มาม่า ไวไว

ทุกวันนี้การตลาดที่คาดไม่ถึงวนเวียนมาให้ผู้บริโภคอย่างเราเซอร์ไพรส์กันแทบทุกวัน วันดีคืนดีขนมที่เราเคยกินก็ทำรสชาติแปลก ๆ ออกมา ผ่านการ Collaboration กับแบรนด์สินค้า หรือร้านอาหารที่กำลังเป็นที่นิยม หรืออย่างในช่วงปี 2566 ที่เกิดปรากฏการณ์สะเทือนวงการอย่าง ‘Grammy RS Concerts’ ที่สองค่ายเพลงไม้เบื่อไม้เมา ต้องมีศิลปินใหม่ รายการใหม่มาชนแย่งส่วนแบ่งทางการตลาดกันตลอดเวลา เมื่อมาถึงยุคแห่งการโคจรมาพบเจอกัน เราก็ได้เห็นแล้วว่าผลลัพธ์ที่ดีที่สุดจะตกไปอยู่ที่ผู้บริโภค อีกทั้งภาคธุรกิจที่มาแชร์ส่วนแบ่งกันก็ยัง Win-Win กันทั้งคู่อีกด้วย

เลยทำให้ใจหนึ่งก็แอบไม่แปลกใจ แต่ใจหนึ่งเราก็ตื่นเต้นเมื่อช่วงเที่ยงที่ผ่านมา เพจเฟสบุ๊ก ‘Mamalover’ ของบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ‘มาม่า’ ได้เปลี่ยนรูปโปรไลฟ์ตัวเองเป็นโลโก้ของแบรนด์คู่แข่งอย่าง ‘ไวไว’ เสียอย่างนั้น เหตุผลเป็นเพราะอะไรกันนะ

กลับไปที่เพจเฟสบุ๊ก ‘Waiwai’ ของแบรนด์คู่แข่งกันก่อน หลังจากผ่านงาน THAIFEX 2025 ที่มีการเปิดตัวสินค้าใหม่อย่างเส้นราเมนแป้งข้าวโชยุส้มจี๊ด (Rice Ramen Shoyu Som Jeed) ซึ่งเป็นราเมนกึ่งสำเร็จรูปแบบสุขภาพที่ผสมผสานทั้งวัฒนธรรมการกินจากไทยและญี่ปุ่นเข้าไว้ด้วยกัน วันที่ 5 มิถุนายนที่ผ่านมาก็เริ่มมีการปล่อยแคมเปญโปรโมตไลน์สินค้าใหม่ในชื่อ ‘ไวไว ว้าว (Waiwai WOW)’ โดยจากโพสต์ล่าสุดแสดงให้เห็นว่าไลน์สินค้านี้จะมีบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปออกมา 2 รสชาติด้วยกัน ห่อหนึ่งเป็นสีเหลือง เป็นบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปรสชาติสไตล์ญี่ปุ่น ส่วนอีกห่อหนึ่งเป็นสีแดง เป็นรสชาติสไตล์เกาหลีใต้

ในฐานะผู้บริโภคเองเมื่อได้เห็นแล้วก็คงจะนึกไปถึงไลน์สินค้าของแบรนด์คู่แข่งที่กำลังไปได้สวยอย่าง ‘มาม่า โอเค (Mama OK)’ ซึ่งเป็นการรีแบรนด์กลุ่มสินค้าในชื่อ ‘มาม่า ออเรียลทัลคิตเช่น (Oriental Kitchen)’ ให้สั้นลงและทันสมัยมากขึ้น โดยยังคงจุดเด่นเดิมคือเป็นบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปที่เส้นบะหมี่เป็นแบบสไตล์เกาหลี หนานุ่มกว่าแบบดั้งเดิม เพิ่มเติมคือการสร้างสรรค์รสชาติใหม่ ๆ ให้เข้ายุคสมัยมากขึ้น อย่างรสฮอตโคเรียน (Hot Korean) หรือรสบะหมี่เผ็ดเกาหลีที่แบรนด์ต้นตำรับจากประเทศต้นทางเข้ามาตีตลาดในบ้านเราได้แล้วนั่นเอง ไปจนถึงการหยิบเอารสชาติไทย ๆ มาต่อยอดให้ดีขึ้นกับเส้นรูปแบบนี้ อย่างรสไข่เค็มแบบแห้ง ซึ่งมาในช่วงเวลาที่ไม่ว่าจะแบรนด์ขนม หรือแบรนด์อาหารไหน ๆ ก็มีรสชาติไข่เค็มให้ได้ลองกินกันทั้งนั้น

