หากใครเป็นสายฟังเพลงเพื่อชีวิต คงไม่มีทางไม่รู้จัก ‘ไททศมิตร’ จากค่าย GENELAB วงอินดี้เพื่อชีวิตที่ฝากผลงานเพลงฮิตปลุกเร้าหัวใจไว้มากมาย อาทิ แดงกับเขียว และ นักเลงเก่า แน่นอนว่าพวกเขากลับมาอีกครั้งโดยสอดแทรกเพลงที่มีเนื้อหาเกี่ยวข้องกับความรักมากขึ้นอย่าง ‘กี่ฤดู’ เพลงที่พูดถึงการจากลา ความทรงจำ และความสูญเสีย ที่ถ่ายทอดออกมาได้ลึกซึ้งกินใจ อีกทั้งยังได้ ‘ตูน-บอดี้แสลม’ มาร่วมเติมแต่งให้เพลงดูมีมนต์ขลังมากขึ้นไปอีก
แต่ที่หลายคนต่างพากันพูดถึงนอกจากเนื้อเพลงที่มีเนื้อหาลึกซึ้ง คงหนีไม่พ้น MV ที่มีเนื้อหาหนักหน่วงเรียกน้ำตาให้กับผู้ฟัง เรื่องราวของพ่อผู้สูญเสียลูกและสติ ภรรยาที่สูญเสียลูกชายและสามี การรับมือกับการจากลาอย่างกระทันหันที่สร้างความสะเทือนใจร้อยเรียงออกมาเป็นเรื่องราวสอดผสานกับเนื้อเพลงได้อย่างลงตัว โดยได้ผู้กำกับมากฝีมืออย่าง ‘นราธิป ไชยณรงค์’ มารังสรรค์เรื่องราวให้สามารถสื่อสารความสูญเสียได้อย่างละเอียดละออ
ภายในเรื่องจะเปิดด้วยภาพชายวัยกลางคน ผมเผ้าหนวดเครารุงรัง ร่างกายมอมแมมสวมชุดที่แหว่งวิ่น กำลังติดกระดุมชุดนักเรียนให้กับเด็กชายคนหนึ่งบริเวณเพิงไม้ใกล้ลำธาร ซึ่งอนุมานได้ว่านี่คือแหล่งพักพิงของเขา และจากการแสดงสีหน้าท่าทางก็พอจะเดาได้ว่าชายคนนี้มีสติที่ไม่ปกติเท่าใดนัก แต่ที่เห็นได้ชัดคือเขามีความรักต่อลูกชายเป็นอย่างมาก
ในช่วงแรก MV พยายามฉายให้เราเห็นภาพความรักของสองพ่อลูก ก่อนที่จะเผยตัวละครอีกหนึ่งตัว นั่นคือหญิงวัยกลางคนที่นำปิ่นโตมาให้สองพ่อลูกทุกวัน ทว่าเธอกลับมีสีหน้าที่เปี่ยมล้นไปด้วยความโศกเศร้า ต่างจากสองพ่อลูกที่มีใบหน้าเปื้อนยิ้มอยู่เสมอ จากนั้นเส้นเรื่องก็ค่อย ๆ ทำให้เราเข้าใจว่า เด็กชายผู้น่ารักสมวัยได้จากโลกนี้ไปนานแล้ว ที่เรายังมองเห็นเขานั่นเป็นเพราะว่าเรามองผ่านเลนส์ของพ่อผู้เสียสติจากการสูญเสียลูกชาย
ในความเป็นจริงแล้วการที่เราเสียสติจากการเผชิญหน้ากับเหตุการณ์สะเทือนใจสามารถเกิดขึ้นได้ โดยทางการแพทย์เรียกสิ่งนี้ว่า Grief and Bereavement หรือภาวะโศกเศร้าหลังการสูญเสีย ซึ่งปกติแล้วเราล้วนมีภาวะความเสียใจหลังจากการสูญเสียคนรักกันอยู่แล้ว โดยอาการก็จะคล้ายกับอาการซึมเศร้าทั่วไป อาทิ นอนหลับยาก ไม่อยากพบปะผู้คน รับประทานอาหารได้น้อยลง หรือในบางรายอาจมีอาการโมโหและหงุดหงิดง่ายร่วมด้วย
ทว่าหากคนที่มีอาการโศกเศร้ารุนแรงจะแสดงพฤติกรรมที่ต่างออกไป เช่น รู้สึกผิดและโทษว่าการสูญเสียในครั้งนั้นเกิดจากตัวเอง มีความคิดที่อยากจะตายตามผู้เสียชีวิตไป คิดว่าตนเองไร้ค่าไร้หนทางเดินหน้าต่อ ไม่สามารถทำงานหรือเข้าสังคมได้ รวมถึงมีอาการเห็นประสาทหลอน เห็นหรือได้ยินเสียงผู้ที่ตายไปแล้วว่ายังคงอยู่
โดยกรณีการเห็นภาพหลอนนี้อาจถูกนำไปอ้างอิงใน MV เพลงกี่ฤดู เนื่องจากพฤติกรรมการเห็นภาพของลูกชายที่ตายไปแล้วยังคงใช้ชีวิตร่วมกับตนเอง แสดงให้เห็นถึงหัวใจที่บอบช้ำแสนสาหัส จนสมองต้องสร้างกลไกการป้องกันตนเองขึ้นมา เหมือนกับเนื้อเพลงในช่วงแรกที่กล่าวว่า “ร่างกายบอบช้ำ หัวใจเจ้ากรรมแสนระทมเจ็บ” ซึ่งสื่อถึงความเจ็บปวดทางใจ
ขณะที่ตัวละครหญิงสาวที่รับบทแม่ภายในเรื่อง แสดงความโศกเศร้าในรูปแบบที่ต่างออกไป จะเห็นได้ว่าในช่วงท้ายของเรื่องเธอตัดสินใจเดินลงน้ำหวังฆ่าตัวตาย ซึ่งสะท้อนถึงความเศร้าที่ต้องเห็นสามีจินตนาการถึงการมีอยู่ของลูกชายที่ตายไปแล้ว ถึงแม้เธอพยายามกลับมาใช้ชีวิตปกติ แต่ไม่สามารถทนรับบาดแผลทางใจที่เกิดขึ้นได้ จึงคิดว่าการตายตามลูกไปอาจเป็นหนทางเดียวที่เธอไม่ต้องทนเห็นภาพนี้อีก นี่ก็เป็นหนึ่งในอาการระยะยาวของภาวะ Grief and Bereavement เช่นกัน
ทว่าอย่างไรก็ตาม การที่สามีสติไม่ดีเข้าไปช่วยชีวิตภรรยาที่กำลังจะจมน้ำคล้ายกับการตายของลูกชาย เปรียบเสมือนภาพสะท้อนว่าสุดท้ายแล้ว ทุกการสูญเสียที่เกิดขึ้น คนที่ยังอยู่สำคัญกว่าเสมอ ถึงแม้จำต้องจากลากับคนรัก แต่ยังมีรุ่งเช้าของวันพรุ่งนี้ให้ยืนหยั่ดและเดินหน้าต่อ ความรักที่เคยมีต่อเขาคนนั้นจงเก็บไว้ในใจ ไม่ว่ากี่ฤดูมันจะไม่มีวันเลือนหายอย่างแน่นอน
CREATED BY
ไม่ชอบคนข้างล่าง
Graphic Designer
