เมื่อใดที่คบเพลิงแห่งโอลิมเปีย 🔥 จุดติดเปลวไฟชูไสว นำพาพิธีกรรมโบราณศักดิ์สิทธิ์เชื่อมต่อสู่ยุคใหม่เพื่อแสดงถึงเจตจำนงปลงใจใกล้เปิดพิธีการของมหกรรมกีฬาแห่งชาติหรือที่รู้จักันว่า “โอลิมปิก” ที่กำลังจะเริ่มเปิดฉากขึ้นอีกครั้ง
ในการแข่งขันโอลิมปิกครั้งที่ 33 นี้ ประเทศฝรั่งเศส 🇫🇷 ได้รับสิทธิ์จัดการแข่งขันโดย “คณะกรรมการโอลิมปิกสากล” หรือ “IOC” ที่เล็งเห็นในการปรับโฉมรูปแบบการจัดขึ้น สำหรับประเทศที่มีความพร้อมในเรื่องสถานที่และการอำนวยความสะดวกสำหรับนักกีฬาที่เข้ามาแข่งขันครั้งนี้
ครั้งนี้นับว่าเป็นครั้งที่ 3 ของฝรั่งเศส หลังจากได้จัดการแข่งขันมาแล้วในปี 1900 และปี 1924 ซึ่งในครั้งที่ 2 เป็นการฉลองครบรอบ 100 ปีของโอลิมปิกด้วยเช่นกัน เรียกได้ว่าคุณสมบัติของฝรั่งเศสคู่ควรต่อการได้กลับมาเป็นเจ้าภาพอีกครั้ง
และหากพูดถึงโอลิมปิกที่กำลังจะเริ่มขึ้น สิ่งที่ขาดไปไม่ได้คือ “พิธีเปิดโอลิมปิก” ซึ่งจะแสดงถึงศักยภาพของประเทศเจ้าภาพในครั้งนั้น เพราะยิ่งพิธีเปิดมีความอลังการหรือสร้างความประทับใจได้มากเท่าไหร่ มันยิ่งทวีคูณภาพลักษณ์ที่ดีและเพิ่มผลประโยชน์ทางอ้อมให้กับประเทศเหล่านั้นด้วยเช่นกัน
สำหรับพิธีเปิดในครั้งนี้มีความพิเศษมากกว่าปีที่ผ่านมา เพราะทางผู้จัดรวมไปถึงผู้บริหารของประเทศฝรั่งเศสวางแผนให้การจัดโอลิมปิกครั้งนี้เป็นแบบเปิดที่ทำให้ผู้เข้าร่วมงานทุกคนสามารถสัมผัสถึงการเข้าถึงการแข่งขันทุกชนิดทั่วฝรั่งเศส แม้จะมีสนามกีฬาที่รองรับการจัดงานในครั้งนี้ แต่พวกเขาเลือกที่จะใช้แม่น้ำ “ลา แซน” ที่อยู่ติดใกล้กับสัญลักษณ์ประจำชาติอย่าง “หอไอเฟล” รวมทั้งเป็นแม่น้ำหลักใจกลางกรุงปารีสที่จะปรับรูปแบบจากพิธีเปิดที่ต้องเดินในสนามกีฬา ไปสู่การใช้สถานที่สำคัญของประเทศเพื่อสร้างมิติใหม่ให้กับพิธีอันทรงเกียรตินี้
วันนี้เราจะพาไปรู้จักสถานที่สำคัญสำหรับพิธีเปิดกีฬาโอลิมปิกครั้งนี้ ในแง่ของประวัติศาสตร์ ความเป็นมาของการใช้แม่น้ำแซนนี้ ความพร้อมสำหรับโอลิมปิกที่กำลังจะเริ่มขึ้น และประเด็นต่าง ๆ ที่น่าสนใจเกี่ยวกับลา แซนในโอลิมปิกที่ทุกคนรอคอยในปารีส 2024 นี้ 🇫🇷
รู้จักความงดงามของ “ลา แซน”
อย่างที่ทราบกันดีว่าทางฝรั่งเศสได้เลือกแล้วว่า “ลา แซน” เหมาะสมอย่างมากที่จะนำมาใช้ในโอลิมปิกครั้งนี้ แต่หากจะไม่รู้จักแม่น้ำแห่งนี้ก็คงจะน่าเสียดาย เพราะมันคือความงดงามและมีที่มาสุดแสนโรแมนติกที่ทำให้ที่แห่งนี้ดุจไปด้วยสเน่ห์ที่ควรได้มา
ลา แซน เป็นชื่อมาจาก “ลา (La)” คำที่กล่าวถึงหญิงสาว โดยในที่มาของชื่อมาจากเทพแห่งธารน้ำ “เซควานา” ถูกเรียกให้กระชับขึ้นว่า “แซน” เปรียบสายน้ำต้นทางจากเมือง “ซูร์-แซน” ทอดยาว 777 กิโลเมตรผ่านกรุงปารีสถึงบรรจบสุดทางที่ช่องแคบของประเทศอังกฤษ 🏴
