โลกยุคปัจจุบันล้อมรอบไปด้วยความตึงเครียดไม่ว่าจะเป็น ภาวะโรคระบาด, การถูกกดันจากที่ทำงาน, สภาพแวดล้อมที่บีบให้เราต้องแข่งขัน, หรือปัญหาของผู้คนรอบตัวที่ทำให้เราปวดหัว และแน่นอนว่าสิ่งที่ผู้คนยุคนี้ต้องพบเจออย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ก็คือ ‘ปัญหาสุขภาพจิต’ ที่นอกจากจะพ่วงมาพร้อมกับความเครียดและความเศร้า ยังพ่วงมาพร้อมกับโรคหลากหลายชนิดอีกด้วย ซึ่งวิธีการรับมือของแต่ละคนก็จะแตกต่างกันไป บางคนเลือกที่จะรับการรักษาจากแพทย์ บางคนเลือกที่จะออกกำลังกาย หรือบางคนเลือกที่จะวิ่งหนีปัญหาตรงนี้ไปเรื่อย ๆ และแต่ละวิธีการรับมือก็มีผลลัพธ์แตกต่างกันออกไป แต่รู้หรือไม่ว่าในยุคปัจจุบันนี้กำลังจะมีเทคโนโลยีที่สามารถช่วยบรรเทาความเจ็บปวดของสุขภาพจิตของเราได้ ซึ่งเทคโนโลยีชนิดนี้ถูกเรียกว่า ‘Metaverse for Mental Health’ หรือเรียกง่าย ๆ ว่าการใช้เมตาเวิร์สเพื่อดูแลสุขภาพจิต

เราคงพอได้ยินคำว่า เมตาเวิร์ส (Metaverse) กันมาอยู่บ้าง ซึ่งการนิยามศัพท์ตามราชบัณฑิตยสภาได้นิยามเอาไว้ว่า ‘Metaverse’ คือ ‘จักรวาลนฤมิต’ ส่วนความหมายของมันก็คือ โลกเสมือนจริงที่ถูกสร้างขึ้นและทุกคนสามารถสร้างตัวละครของตัวเองขึ้นในโลกนั้นได้ รวมถึงสามารถใช้ชีวิตและมีปฏิสัมพันธ์กับตัวละครอื่น ๆ ได้ โดยอาศัยเครื่องมือ AR (Augmented Reality) และ VR (Virtual Reality) ในการเชื่อมโยงโลกเสมือนจริงของทุกคนเข้าไว้ด้วยกัน แต่อย่างไรก็ดีความก้าวหน้าของ ‘เมตาเวิร์ส’ ก็อาจจะส่งผลกระทบต่อสังคมและเศรษฐกิจในอนาคตได้เช่นกัน  

Metaverse for Mental Health คืออะไร?

สืบเนื่องมาจากผู้ให้บริการด้านสุขภาพจิตมีไม่เพียงพอเพราะจำนวนผู้คนที่มีปัญหาด้านสุขภาพจิตมีจำนวนเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ ในอเมริกาจึงได้มีแนวคิดที่จะให้การรักษาทางไกลหรือการวิดิโอคอลเพื่อให้คำแนะนำกับผู้ป่วยโดยตรงนั่นเอง และ Metaverse for Mental Health ก็คือการพยายามพัฒนาตัวเมตาเวิร์สออกมาเพื่อช่วยบรรเทาและรักษาสุขภาพจิตของผู้ป่วย ยกตัวอย่างให้เห็นภาพเช่น บริษัท DeepWell ได้มีการออกแบบเกมเพื่อรักษาโรคซึมเศร้าและเพื่อรักษาภาวะวิตกกังวล หรืออย่าง TRIPP ได้มีการพัฒนาเมตาเวิร์สสำหรับการฝึกสมาธิโดยสามารถเปิดใช้งานผ่าน VR ได้เลย นอกจากนี้เทคโนโลยีจะถูกพัฒนาต่อไปจนถึงการเชื่อมโยงกับอารมณ์และความรู้สึกของมนุษย์ผ่านคลื่นในสมองเพื่อวัดอารมณ์ความรู้สึก

การเติบโตขึ้นของ ‘เทคโนโลยี’ และ ‘เมตาเวิร์ส’ หากถูกออกแบบและพัฒนามาเพื่อรักษาปัญหาสุขภาพจิตก็จะถือว่าเป็นประโยชน์ที่ดีอย่างหนึ่งต่อการรักษา ทั้งต่อตัวผู้ป่วยและแพทย์ ซึ่งนอกเหนือจากประโยชน์ด้านการแพทย์แล้ว ‘เมตาเวิร์ส’ ยังสารถหยิบไปใช้ประโยชน์ด้านอื่น ๆ ได้อีกด้วย ไม่ว่าจะเป็น ประโยชน์ด้านการตลาด, การทำธุรกิจ, ด้านวิศวกรรม, ด้านความบันเทิง เป็นต้น และถ้าหากเมตาเวิร์สถูกพัฒนามาเพื่อสร้างประโยชน์ทางด้านสุขภาพจิตได้สำเร็จอย่างต่อเนื่อง ก็อาจจะทำให้ผู้คนที่ต้องทนทรมานกับความเจ็บป่วยทางจิตลดน้อยลงไปได้

อ้างอิง : YouTube/it24hrs , Techsauce , WeForum , Ananda