Lightning, Apple, แอปเปิล, พอร์ต Lightning

ยิ่งชีวิตคุ้นเคยกับเทคโนโลยีมากเท่าไหร่ เราก็ยิ่งใช้ชีวิตอยู่ใกล้ความเปลี่ยนแปลงมากขึ้นเท่านั้น ดังที่เราจะเห็นจากอุปกรณ์ที่เกี่ยวกับเทคโนโลยีใกล้ตัวที่ค่อย ๆ วิวัฒน์ไปตามสังคม และพัฒนาการไปตามสิ่งใหม่ที่ก่อกำเนิดขึ้นอยู่เสมอ เราในฐานะผู้บริโภคในสังคมนี้ก็จำเป็นต้องเปลี่ยนแปลงตามกันไป

สำหรับลูกค้าของ ‘Apple’ ก็น่าจะเป็นอีกหนึ่งคนที่ใช้ชีวิตอยู่กับการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีที่ Apple เปิดตัวขึ้นในเดือนกันยายน พ.ศ. 2555 อย่างพอร์ตและสายเชื่อมต่อ ‘Lightning’ พร้อม ๆ กันกับการเปิดตัว ‘iPhone 5’ สมาร์ตโฟนที่เคยเป็นรุ่นฮิตตลอดกาล ก่อนจะประกาศให้เป็นรุ่นตกยุคไปใน พ.ศ. 2561 ซึ่งจากการเปิดตัวครั้งนั้นทำให้ชาว iOS ต้องเปลี่ยนสายเชื่อมต่อใหม่ที่เกี่ยวข้องกับ iPhone ทั้งระบบ ไม่ต่างกับใน พ.ศ. 2559 ที่ iPhone 7 ปล่อยออกมาพร้อมกับการนำช่องเสียบหูฟังออกไป ส่งผลให้สายเชื่อมต่อเดียวที่ใช้งานกับสมาร์ตโฟนได้คือ Lightning นั่นเอง

โดยความแตกต่างของสายเชื่อมต่อแบบ Lightning กับสายเชื่อมต่อแบบเดิมก่อนการเปลี่ยนแปลงอย่าง ’30 pin’ คือขนาดที่เล็กลงอย่างเห็นได้ชัด จากขนาดความกว้างเดิมเกือบ 1 นิ้ว เหลือเพียงหัวที่เชื่อมต่อได้อย่างง่ายดายขนาด 8 pin และมีขนาดเล็กลงถึง 80% โดยเป็นการออกแบบมาเพื่อตอบ Insight ผู้ใช้งานข้อหนึ่งอย่างเป็นรูปธรรม นั่นคือการทำให้สามารถเสียบชาร์จได้ทั้ง 2 ด้าน ไม่ต้องหงุดหงิดเวลาจะเสียบแล้วไม่เข้าเพราะเสียบผิดด้าน

สิ่งนี้ ‘Phil Schiller’ หัวหน้าฝ่ายการตลาดของ Apple ได้กล่าวเมื่อช่วงการเปิดตัวสาย Lightning เมื่อปี 2555 ไว้ว่า “เราสร้างและใช้งานหัวเชื่อมต่อแบบ 30 pin มาตั้งแต่ตอนเปิดตัว iPod ในปี 2546 และใช้งานได้ดีมาตลอด แต่ก็มีการเปลี่ยนแปลงมากมายเกิดขึ้นหลังการเปิดตัวหัวเชื่อมต่อนั้น ทั้งการที่เราสามารถเชื่อมต่ออะไรได้แบบไร้สายแล้ว เราใช้ Bluetooth เชื่อมต่อลำโพงและระบบรถยนต์ได้แล้ว เราใช้ Wi-Fi เชื่อมต่อกับทีวี หรือเชื่อมต่อกับ iTunes ได้แล้ว นั่นแปลว่าตอนนี้เราถึงเวลาต้องเปลี่ยนแปลงหัวเชื่อมต่อของเราให้ทันสมัยขึ้น และนั่นคือสิ่งที่เราทำ”

สายเชื่อมต่อ Lighting อยู่กับผู้ใช้งาน iPhone มามากกว่าหลัก 10 ปี และมีการพัฒนาสายเชื่อมต่อตามมาอีกหลายครั้ง ทั้งการทำให้การชาร์จไวขึ้นได้ หรือทำให้รองรับสัญญาณวิดีโอแบบ 1080p ได้อีกด้วย นอกจากสายเชื่อมต่อนี้ก็ยังมีสายเชื่อมต่อรูปแบบอื่น ๆ ทั้งมีสายและไร้สายกับอุปกรณ์มากมายภายในเครือ ทั้ง Apple Watch, MacBook หรือ iMac เองก็ตาม ซึ่งสายทั้งหมดขององค์กรนี้ก็ได้สร้างระบบ Ecosystem ที่เข้มแข็งให้กับ Apple ตลอดมา

ที่มา

AUTHOR

Content Creator

พนักงานมือใหม่ที่สนุกกับการหาเรื่องมาเล่า ไม่มีสิ่งที่ชอบตายตัว มีแต่สิ่งที่ชอบแล้ว และกำลังหาสิ่งใหม่ที่ชอบต่อไป