ด้วยความงดงามดุจดั่งสาวผู้ยลโฉม ทำให้วรรณกรรมวิจิตรศิลป์ของชาติยุโรปโดยเฉพาะในประเทศตนอย่างแดนน้ำหอมนี้ ที่มักหยิบยกให้ลา แซนมีความงดงามที่คู่ควรนำไปใช้ในการเล่าเรื่องอันแสนโรแมนติก ที่ทำให้เข้าถึงอรรถรสของการได้มาสัมผัสริมฝั่งน้ำ หรือมาล่องเรือพลอดรักอันชุ่มฉ่ำ 💕 ผ่านสายน้ำที่เป็นดั่งเลือดใหญ่ใจกลางของประเทศแห่งนี้
นั่นจึงไม่แปลกที่ลา แซนจะถูกนำมาใช้ให้สมกับความศักดิ์สิทธิ์ของการแข่งขันกีฬาระดับโลก และเป็นที่ดึงดูดให้แก่นักท่องเที่ยวที่มาติดตามเหล่านักกีฬาของชาติ ทั้งยังได้เป็นการสัมผัสถึงมนต์สเน่ห์ของฝรั่งเศสที่ถ่ายทอดออกมาผ่านสถานที่สำคัญเหล่านี้
ความสำคัญของ “ลา แซน” ในโอลิมปิกครั้งนี้
ในส่วนของพิธีเปิดที่ทางฝรั่งเศสได้ตั้งใจไว้แล้วในโอลิมปิกครั้งนี้ คือการนำตัวแทนของแต่ละชาติการแข่งขันขึ้นสู่ขบวนเรือพาเหรดที่จะแล่นบนพื้นแม่น้ำอันสวยงาม โดยขบวนพาเหรดจะใช้เส้นทางยาว 6 กิโลเมตรของลา แซนเคลื่อนไปสุดที่ “ทรอกาเดโร” พื้นที่สวนชื่อดังหน้าหอไอเฟล เป็นจุดในการใช้การแสดงต่าง ๆ ของพิธีเปิดครั้งนี้
ด้วยอุดมการณ์ใหม่จากทาง IOC ที่เห็นปัญหาของการเป็นหนี้สินจากชาติที่ได้รับเลือกเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขัน โดยงบส่วนที่บางประเทศให้ความสำคัญอย่างพิธีเปิดที่อาจต้องสร้างสนามกีฬาเฉพาะสำหรับเป็นสนามกลางที่ใช้ในการแข่งขันต่าง ๆ รวมไปถึงพิธีต่าง ๆ ในโอลิมปิก การที่ฝรั่งเศสที่ทุนเดิมจากการเคยเป็นเจ้าภาพมาแล้ว 2 ครั้ง ก็ได้มีการปรับให้เปลี่ยนมาใช้สถานที่สำคัญร่วมกับการแสดงพิธีต่าง ๆ อาจเป็นจุดเริ่มต้นของไอเดียใหม่ ๆ ที่จะเกิดขึ้นได้ในอนาคตของการแข่งขันนี้
อย่างเช่นการเลือกประยุกต์การเดินพาเหรดในสนามกีฬาได้เปลี่ยนให้มีการนำนักกีฬาแล่นบนเรือผ่านแม่น้ำสำคัญ ก็เพื่อเป็นการเพิ่มคุณค่าของพิธีการให้มีมูลค่ามากขึ้น และอาจทำให้นักเที่ยวที่เข้ามารับชมได้ประทับใจในการได้เป็นส่วนหนึ่งของความภูมิใจที่ฝรั่งเศสกำลังแสดงให้ทั้งโลกได้เห็นเป็นประจักษ์
นอกจากนี้เจ้าภาพยังได้เพิ่มการติดตั้งกล้องเอาไว้บนเรือ ก็ยิ่งเพิ่มการเข้าถึงอย่างใกล้ชิดของแฟนกีฬาหรือนักท่องเที่ยวที่จะได้ใกล้ชิดกับนักกีฬาที่มาร่วมรายการนี้ เป็นพิธีเปิดที่เพิ่มการเข้าถึงได้ง่ายแถมพิธีที่จัดนอกสนามนี้ก็ยังสามารถจุผู้ชมที่รอเป็นสักขีพยานได้มากถึง 7 เท่าของสนามสตาดเดอฟรองซ์ สนามประจำชาติของฝรั่งเศส อีกทั้งยังเป็นการสร้างความแปลกใหม่ในแบบที่ไม่เคยมีมาก่อนในโอลิมปิกที่ผ่านมา
กว่าจะเป็น “ลา แซน” ที่นำมาใช้ในครั้งนี้
และอีกประเด็นสำคัญ กว่าจะมีการนำลา แซนมาใช้ประกอบพิธีครั้งนี้ สื่อหลายสำนักได้นำเสนอถึงความพร้อมของลา แซนที่จะถูกนำมาใช้ในโอลิมปิกประจำปีนี้ นอกจากแม่น้ำแห่งนี้จะถูกใช้ในพิธีเปิดแล้ว ยังถูกนำไปใช้กับกีฬาบางชนิดที่ต้องแข่งขันทางน้ำอีกด้วย
