เมื่อไม่นานมานี้มีเพจเฟซบุ๊กหนึ่งเผยแพร่ภาพน้ำสีดำกำลังไหลลง ‘หาดกมลา’ จังหวัดภูเก็ต ซึ่งเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญที่นักท่องเที่ยวมักแวะเวียนมาเยี่ยมชมเนื่องจากไม่ไกลจากตัวเมืองภูเก็ตมากนัก แต่กลับมีน้ำสีดำที่มีกลิ่นเหม็นเน่าคละคลุ้งไหลลงทะเลเป็นทางยาว สร้างความเดือดร้อนให้กับชุมชนและนักท่องเที่ยวบริเวณใกล้เคียง ทำให้มีผู้ใช้โซเชียลมีเดียเข้ามาแสดงความคิดเห็นไปในเชิงเดียวกันว่า ปัญหาน้ำเน่าเสียที่หาดกมลาเป็นมายาวนานเรื้อรัง เคยมีคนติดต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้วก็ไม่มีความคืบหน้า ชาวบ้านและนักท่องเที่ยวทำได้เพียงก้มหน้ารับชะตากรรมต่อไป จนกลายเป็นความเคยชิน
จากการตรวจสอบพบว่าน้ำสีดำดังกล่าวเป็นน้ำเสียที่มาจากคูคลองและเล็ดลอดออกมาจากโรงบำบัดน้ำเสีย โดยข้อมูลจากเว็บไซต์มติชนออนไลน์ ระบุว่า สันทัด คุ้มมิตร รองนายก อบต.กมลา ให้ข้อมูลว่า โรงบำบัดน้ำเสียของกมลาตั้งอยู่บริเวณสวนสาธารณะอนุสรณ์สึนามิ ติดกับหาดกมลา แต่ปัจจุบันโรงบำบัดน้ำเสียใช้งานไม่ได้ โดยฐานด้านล่างเกิดโพรงทำให้น้ำเสียลอดใต้ฐานออกไป ซึ่งทาง อบต. ได้ส่งเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบแล้วแต่ยังไม่ได้แก้ไข
ชาวบ้านบางส่วนให้ความคิดเห็นว่า ปัญหาน้ำเสียไหลลงหาดกมลามีมาอย่างยาวนาน ส่งกลิ่นเหม็นคละคลุ้งไปทั่วบริเวณ ถึงแม้พื้นที่ตรงนั้นจะมีนักท่องเที่ยวเล่นน้ำและนอนอาบแดดก็ตาม แต่ทางภาครัฐไม่ได้เร่งแก้ไขในเรื่องนี้ เพราะเมื่อน้ำทะเลหนุนสูงขึ้นก็จะชะล้างน้ำเสียนั้นให้เจือจางและหายไปเอง มันจะกลายเป็นเรื่องที่ภาครัฐไม่ให้ความสนใจ เพราะสุดท้ายก็กลายเป็นคนในพื้นที่และธรรมชาติที่บำบัดกันเอง ทั้งที่เรื่องน้ำเสียมันส่งผลต่อทั้งด้านสิ่งแวดล้อม เศรษฐกิจ และสาธารณสุข แต่กลับนิ่งนอนใจรอวันให้คน สัตว์ และธรรมชาติล้มตายไปเสียก่อน
ผลกระทบจากการที่น้ำเสียไหลลงทะเลจะส่งผลในเชิงลบต่อระบบนิเวศน์ทางทะเลในหลายด้าน เพราะน้ำเสียจะทำให้สิ่งมีชีวิตขนาดเล็กทุกชนิดถูกทำลายลงอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้เกิดการเสียสมดุลทางธรรมชาติ เนื่องจากสัตว์ทะเลขนาดเล็กและประการังเป็นทั้งแหล่งอาหารและที่พักพิงให้กับสัตว์ทะเลหลายชนิด หากสิ่งมีชีวิตขนาดเล็กและประการังลดจำนวนลง สัตว์น้ำชนิดอื่นก็จะมีจำนวนลดลงไปตามกัน ซึ่งส่งผลร้ายแรงต่อระบบนิเวศน์ทางทะเลโดยตรง
นอกจากส่งผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมก็ยังส่งผลกระทบต่อผู้คนเช่นกัน เพราะเมื่อร่างกายของเราสัมผัสกับน้ำเสียจะทำให้เกิดอาการระคายเคืองบริเวณผิวหนังและดวงตา เสี่ยงต่อการติดเชื้อทางผิวหนังและร่างกาย ไม่ใช่แค่เสียภาพลักษณ์ในการท่องเที่ยว แต่นักท่องเที่ยวอาจเสียชีวิตจากการลงเล่นน้ำหรือสูดดมน้ำเสียที่กระจายฟุ้งไปทั่วหาดอีกด้วย นี่จึงไม่ใช่แค่เรื่องสิ่งแวดล้อมเพียงอย่างเดียว แต่หมายถึงคุณภาพชีวิตที่ส่งผลต่อภาพลักษณ์และเศรษฐกิจมหาศาล ซึ่งเป็นแหล่งทำเงินหลักเพียงไม่กี่อย่างของจังหวัดภูเก็ต
อย่างไรก็ตามเรื่องน้ำเสียไหลลงหาดกมลานั้นมีมานานติดต่อกันหลายปี เป็นข่าวอยู่หลายครั้ง มีประเด็นร้องเรียนอยู่หลายหน แต่กลับไม่ได้รับความสนใจและการมองเห็นจากคนโดยรอบมากนัก นอกจากฝากให้คนในพื้นที่ตระหนักเห็นถึงปัญหานี้ เราอาจต้องฝากให้ผู้คนภายนอกช่วยกันกดดันภาครัฐให้เร่งแก้ไขปัญหานี้ในเร็ววัน เพราะมันน่าละอายใจขนาดไหนที่ปล่อยให้น้ำทะเลธรรมชาติชะล้างน้ำเน่าที่เกิดจากฝีมือมนุษย์ แล้วปล่อยให้สัตว์ทะเลตัวเล็ก ๆ สังเวยชีวิตไปพร้อม ๆ กับอาการคันของผู้คนที่เกิดจากการสัมผัสน้ำทะเลในพื้นที่ที่ตนเองเกิดและเติบโตมา
CREATED BY
ไม่ชอบคนข้างล่าง