อนกลับไปในอดีต ถ้าพูดถึงการทำการตลาด เราคงนึกถึงการทำตลาดแบบดั้งเดิมเพียงไม่กี่รูปแบบ เช่น การทำโฆษณาประชาสัมพันธ์ในช่องทางต่าง ๆ หรือการลดแลกแจกแถม ทำโปรโมชั่นต่าง ๆ ซึ่งเมื่อมีออนไลน์เข้ามาการตลาดก็ต้องปรับตัวตามเช่นกัน การเปลี่ยนแพลทฟอร์มการลงโฆษณา จากออฟไลน์ก็กลายเป็นออนไลน์มากขึ้น มีการยิงแอด ตลอดการใช้โซเชียลมีเดียเพื่อสร้างการรับรู้ถึงผู้บริโภค

Meme คืออะไร

มีม (Meme) คือมุกขำขันล้อเลียน ที่สะท้อนถึงความคิดและมุมมองทางวัฒนธรรม ปรากฏอยู่ในรูปแบบของการเขียน รูปภาพ คลิปวิดีโอสั้น มักเป็นการลอกเลียนสถานการณ์ คน สัตว์ สิ่งของ หรือสิ่งต่างๆ ที่สร้างความขบขันในวัฒนธรรมนั้นๆ ซึ่งปัจจุบันมีมถูกนำมาใช้อย่างแพร่หลายบนโลกออนไลน์ เพราะมีมสามารถสื่อความหมายเชิงสัญลักษณ์ถึงสิ่งที่ต้องการพาดพิงถึงได้ง่ายและรวดเร็ว โดยไม่ต้องใช้เวลาอธิบายให้ยืดยาว

โดยคำว่า “มีม” มีที่มาจากคำว่า “Gene” ที่แปลว่า “พันธุกรรม” ผสมกับภาษากรีก “mɪmetɪsmos” หรือ mimema ที่หมายถึง การลอกเลียนแบบ จนกลายเป็นคำว่า “Meme” ที่เราใช้กันอยู่ในปัจจุบัน

การเลือกใช้ให้เหมาะกับแบรนด์

  1. ใครเป็นกลุ่มเป้าหมาย (Target Audience)
    เพราะการใช้ Meme จะหมดประโยชน์ทันที ถ้า Meme เหล่านั้น ส่งสารถึงผู้รับสารผิดกลุ่ม การที่เรารู้กลุ่มเป้าหมายของเราอย่างชัดเจน ทำให้เราเลือกเทมเพลต Meme มาใช้สร้างสรรค์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  2. เรียบง่าย และเฉพาะกลุ่ม
    ข้อดีและความท้าทายของ Meme คือสามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่ปกติแล้วยากจะเข้าถึงและมีเนื้อหาที่โดนใจกลุ่มเป้าหมายเหล่านี้กำหนดมาอยู่แล้ว แต่อยู่ที่เราจะสร้างสรรค์อย่างไรให้เนื้อหาเดิมไม่เพี้ยนและเข้ากับแบรนด์หรือสินค้าของเรา ความเรียบง่ายในการนำเสนอจึงสำคัญที่สุดสำหรับการทำการตลาดกับ Meme
  3. ทำตามกฏของ Meme
    Meme ไม่ใช่เพียงแค่รูปที่ทำขึ้นมาง่าย ๆ และโพสต์ขึ้นมาเล่น ๆ แต่ยังมีกฎเกณฑ์รายละเอียดปลีกย่อยในการใช้งานอย่างมีประสิทธิภาพอีกด้วย ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้
    ตัวอักษรใหญ่และอ่านง่าย จะทำให้เกิดการมีส่วนร่วม (Engagement) สูงสุด
    การใช้ Meme ที่มีอยู่แล้ว ต้องไม่เปลี่ยนสิ่งที่ Meme ดั้งเดิมต้องการจะสื่อ เพื่อป้องกันการสับสน
    การปรับแต่ง Meme ที่มากเกินไป อาจส่งผลลบต่อ ชื่อเสียงของแบรนด์
    ใส่ข้อความ CTA (Call to Action) อย่างมีชั้นเชิง
  4. ทำให้เป็นไวรัล (Viral)
    การเลือกหยิบใช้ Meme มาทำการตลาด ก็ควรเลือกหยิบชิ้นที่เป็น Trend หรือ Viral ในช่วงนั้น ๆ ผลงานของเราก็จะถูกขับส่งให้ผู้บริโภคเห็นมากขึ้น แต่อย่างไรก็ตาม ต้องแน่ใจว่าการหยิบมาใช้ ตัว Meme จะต้องเข้ากับตัวแบรนด์ของเราด้วย หากยัดเยียดมากเกินไป อาจจะส่งผลเสียกับการทำการตลาดนั้น ๆ ของเราแทนที่จะเป็นผลดี

