คงไม่ต้องอธิบายกันมากกับความตลกร้าย ปั่นประสาท และยียวนชวนปวดหัวของแอนตี้ฮีโร่อย่าง ‘Deadpool’ หากคุณเป็นแฟน Marvel Comics หรือ Marvel Cinematic Universe (MCU) อยู่แล้ว เพราะตั้งแต่การปรากฏตัวครั้งแรกในภาพยนตร์ที่ฉายในปี 2016 Deadpool เป็นหนึ่งในตัวละครที่ได้รับการพูดถึงในแง่บวกมาตลอด ถึงแม้เนื้อเรื่องจะดาร์กอย่างกับหนังจากจักรวาล DC และบทพูดที่สบถด่าทุกห้าวินาทีจนถูกจัดอยู่ในเรท R แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า Deadpool เป็นภาพยนตร์ซุปเปอร์ฮีโร่ที่ถูกจับตามองมากที่สุด ถึงขั้นที่เจ้าตัวประกาศว่าตนเองเป็นศาสนา Marvel เลยทีเดียว
Deadpool & Wolverine ที่ออกฉายในปี 2024 ยังคงได้ผู้กำกับจากทั้งสองภาคก่อนอย่าง ชอว์น เลวี มารังสรรค์ความวายป่วงอีกเช่นเคย โดยเขาร่วมเขียนบทกับ ไรอัน เรย์โนลส์ ผู้รับบท Deadpool ซึ่งการันตีได้เลยว่าภาพยนตร์ในภาคนี้ยังคงคาร์แรกเตอร์หยาบโลนและจิกกัด ไม่ต่างจากสองภาคก่อนอย่างแน่นอน ถึงแม้ลิขสิทธิ์จะอยู่ในมือดิสนีย์ ค่ายหนังที่ขึ้นชื่อเรื่องความฟรุ้งฟริ้งไร้เลือดและคำหยาบ เพราะ Deadpool & Wolverine ถือเป็นหนังเรท R เรื่องแรกจากค่ายดิสนีย์ ที่ออกฉายในโรงภาพยนตร์อย่างเป็นทางการ
โดยเนื้อเรื่องในภาคนี้จะเป็นการเดินทางเพื่อกอบกู้จักรวาลของ Deadpool & Wolverine หลังจากที่องค์การกำกับสาขาเวลาอย่าง TVA ยื่นมือเข้ามารบกวนชีวิตอันแสนสุขของ Deadpool ทำให้เขาต้องลาก Wolverine ผู้ไม่รู้อีโหน่อีเหน่มาช่วย ซึ่งตลอดระยะเวลาการดำเนินเรื่องเราจะได้พบกับเซอร์ไพรส์มากมาย ซึ่งหากใครที่เป็นแฟน Marvel Comics และ MCU แนะนำให้ทุกคนไปดูก่อนที่จะมาพูดคุยกันในพารากราฟถัดไป เนื่องจากประเด็นที่เราจะหยิบยกขึ้นมาพูดคุยกันในครั้งนี้ มีการเปิดเผยเนื้อหาที่สำคัญภายในเรื่อง
The Void ตัวแทนของถังขยะแห่งความทรงจำ
ภายในเรื่องเราจะเห็นว่า Deadpool และ Wolverine ถูกส่งเข้าไปยังดินแดน The Void พื้นที่ที่เป็นจุดสิ้นสุดของเวลา ถิ่นพำนักสุดท้ายของเหล่าฮีโร่ที่ถูกกำจัดจากจักรวาลของตน ซึ่งที่นั่นเราจะเห็นเศษซากโลโก้ของ 20th Century Fox และเหล่าฮีโร่ที่ถูกพับโปรเจกต์ไปแล้วมากมาย โดยฉากนี้เราจะได้เห็น Cameo ตัวละครต่าง ๆ ที่หายหน้าหายตากันไปนานจากจอภาพยนตร์ ที่ชวนให้แฟนฮีโร่ Marvel หลายคน Nostalgia ไปตาม ๆ กัน ว่าครั้งหนึ่งเราเคยได้รับชมพวกเขาในฐานะฮีโร่ผู้ผดุงความยุติธรรม
