เคยสงสัยไหมว่าเพราะเหตุใด เมื่อชาวต่างชาติใช้ภาษาไทยในการสื่อสารมักจะได้รับกำลังใจ คำชมอย่างล้นหลามจากเจ้าของภาษา ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดคือกระแส “ใจฟู” กันทั้งประเทศจากช่อง Cullen Hateberry หรือคลิปไวรัลใน Tiktok ของออโรร่า วิดีโอครีเอเตอร์ชาวจีน ปรากฏการณ์ที่สังคมไทยชื่นชอบชาวต่างชาติที่ใช้ภาษาไทยไม่ได้เพิ่งเกิดขึ้นในยุคนี้ ในอดีตก็มีชาวต่างชาติแถบยุโรปหรืออเมริกาที่โด่งดังจากการพูดภาษาไทยมากมาย แต่คนนับล้านที่พูดภาษาอังกฤษ หรือ จีนกลับไม่ได้ได้รับคำชมแบบเดียวกัน ในบางครั้งกลับรู้สึกถูกด้อยค่า จับผิดหรือเหยียดหยามอยู่บ่อยครั้ง

ความเจ็บปวดในการเรียนภาษาที่ไม่เท่ากันนี้มีที่มาอย่างไร?

ปรากฏการณ์นี้อธิบายได้ด้วยแนวคิด ศักดิ์ศรีของภาษา (Prestige) ในทางภาษาศาสตร์ทุกภาษาล้วนมีคุณค่าเท่าเทียมกัน แต่ความเป็นจริงสังคมมนุษย์มีการแบ่งชิงอำนาจทั้งอำนาจทางการทหาร อำนาจทางด้านวัฒนธรรม อำนาจทางการทูต อำนาจเศรษฐกิจ อำนาจทางวิชาการอยู่ตลอดเวลา ภาษามักถูกใช้เป็นเครื่องมือในการสถาปนาอำนาจดังกล่าวเพื่อครอบงำหรือรุกรานให้ประเทศที่มีอำนาจน้อยกว่ารับเอาภาษาของตน การเรียนภาษาที่มีศักดิศรีมากกว่าจึงมักมีจุดประสงค์เพื่อเข้าถึงอำนาจดังกล่าว เช่น เรียนภาษาเพื่อเรียนต่อ เรียนภาษาเพื่อทำงาน การเรียนภาษาจึงมักมาพร้อมประสบการณ์ถูกจับผิด หรือถูกเหยียดหยาม ล้อเลียนจากเจ้าของภาษา หรือแม้แต่คนไทยที่เรียนภาษาที่มีศักดิ์ศรีมากกว่าก็มักจะจับผิด เหยียดหยามการใช้ภาษาผิดกับคนไทยด้วยกันเองแทนเจ้าของภาษาอีกด้วย ความเจ็บปวดในการเรียนภาษาที่มีศักดิศรีมากกว่าจึงไม่ได้มาจากความยากของภาษาเพียงอย่างเดียว แต่มาจากความเจ็บปวดที่กำลังถูกล่าอาณานิคมโดยภาษานั่นเอง (language colonialism) ขณะเดียวคนหากผู้ใช้ภาษาที่มีศักดิ์ศรีน้อยกว่าภาษาไทยเช่น ผู้ใช้ภาษาพม่า ลาว เรียนรู้ภาษาไทยก็มักตามมาด้วยเสียงหัวเราะล้อเลียน หรือความคาดหวังว่าต้องใช้ภาษาให้ถูกต้อง

จากกระแสความนิยมในตัว คัลเลน ยูทูปเบอร์ชาวเกาหลี ที่ใช้ภาษาไทยแม้จะใช้ผิด ๆ ถูก ๆ แต่ยังได้รับความชื่นชมประกอบกับความตั้งอกตั้งใจเรียนรู้ภาษา ย่อมทำให้ผู้ใช้ภาษาไทยที่มีศักดิ์ศรีน้อยกว่าเกิดความประทับใจและความนิยมจากคนไทย แสดงให้เห็นว่า คนไทยมองว่าผู้ใช้ภาษาเกาหลีมีอำนาจทางภาษาสูงกว่าประเทศไทย

แม้ศักดิ์ศรีของภาษานั้นถูกสร้างมาโดยลัทธิการล่าอาณานิคมในอดีต แต่กระแสการย้ายถิ่นฐานของหนุ่มสาวยุคปัจจุบันกำลังท้าทายความศักดิ์ศรีนั้นผ่าน การเปิดใจเรียนรู้วัฒนธรรม ความละเอียดอ่อนทางวัฒนธรรมและความอ่อนน้อมถ่อมตนในการเรียนรู้วัฒนธรรมที่แตกต่างหลากหลาย สะท้อนให้เห็นถึงทักษะการเป็นพลเมืองโลก (global citizen) และเป็นเทรนด์ที่น่าจับตามองในการกำหนดนโยบาย geopolitics หรือการใช้ soft power เพื่อความเท่าเทียมทางวัฒนธรรม

CREATED BY

จิราเจต วิเศษดอนหวาย

Columnist : Topic