อีกทั้งยังมีแคมเปญโฆษณาอย่าง ‘We’re OK Generation’ ที่สื่อสารกับคนรุ่นใหม่ เหมือนกับการรีแบรนด์ที่ต้องการตีตลาดหนุ่มสาวยุคใหม่มาทดลองชิมรสชาติในไลน์สินค้านี้ของมาม่ากันให้มากขึ้น

ใจความหนึ่งของแคมเปญนี้ของมาม่าระบุไว้ว่า We’re OK Generation คือคนที่ชัดเจนในตัวตน เคารพในความหลากหลาย อิ่มเอมกับความสุขง่าย ๆ และเปิดใจยอมรับสิ่งใหม่อยู่เสมอ ซึ่งคำว่า ‘เคารพความหลากหลาย’ นี่เองที่น่าจะเป็นเหตุผลสำคัญให้มาม่าเลือกออกแคมเปญเพื่อสนับสนุนคู่แข่งที่กำลังจะลงมาเล่นในไลน์สินค้าประเภทเดียวกัน อย่างที่เราเห็นในรูปภาพบนปกเพจเฟสบุ๊กของ Mamalover ว่า “สนับสนุนความหลากหลายทางแบรนด์” ล้อไปกับช่วง Pride Month ที่สนับสนุนการเคารพในตัวตนของทุกคนในสิ่งที่เป็น และเปิดใจให้กับทุกความหลากหลายให้ได้เฉิดฉายความเป็นตัวเองได้อย่างเต็มที่นั่นเอง

หมากเกมนี้ของมาม่าและไวไว สองเจ้าบัลลังก์บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปของบ้านเราถือว่าทำออกมาได้อย่างถูกต้อง ต่างคนต่างสร้างสรรค์ในแบบของตัวเอง ในมุมไวไว พวกเขาก็ตั้งใจรังสรรค์รสชาติใหม่ของตัวเองในไลน์สินค้านี้มากว่า 1 ปี จนได้บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป 2 รสชาติใหม่ที่กำลังรอการเปิดเผยอย่างเป็นทางการอีกครั้ง ในขณะที่มุมของมาม่าเอง พวกเขาก็ใช้พื้นที่ประชาสัมพันธ์ในการเปิดทางให้ไวไวได้แสดงตัวตนของตัวเองอย่างเต็มที่ในตลาดเดียวกัน เปรียบเทียบไปก็เหมือนมาม่าเดินไปเปิดประตูให้ไวไวก้าวเท้าเข้ามาร่วมสังเวียนเดียวกัน ผายมืออย่างสง่างามในฐานะผู้บุกเบิก เพื่อให้คู่แข่งที่สมน้ำสมเนื้อเข้ามาท้าชิงในช่วงที่บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปของคนรุ่นใหม่กำลังกลายเป็นที่นิยมอยู่นั่นเอง

ที่มา

AUTHOR

Content Creator

พนักงานมือใหม่ที่สนุกกับการหาเรื่องมาเล่า ไม่มีสิ่งที่ชอบตายตัว มีแต่สิ่งที่ชอบแล้ว และกำลังหาสิ่งใหม่ที่ชอบต่อไป