลาสักพัก มันไม่ได้หมายความว่าเราจะไม่มีวันชนะ”
“การยอมรับผลการเลือกตั้งครั้งนี้เป็นหลักการพื้นฐานของประชาธิปไตยอเมริกัน ควบคู่ไปกับการภักดีต่อรัฐธรรมนูญสหรัฐฯ หลักมโนธรรม และพระเจ้า ความภักดีของฉันที่มีต่อทั้งสามฝ่ายเป็นเหตุผลที่ฉันมาที่นี่เพื่อบอกกับทุกคนว่า ถึงแม้ว่าฉันจะยอมรับการเลือกตั้งครั้งนี้ แต่ฉันไม่ได้ยอมรับการต่อสู้ที่จุดประกายให้เกิดการรณรงค์ครั้งนี้ การต่อสู้เพื่อเสรีภาพ โอกาส ความยุติธรรม และศักดิ์ศรีของทุกคน การต่อสู้เพื่ออุดมคติที่เป็นหัวใจของประเทศของเรา อุดมคติที่สะท้อนถึงอเมริกาในด้านที่ดีที่สุดของเรา นั่นคือการต่อสู้ที่ฉันจะไม่ยอมแพ้”
“ฉันรู้ว่าหลายคนรู้สึกเหมือนว่าเรากำลังเข้าสู่ยุคมืด แต่เพื่อประโยชน์ของพวกเราทุกคน ฉันหวังว่าจะไม่เป็นเช่นนั้น” แฮร์ริสกล่าวเสริม “แต่ที่สำคัญคือ ‘อเมริกา’ ถ้าเป็นเช่นนั้น ขอให้เราเติมเต็มท้องฟ้าที่กำลังมืดมิดนั้นด้วยแสงจากดวงดาวนับพันล้านดวงที่เจิดจ้า ทั้งแสงแห่งความหวัง ความศรัทธา ความจริง และการรับใช้ ฉันขอให้สิ่งนั้นนำทางเราไปสู่ความหวังใหม่ของสหรัฐอเมริกา แม้จะเผชิญกับอุปสรรคก็ตาม ฉันขอขอบคุณทุกคน ขอให้พระเจ้าอวยพรคุณ และขอพระเจ้าอวยพรสหรัฐอเมริกา”
โดยระหว่างการกล่าวสุนทรพจน์ เธอให้กำลังใจผู้คนหลาย ๆ ฝ่าย ต่ออนาคตที่กำลังจะเปลี่ยนแปลงไปผ่านการดำเนินงานของประธานาธิบดีคนใหม่ ทั้งสิทธิในร่างกายตนเองของผู้หญิง ความปลอดภัยจากความรุนแรงทางอาชญากรรมในโรงเรียนและตามท้องถนน พร้อมทั้งให้กำลังใจกลุ่มคนอายุน้อยว่านี่ไม่ใช่ช่วงเวลาที่จะยอมแพ้ แต่นี่คือเวลาที่จะลุยไปข้างหน้าอย่างเต็มที่ อย่าหยุดพยายามทำให้โลกใบนี้ดีขึ้น
นอกจากนี้เธอยังกล่าวว่าเธอและ ‘โจ ไบเดน’ ได้โทรศัพท์ไปแสดงความยินดีกับทรัมป์สำหรับชัยชนะในครั้งนี้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว พร้อมให้คำมั่นสัญญาต่อการช่วยเหลือทีมงานของทรัมป์ในช่วงเวลาเปลี่ยนผ่านของสังคมเช่นนี้ด้วยความสันติ ซึ่งสอดคล้องกันกับแถลงการณ์ของทีมงานหาเสียงทางด้านทรัมป์ที่กล่าวว่า “ประธานาธิบดีที่ได้รับการเลือกตั้งของเรายอมรับความแข็งแกร่ง ความเป็นมืออาชีพ และความเข้มแข็งของแฮร์ริสตลอดทั้งแคมเปญหาเสียง” ซึ่งทั้งสองต่างเห็นพ้องต้องกันถึงความสำคัญของการรวมประเทศเป็นหนึ่งอย่างราบรื่นต่อไปในภายภาคหน้า
หลังจากจบการกล่าวสุนทรพจน์ความยาว 12 นาที แฮร์ริสเดินออกจากเวทีกลับเข้าด้านหลังพร้อมกับ ‘ดั๊ก เอ็มฮอฟฟ์’ สุภาพบุรุษคนที่สองผู้เป็นสามีของเธอ ท่ามกลางเสียงปรบมือกึกก้องจากผู้สนับสนุนทั่วงานในครั้งนี้
AUTHOR
พนักงานมือใหม่ที่สนุกกับการหาเรื่องมาเล่า ไม่มีสิ่งที่ชอบตายตัว มีแต่สิ่งที่ชอบแล้ว และกำลังหาสิ่งใหม่ที่ชอบต่อไป
Graphic Designer
