Kawari yuku mono wa shikata ga nai ne to
Te o hanasu, karukunaru, michite yuku
Michite yuku
สิ่งที่แปรเปลี่ยนไปแล้ว เป็นเรื่องที่เราแก้ไขไม่ได้
แค่ปล่อยวาง ทำใจให้สงบ และเติมเต็มด้วยความสุข
เติมเต็มด้วยความสุข
หรือที่ผ่านมาเราตีความคำว่า “รัก” ผิดมาตลอด เราคิดว่ารักคือการได้รับหรือมอบให้ใครคนอื่นเพียงอย่างเดียว นั่นจึงเป็นสาเหตุที่หลายคนทุ่มเวลาเกือบครึ่งชีวิตตามหาใครบางคนเพื่อได้รักเขาอย่างสุดหัวใจโดยหลงลืมการรักตัวเอง เมื่อความผันแปรที่เกิดขึ้นพรากคนรักไปจากเรา จึงไม่แปลกที่ความโศกเศร้านั้นจะเข้ามาเกาะกุมหัวใจ เพราะเราไม่เหลือความรักไว้เพียงพอที่จะกลับมาเติมเต็มให้ตัวเองในวันที่แหลกสลาย ดังนั้นเมื่อไม่สามารถกลับไปแก้ไขสิ่งที่เปลี่ยนแปลงไปแล้วได้ สิ่งที่ควรทำคือหันกลับมาเติมเต็มความสุขและความรักให้กับตัวเอง เพราะเราต่างเป็นเจ้าของความรักของตนเอง การพยายามแสวงหารักจากคนอื่น อาจเป็นวิธีการรักที่ไม่ถูกต้อง
นี่อาจเป็นสิ่งที่เพลง Michi Teyu Ku (Overflowing) ของศิลปินป็อปอาร์แอนด์บีอย่าง Fujii Kaze นักร้องและนักแต่งเพลงชาวญี่ปุ่นที่ฝากซิงเกิลฮิตติดหู อย่าง Shinunoga E-wa ไว้เมื่อปีที่ผ่านมา พยายามจะสื่อสารกับเหล่าผู้ฟังผ่านเมโลดี้และตัวอักษรที่เขาร้อยเรียงออกมาเป็นบทเพลง ประกอบกับดนตรีที่ไพเราะฟังง่าย ยิ่งทำให้เพลงนี้กลายเป็นเพลงที่มีกลิ่นไอของความอบอุ่นปะปนอยู่เต็มไปหมด สมกับเป็นเจ้าพ่อแห่งการแต่งเพลงรัก ที่ทำให้คนหันกลับมารักตัวเอง โดยเพลงนี้ Fujii Kaze แต่งขึ้นเพื่อประกอบภาพยนตร์รักโรแมนติก อย่าง April Come She Will เมษายน พาใครบางคนกลับมา ที่กำลังฉายอยู่ในช่วงนี้
หากใครที่ได้รับชมภาพยนตร์นี้กันไปบ้างแล้วก็อาจทราบกันดีว่า หนังไม่ได้ตอบคำถามเราอย่างตรงไปตรงมา แต่เป็นไปในเชิงให้เราค้นหาคำตอบด้วยตนเอง และหากใครที่ดูอยู่จนหนังจบก็จะได้ยินเพลง Michi Teyu Ku นี้บรรเลงขึ้นมา ซึ่งเนื้อหาภายในเพลงจะช่วยพาเราไปพบกับคำตอบบางอย่าง ที่ตัวของ Fujii Kaze เคยเปิดเผยผ่านการให้สัมภาษณ์ว่า เขารู้สึกตื่นเต้นเป็นอย่างมากที่ได้มีโอกาสแต่งเพลงประกอบภาพยนตร์ครั้งแรก ถึงแม้จะเป็นเพลงรัก แต่สุดท้ายแล้วเพลงนี้ก็คล้ายกับเพลงก่อน ๆ ของเขาที่ผ่านมา เพราะอะไรที่มีจุดเริ่มต้นก็ล้วนมีจุดจบเหมือนกัน และความรักก็ไม่ใช่สิ่งที่ต้องโหยหาจากที่อื่น เพราะทุกคนล้วนมีความรักอยู่ในตัวเอง
Michi Teyu Ku จึงเป็นอีกหนึ่งบทเพลงรักที่บอกให้เรารักตัวเอง เพราะความรักมีมากมายหลายมิติเหลือเกิน รวมถึงคำนิยามอันเป็นปัจเจกของมัน เหมือนน้ำและอากาศที่พร้อมเปลี่ยนแปลงรูปร่างและสถานะ ขึ้นอยู่กับว่าเราจะใช้มันอย่างไร มีมุมมองต่อมันแบบไหน แล้วพร้อมที่จะแบกรับผลกระทบอันเกิดจากการใช้รักในรูปแบบของเราหรือไม่ แต่หากใช้รักในการเยียวยาตัวเองบ้างตามที่ Fujii Kaze กล่าวก็ไม่ใช่เรื่องผิด เพราะรักเป็นมวลสารที่จะมอบให้กับใครก็ได้ ไม่เว้นแม้กระทั่งตัวของเราเอง ดังนั้นลองกลับมาทบทวนสิ่งที่พ้นผ่าน เติมเต็มความรักให้กับหัวใจของเรา
AUTHOR
ไม่ชอบคนข้างล่าง
Graphic Designer