Deadpool ตัวแทนของแฟนฮีโร่ที่ถูกลืมในจักรวาลหนัง 20th Century Fox
หากใครที่ได้ดู Deadpool & Wolverine แล้วคงจะทราบกันดีว่าเส้นเรื่องหลักนั้นไม่ได้มีอะไรแปลกใหม่ไปมากกว่าการกอบกู้โลกตามแบบฉบับหนังฮีโร่สูตรสำเร็จ ทว่าสิ่งที่ทำให้ Deadpool & Wolverine พิเศษมากกว่าหนังซุปเปอร์ฮีโร่ทั่วไปคือ การพาไปสำรวจเหล่า ‘ฮีโร่ที่เราคิดถึง’ ภายในเนื้อเรื่องจะเห็นได้ว่า Deadpool ไม่เพียงแค่ช่วยจักรวาลของตัวเอง แต่ยังช่วยฮีโร่คนอื่น ๆ ที่ติดอยู่ใน The Void ทั้ง Blade, Elektra, Gambit และ X-23 ด้วย จึงอาจกล่าวได้ว่า Deadpool เปรียบเสมือนแฟนฮีโร่ที่ถูกลืมในจักรวาลหนัง 20th Century Fox ที่อยากเห็นพวกเขาเฉิดฉายในฐานะซุปเปอร์ฮีโร่อีกครั้ง
Paradox ตัวแทนของ Marvel Studios กับการตัดสินใจครั้งยิ่งใหญ่
เป็นที่ทราบกันดีว่าก่อนหน้านี้ 20th Century Fox ถือลิขสิทธิ์ฮีโร่บางกลุ่มของ Marvel อาทิ X-Men, Fantastic Four และ Deadpool ทว่าเมื่อเดือนมีนาคม ปี 2019 ดิสนีย์เจ้าของ Marvel Studios เข้าซื้อกิจการ 20th Century Fox ทำให้สิทธิ์ในการใช้งานเนื้อเรื่องและตัวละครถูกโอนย้ายมายัง Marvel Studios แบบอัตโนมัติ และดูเหมือนว่าการคัดเลือกเรื่องหรือตัวละครที่จะถูกหยิบจับมาใช้ใน MCU เป็นเรื่องที่ต้องคิดกันไม่ตก สำหรับ Marvel Studios ว่าจะคัดเลือกเรื่องอะไรและคาแร็กเตอร์ใดกลับมาเล่า ซึ่งอาจส่งผลให้ต้องมีการตัดบางตัวละครออกไป
ไม่ต่างจากการกระทำของตัวร้ายภายในเรื่อง อย่าง Paradox ที่ต้องการทำลายจักรวาลที่ขาด Anchor Being ออกไปจากเส้นเวลา ที่ในความหมายแห่งโลกความเป็นจริงก็คือ ฮีโร่หรือจักรวาลที่ขาดความน่าสนใจและถูกหลงลืมไปแล้ว แต่ก็ได้เจ้า Deadpool ตัวแทนของแฟนแดนตายนี่แหละ มากอบกู้และช่วยเหลือเอาไว้บ้าง ทำให้เราอาจมีโอกาสได้เห็นฮีโร่ที่คิดถึงในวัยเด็กออกมาโลดแล่นบนจอภาพยนตร์อีกครั้ง
อย่างไรก็ตามนี่เป็นเพียงการตีความของผู้เขียนเท่านั้น ร้อยคนดูอาจได้รับร้อยความคิดพันความรู้สึก แต่จุดร่วมที่เหมือนกันคือการได้หวนคิดถึงเหล่าฮีโร่ที่หายหน้าหายตากันไป และเสพสมอารมณ์หมายกับความบ้าบิ่น จิกกัด และปากหมาของ Deadpool ซึ่งดูเหมือนว่าพลังพิเศษในการ Break the Fourth Wall ของเขา ส่งผลทั้งเนื้อเรื่องในภาพยนตร์ และความรู้สึกนึกคิดของผู้ชมในโลกแห่งความเป็นจริงแบบไม่มีอะไรต้องสงสัย