สถิติที่น่าสนใจของ Meme

  • มีผู้คนเพียง 20% เท่านั้นที่จะอ่านข้อความบนหน้าเพจ จากผลการศึกษาจาก Omnicore ในปี ค.ศ. 2023 (พ.ศ. 2566) อ้างว่า คนส่วนใหญ่กว่า 80% ดูแต่วิดีโอหรือภาพต่าง ๆ มีเพียง 20% เท่านั้นที่จะอ่านข้อความบนหน้าเพจ ทำให้เห็นว่าการเล่าเรื่องผ่านภาพบนโซเชียลมีเดียมีประสิทธิภาพมากกว่า ในช่วงเวลาที่กลุ่มผู้ใช้งานมีแต่โฆษณาที่มาพร้อม CTA (Call to Action)
  • ผู้บริโภคกว่า 40% นิยมส่ง Meme ให้กันเกือบทุกวัน
    ในปี 2022 Wavemaker ได้รายงานว่ากลุ่มคนอายุ 13 – 35 ปีกว่า 55% ส่ง Meme ให้กันทุกสัปดาห์ และ 30% ส่ง Meme ให้กันแทบจะทุกวัน ซึ่งคนกลุ่มนี้เป็นทั้ง Gen Y และ Gen Z ที่กินสัดส่วนกลุ่มผู้บริโภคกว่า 40% ของทั้งหมด ซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายที่น่าสนใจในการทำตลาด และคนกลุ่ม Millennial (หรือ Gen Y) พบเห็น Meme บนโซเชียลต่าง ๆ โดยเฉลี่ย 20-30 ชิ้นต่อวัน

แบรนด์ที่โดดเด่นในการเลือกใช้ MEME

“เนื้อแท้” ร้านอาหารชื่อดังของ “โต วีรชน ศรัทธายิ่ง” ที่กระแสไม่เคยหายไปจากหน้าฟีด
ไม่ว่ากระแสอะไรจะเข้ามา เขาสามารถคว้าไว้และจับมาออกมาเป็นคอนเทนต์ที่ไวรัลได้ตลอด ซึ่ง Meme ที่พวกเขาใช้ ก็นับว่าเป็นที่ชื่นชอบของผู้ติดตาม หรือ ร้านคอมพิวเตอร์ชื่อดังอย่าง iHAVECPU ที่เราจะมักเห็นมีมฮา ๆ จากเพจพวกเขา ซึ่งรูปส่วนใหญ่ที่ใช้ใน Meme จะเป็นรูปของคุณเปา เจ้าของ iHAVECPU โดยทั้งเพจ”เนื้อแท้” และ “iHAVECPU” ก็ผสมผสานกันระหว่างการใช้ Meme marketing และ CEO Branding ซึ่งถือว่าเป็นการตลาดยุคใหม่ทั้งคู่

สิ่งที่ควรระมัดระวังในการใช้

  • การเล่นกับกระแส ไม่ต่างจากการราดน้ำมันในกองไฟ หากเล่นไม่ดูตาม้าตาเรือ อาจส่งผลเสียต่อแบรนด์มากกว่าที่คิด
  • ช้าไปก็ตลาดวาย ! ในเมื่อทุกแบรนด์ทำ Meme marketing แข่งขันกัน ทุกคนแข่งกันเรื่องความเร็ว ยิ่งเร็วตามกระแสมากเท่าไรยิ่งดี เพราะสิ่งเหล่านี้มีผลต่อเรื่อง Engagement และยอด Reach ทั้งสิ้น

สุดท้ายนี้ Meme marketing จะมีใช้ได้เต็มประสิทธิภาพ ล้วนต้องอาศัยประสบการณ์ในการวิเคราะห์สถานการณ์ แล้วอย่าลืมสำรวจแบรนด์ของตนเองให้ดี ว่าเหมาะกับการเล่น Meme ประเภทไหน เพราะแต่ละ Meme ก็มีฟังค์ชั่นในตัวที่ต่างกัน หากใช้ผิดประเภทอาจเกิดผลเสียมากกว่า