ประเด็นที่น่าสนใจคือ ลา แซนที่งดงามแสนบริสุทธิ์แต่แท้จริงแล้วแฝงไปด้วยความสกปรกที่เน่าเฟะจากสิ่งปฏิกูลต่าง ๆ ที่สะสม หลุดผ่านการระบายน้ำลงไปสู่ลา แซนที่โฉมงาม จนเป็นเหตุให้ “ปารีเซียง” หรือ ชาวปารีส ต่างไม่เชื่อมั่นในความสะอาดของน้ำที่อาจมีผลต่อการใช้งานของโอลิมปิกได้ จนทำให้สตรีผู้กู้วิกฤตลา แซน อย่าง นายกเทศมนตรีแห่งกรุงปารีส “แอนน์ อีดัลโก” มีโครงการฟื้นฟูลา แซนตั้งแต่ปี 2016 เพื่อป็นที่เชิดหน้าชูตาสำหรับโอลิมปิกที่จะจัดขึ้น ด้วยเหตุนี้สิ่งที่เธอได้เสนอ ส่งผลให้ IOC เทใจให้ปารีสเหมาะสมกับการเป็นเจ้าภาพโอลิมปิกประจำปี 2024
ตลอดความพยายามหลายปีในโครงการนี้ การปรับระบบระบายน้ำเสียและการจัดการขยะที่ลงคลองอย่างกำชับ ในปี 2022 การตรวจสอบคุณภาพน้ำถือว่าดีขึ้นมากจากแต่ก่อน และยังนำนวัตกรรมถังเก็บน้ำ “บาสแซง” มารองรับน้ำฝนที่มีผลกระทบจากพายุเพื่อป้องกันการระบายน้ำในปารีส
จนในช่วง 1 สัปดาห์ก่อนพิธีเปิดจะเริ่มขึ้น ทางอีดัลโกได้นำหัวหน้าการแข่งขันปารีส 2024 “โทนี่ เอสตองเกต์” พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐบาลภูมิภาคกรุงปารีส “มาร์ค กิลโญม” มาร่วมลงว่ายในแม่น้ำลา แซน เพื่อแสดงความเชื่อมั่นต่อโครงการที่เธอทุ่มเทมาตลอดหลายปี ทั้งยังได้นำรัฐมนตรีกระทรวงกีฬาฝรั่งเศส “อเมลี อูเดีย” ลงไปว่ายน้ำระยะ 10 เมตร เพื่อเช็กความพร้อมสำหรับใช้แข่งขันไตรกีฬาโอลิมปิกที่ถูกจัดในการแข่งขันครั้งนี้ด้วย
แม้ว่าอาจมีเสียงตอบรับส่วนหนึ่งในเรื่องความมั่นใจด้านความปลอดภัยของลา แซนที่ยังมีบางส่วนของปารีเซียงที่คิดว่ามันยังไม่ได้มีความสะอาดที่มากพอ แต่นั่นอาจเป็นผลลัพธ์ที่น่าติดตามจากการแข่งขันครั้งนี้ เพราะมันมีผลต่อการเปลี่ยนแปลงของโอลิมปิกได้ในอนาคต
ทั้งหมดนี้คือเนื้อหาส่วนหนึ่งของความพร้อมและเรื่องราวต่าง ๆ มากมายเกี่ยวกับลา แซนและการเปิดพิธีโอลิมปิกในครั้งนี้ การถ่ายทอดสดมหกรรมกีฬาโอลิมปิก 2024 จะเริ่มขึ้นในคืนวันศุกร์ที่ 26 กรกฎาคม เวลาประมาณ 00:30 น. มีนักกีฬา 10,500 คนจาก 206 ชาติ ขึ้นบนเรือเกือบ 100 ลำ เป็นหนึ่งในหน้าประวัติศาสตร์ของมหกรรมกีฬามวลมนุษยชาติที่กำลังจะเกิดขึ้น และกำลังจะถูกจารึกเป็นประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้กับประเพณีอันศักดิ์สิทธิ์ที่สืบทอดมานับตั้งแต่วิหารฮีราแห่งโอลิมปิก มาสู่ความงดงามตระการตราบนแม่น้ำลา แซน มุ่งไปสู่ทรอกาเดโร จุดเปลวไฟแห่งเกียรติยศลั่นระฆังเข้าสู่โอลิมปิก 2024 ณ กรุงปารีส ร่วมเป็นสักขีพยานหน้าไอเฟลประเทศฝรั่งเศสกัน 🇫🇷
อ้างอิง
- https://stadiumth.com/olympic/highlight/detail?id=287&tab=moment
- https://en.wikipedia.org/wiki/2024_Summer_Olympics
- https://thestandard.co/saving-the-seine-france/
- https://www.pptvhd36.com/sport/news/228844
- https://www.pptvhd36.com/sport/news/228633